auto-thailand.com
หลังจากที่บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัว นิสสัน ซิลฟี ใหม่ อย่างเป็นทางการไปแล้วนั้นค่ายนิสสันก็ไม่ปล่อยให้กระแสความสนใจในนิสสัน ซิลฟี ใหม่ จืดจางไป โดยจัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ใหม่ โดยใช้เส้นทาง เชียงใหม่ - ลำพูน - เชียงใหม่ เพื่อให้ได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารกันแบบสบายๆ การทดสอบครั้งนี้มีนิสสัน ซิลฟี ใหม่ รุ่น 1.8 ลิตร จำนวน 10 คัน รอคณะสื่อมวลชนให้ได้ทดสอบสมรรถนะทั้งในระบบเครื่องยนต์ ช่วงล่าง การบังคับควบคุม ระบบส่งกำลังแบบ CVT รวมทั้งความสะดวกสบายในการเดินทางกันแบบครบถ้วน ช่วงทดสอบ นิสสัน ซิลฟี ใหม่ กับทีมงาน Auto-Thailand หลังจากทีมงาน Auto-Thailand และคณะสื่อมวลชนเดินทางถึงสนามบินจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้เวลาในการเริ่มกิจกรรมกันที่โชว์รูมนิสสัน นอร์ทเวฟ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการทดสอบ ก่อนออกเดินทางได้รับฟังบรรยายแนะนำผลิตภัณฑ์นิสสัน ซิลฟี ใหม่ พร้อมกับเส้นทางในการทดสอบ จึงเริ่มออกเดินทาง สำหรับการทดสอบรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ใหม่ จะมีผู้ร่วมทดสอบอีก 1 ท่าน พร้อมสัมภาระเล็กอีกน้อย เริ่มออกเดินทางจากโชว์รูมนิสสัน นอร์ทเวฟ เชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร โดยช่วงนี้ทีมงาน Auto-Thailand เราขอเป็นผู้โดยสารก่อน โดยให้น้องผู้ร่วมทดสอบจาก Autospinn ได้เป็นผู้ขับทดสอบก่อน โดยเส้นทางในช่วงแรกนี้ สภาพเส้นทางเป็นแบบไฮเวย์ พื้นราบทางตรง เพื่อให้ได้ทดสอบอัตราเร่ง และการทำงานของระบบเกียร์ CVT ช่วงแรกนี้ทีมงาน Auto-Thailand ก็ได้สัมผัสถึงความสะดวกสบายในนิสสัน ซิลฟี ใหม่ เนื่องจากเป็นผู้โดยสารจึงได้ลองข้ามไปนั่งโดยสารทางด้านหลัง ก็พบว่ามีความกว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ เรียกว่าถ้าเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่ หรือต้องนั่งโดยสารกัน 3 คน ก็ไม่อึดอัด ตัวเบาะออกแบบมาให้นั่งนุ่มกระชับไม่เมื่อยล้าในการเดินทาง หลังจากนั่งโดยสารอยู่สักพัก เราก็ข้ามกลับไปนั่งคู่กับผู้ขับขี่ เบาะนั่งก็ยังคงให้ความนุ่มสบายในสไตล์รถยนต์จากค่ายนิสสัน และการเดินทางในช่วงนี้ในฐานะที่เรานั่งโดยสาร พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ใหม่ รหัส MRA8DE ที่ให้แรงม้าสูงสุด 131 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตร ที่ 3600 รอบต่อนาที ส่งผ่านกำลังด้วยระบบเกียร์ XTRONIC CVT ทำงานได้อย่างนุ่มนวลในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่ราบเรียบ และเมื่อยามที่เราต้องการอัตราเร่งที่ปรู้ดปร้าดขึ้น หรือในตอนเร่งแซง ก็มีปุ่ม sport ให้เลือกใช้อยู่ที่บริเวณหัวเกียร์ อัตราเร่งเท่าที่รู้สึกจากการเป็นผู้โดยสารก็เพียบพอในการขับขี่ ถึงตรงนี้อาจจะมีหลายคนเอาแรงม้าของนิสสัน ซิลฟี ใหม่ ไปเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งต้องยอมรับว่านิสสัน ซิลฟี ใหม่ มีแรงม้าน้อยกว่า แต่มีแรงบิดเท่ากันแถมมาที่รอบต่ำกว่า จึงทำให้ขับขี่สบายไม่แตกต่างอะไร จากการสังเกตเมื่อเราใช้ความเร็วคงที่ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะพบว่ามีรอบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ไม่สูงนัก คือ อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2000 รอบ ซึ่งมองกันแบบคร่าวๆ นิสสัน ซิลฟี ใหม่ น่าจะมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ไม่สูงมานัก นี่ขนาดพวกเรากดตามกันมาด้วยความเร็ว เท่าที่สอบถามจากหลายคันอัตราเฉลี่ยที่หน้าปัดก็อยู่แถวๆ 11-12 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ถือเป็นตัวเลขที่ใช้ได้กับการขับขี่แบบนี้ ทีมงาน Auto-Thailand และคณะได้แวะสักการะขอพรจากพระธาตุหริภุญชัย หลังจากนั้นก็เดินทางต่อเพื่อไปรับประทานอาหาร ระยะทางประมาณ 64 กิโลเมตรโดยสภาพเส้นทาง 50 กิโลเมตรแรก เป็นทางตรง ทางคดเคี้ยว สลับขึ้นเขาเป็นบางช่วง โดยในช่วงนี้จะเน้นให้ได้ทดสอบอัตราเร่งกันอีกครั้ง และอีก 14 กิโลเมตรที่เหลือ ส่วนใหญ่จะเป็นทางคดโค้งขึ้นเขา เพื่อเน้นทดสอบการควบคุมพวงมาลัย และระบบช่วงล่าง จากการสอบถามความรู้สึกผู้ร่วมทดสอบของเราในช่วงนี้ ก็ให้ความเห็นว่าพวงมาลัยค่อนข้างเบา และไวไปนิด ส่วนความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับระบบช่วงล่างนั้น ด้วยความที่เป็นน้องใหม่ไฟแรง และเท่าที่คุยกันค่อนข้างจะชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ตจึงอยากได้ความหนึบมากกว่านี้ แต่สำหรับทีมงาน Auto-Thailand ความรู้สึกที่ได้จากการเป็นผู้โดยสารนั้น ก็ถือว่านั่งสบาย ให้ความมั่นใจ แม้ยามที่เล่นโค้งแรงๆ ก็ถือว่าออกอาการน้อย ยังอยู่ในการควบคุมได้ (หรือว่าทีมงานเราอายุมากแล้วก็ไม่รู้...เลยค่อนข้างชอบแบบนุ่มนวล) และเมื่อถึงที่หมาย รับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทีมงาน Auto-Thailand จะได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่นิสสัน ซิลฟี ใหม่ ด้วยตัวเองแล้ว หลังจากนั่งเป็นผู้โดยสารมาแบบสบายๆ ในช่วงแรก รับประทานอาหารเที่ยงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มออกเดินทางต่ออย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าช่วงนี้จะเป็นการสลับผู้ขับขี่ทดสอบ หลังจากปรับเบาะอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยก็พร้อมออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าสู่เขื่อนแม่งัด ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร สภาพเส้นทางในช่วงนี้ 14 กิโลเมตรแรก จะเป็นทางลงเขาคดโค้ง เพื่อให้ได้ทดสอบสมรรถนะของอัตราเร่ง การควบคุมพวงมาลัย และระบบช่วงล่าง เท่าที่ทีมงาน Auto-Thailand รู้สึกได้ สำหรับการมานั่งเป็นผู้ขับขี่นั้น เบาะนั่งให้ความกระชับ นั่งสบาย ตำแหน่งการนั่งสามารถหยิบจับใช้อุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก มุมมองทัศนวิสัยถือว่าน่าพอใจ การขับขี่ในช่วงนี้ เมื่อได้จับพวงมาลัยที่มีขนาดกำลังดี ให้ความรู้สึกเบาในการควบคุม ตรงนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณผู้หญิงในการขับขี่ แต่สำหรับเราแล้วคิดว่ามันเบาไปนิด จึงลองเพิ่มความเร็วในการเดินทางเพื่อจับความรู้สึกว่าจะปรับความหนืดของพวงมาลัยขึ้นอีกหรือเปล่า แต่เท่าที่สัมผัสได้นั้นแทบไม่แตกต่าง คือยังรู้สึกว่าเบาอยู่เหมือนเดิม แต่ต้องยอมรับว่าความรู้สึกนี้อาจเกิดจากการที่เรายังไม่คุ้นเคยกับรถ เพราะเป็นการใช้งานช่วงสั้นๆ ถ้าได้ใช้งานประจำ หรือปรับตัวเข้ากับรถแล้วละก็ อาการนี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ส่วนในการเดินทางอีก 36 กิโลเมตรถัดมา สภาพเส้นทางเป็นทางลงเขาคดโค้ง สลับทางตรง และทางราบ เพื่อเน้นทดสอบสมรรถนะช่วงล่างอีกเช่นกัน ก็ถือว่าทำได้น่าพอใจ เนื่องจากเราเริ่มจะคุ้นชินขึ้นมาบ้างกับการควบคุมพวงมาลัย ทำให้รู้จังหวะการขับขี่ มาถึงตอนนี้เรียกว่าสนุกกับการได้สัมผัสถึงสมรรถนะช่วงล่างที่ถือว่าให้ทั้งความนุ่มนวล เกาะหนึบ การซับแรงกระแทกได้น่าพอใจ เรียกว่ามั่นใจได้ทั้งในทางโค้งที่มีอาการโยนตัวน้อยมาก ตลอดการเดินทางเท่าที่สังเกตเสียงรบกวนจากภายนอกถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว แม้ใช้ความเร็วสูงก็ยังให้ความเงียบในระดับที่น่าพอใจ ทำให้เครื่องเสียงคุณภาพดีที่ให้มาในนิสสัน ซิลฟี ใหม่ สามารถสร้างความเพลิดเพลินในการเดินทางได้อย่างดี และเมื่อเดินทางถึงเขื่อนแม่งัด ซึ่งเป็นจุดแวะพักเพื่อถ่ายภาพสวยๆ ทำให้ทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาสสำรวจภายนอกกันแบบเต็มๆ หลังจากขับขี่กันมาระยะหนึ่งแล้ว นิสสัน ซิลฟี ใหม่ มาพร้อมกับรูปโฉมที่สะดุดตา ด้านหน้า ด้านข้างและด้านท้ายได้รับการออกแบบให้มีความสมดุลลงตัว โดยมีขนาดตัวถังใหญ่ กว้างขวางกว่ารถในระดับเดียวกัน จุดที่โดดเด่นที่สุดในด้านหน้าเห็นจะเป็นชุดไฟหน้าแบบ Multi-reflector พร้อมไฟ LED ในตำแหน่งไฟหรี่ และเมื่อเดินไปยังด้านท้ายรถก็จะพบกับชุดไฟท้าย LED ที่เพิ่มความหรูหรามีระดับให้กับนิสสัน ซิลฟี ใหม่ได้อย่างลงตัว ตามด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์พิเศษที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม เรียกว่าภายนอกของนิสสัน ซิลฟี ใหม่ จะออกแบบเน้นไปทางด้านความหรูหรา กว้างขวางเลยก็ว่าได้ แต่มีแอบติกับชุดไฟ LED ในตำแหน่งไฟหรี่ที่โคมไฟหน้า ในความเห็นส่วนตัวน่าจะทำเป็นไฟเดย์ไลน์มาเลย จะเพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาเพิ่มขึ้นไปอีก หลังจากชื่นชมบรรยากาศริมเขื่อนแม่งัดกันเต็มอิ่มแล้ว คณะทดสอบนิสสัน ซิลฟี ใหม่ ก็ออกเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่เวียงกุมกาม เมืองหลวงเก่าในสมัยก่อน โดยระยะทางในช่วงนี้ประมาณ 60 กิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นทางเรียบราดยางมุ่งหน้าสู่ตัวเมือง เพื่อให้สัมผัสสมรรถนะของระบบช่วงล่าง การควบคุมพวงมาลัย รวมถึงอัตราเร่ง และความคล่องตัวในการเดินทาง ซึ่งถือว่านิสสัน ซิลฟี ใหม่ สามารถทำได้น่าพอใจ การปรับเปลี่ยนเลน หรือแม้กระทั่งในยามที่ต้องเบรกกะทันหัน นิสสัน ซิลฟี ใหม่ ก็ยังให้ความมั่นใจได้ จากความรู้สึกที่แป้นเบรกนุ่มเท้าทำให้สามารถหยุดหรือชะลอความเร็วได้ดั่งใจ สำหรับช่วงที่เราได้วิ่งกันยาวๆ ที่ความเร็วคงที่ ทีมงาน Auto-Thailand นึกถึงออพชั่นตัวหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ นั่นก็คือ ระบบครูสคอนโทล หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งนิสสัน ซิลฟี ใหม่ ไม่มีมาให้ใช้งาน คงต้องรอการพัฒนากันในรุ่นต่อไป และในที่สุดเราก็เดินทางถึงเวียงกุมกาม เพื่อเยี่ยมชมเมืองเก่าที่ยังทิ้งภาพความเจริญในอดีตให้เราได้ศึกษาความเป็นมาของเวียงกุมกาม ก่อนจะย้ายมาตั้งเมืองหลวงเป็นเมืองเชียงใหม่ หลังจากนั้นเราก็เดินทางเข้าที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นอันเสร็จภารกิจในการทดสอบนิสสัน ซิลฟี ใหม่ ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ นิสสัน ซิลฟี ใหม่ เป็นรถยนต์นั่งที่ให้ความกว้างขวางทั้งภายนอก-ภายใน ห้องโดยสารที่เด่นด้วยความเงียบ สะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล พละกำลังจากเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรใหม่ ถึงแม้จะไม่ร้อนแรง แต่ก็เพียงพอที่จะให้ความสุนทรีย์ในการเดินทางไปกับคุณทุกที่ทุกเส้นทางได้อย่างสบาย ติดตามข้อมูลนิสสัน ซิลฟี ใหม่ ได้ที่นี่ https://www.auto-thailand.com/CarGallory/All-New-Nissan-Sylphy-2012.html
ฝากคลิก like ที่หน้า fanpage ด้วยนะค่ะ http://www.facebook.com/AutoThailandweb