auto-thailand.com
ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริปพาสื่อมวลชนร่วมเปิดประสบการณ์การขับขี่กับ Ford Everest ใหม่ (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่) รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง ด้วยขุมพลังใหม่เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ (Bi-turbo Diesel Engine) 213 แรงม้า ที่ 3750 รอบ แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1750-2000 รอบ และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้า ที่ 3500 รอบ แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 1750-2500 รอบ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ (Terrain Management System i4WD) ในรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส Ford Everest ใหม่ (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่) ในทริปนี้ที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้ทดลองขับมี 2 รุ่น คือ รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,799,000 บาท และรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,599,000 บาท Ford Everest ใหม่ (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่) รูปโฉมภายนอกจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กๆน้อย มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าแบบ HID ปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไฟเดย์ทามแบบ LED กันชนหน้าใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ ในรุ่น Titanium+ เป็นแบบ 6 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว ในรุ่น Titanium ใช้ขนาด ขนาด 18 นิ้ว และรุ่นเริ่มต้น Trend เป็นแบบ 6 ก้าน ขนาด 17 นิ้ว ประตูท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี เพียงใช้เท้ายื่นไปใต้ท้ายรถ ประตูท้ายก็จะเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ และในFord Everest ใหม่ (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่) จะสามารถสังเกตจากภายนอกว่าเป็นเครื่องยนต์รุ่นไหนจาก ป้ายโลโก้ตรงบริเวณซุ้มล้อรุ่นเทอร์โบเดี่ยวจะใช้คำว่า Everest ส่วนในรุ่นเทอร์โบคู่จะใช้คำว่า Bi-Turbo ที่เป็นรุ่น Top มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วย อีกระบบที่ทางฟอร์ดนำเสนอก็คือ ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ที่สามารถจดจำเสียงและสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยได้ ช่วยโทรออก ฟังเพลง หรือเรียกใช้เมนูอื่นๆ ได้ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน รวมทั้งยังรองรับ Apple Carplay และ Android Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง รวมทั้งระบบแผนที่นำทางโดยใช้สัญญาณจากดาวเทียม ที่เพิ่มความมั่นใจในการเดินทางในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หลังจากรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลตัวรถและเส้นทางในทริปนี้แล้ว ทีมงาน Auto-Thailand ก็พร้อมออกเดินทางด้วย Ford Everest ใหม่ รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด โดยมีผู้ร่วมเดินทางอีก 2 คน ความรู้สึกช่วงแรกของการทดลองขับ Ford Everest ใหม่ เทอร์โบเดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อ ระยะทางจากกรุงเทพถึงจุดพักเที่ยง เส้นทางส่วนใหญ่ในวันนี้จะเป็นเส้นทางเรียบ มีขึ้นลงเขาบ้าง ช่วงออกตัวก็สัมผัสได้ถึงพละกำลังที่ค่อนข้างทันใจ แต่ก็ไม่ถึงกับรวดเร็วนัก อัตราเร่งถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ลูกใหม่ที่ทำได้เรียบเนียนพอควร แต่ยังพอมีการต่อเกียร์ให้ได้รู้สึกบ้าง การปรับเปลี่ยนเกียร์ยังสามารถเลือกปรับเองที่หัวเกียร์ + - ตรงนี้ก็ต้องละมือซ้ายจากพวงมาลัยมากดปุ่ม ซึ่งจะสะดวกและปลอดภัยในการขับขี่กว่ามากถ้าจะให้เป็นแป้นแพดเดิลชิฟที่พวงมาลัยมาจะดีกว่า พวงมาลัยของ Ford Everest ใหม่ ให้น้ำหนักกำลังดี และจะมีน้ำหนักตึงมือขึ้นเมื่อขับขี่ใช้ความเร็วสูง ระบบช่วงล่างจะปรับเซตมาแบบค่อนข้างนุ่มสบายจนในบางเส้นทางที่เจอทางโค้งแคบๆซ้ายขวาก็พอจะมีอาการโคลงตัวบ้าง แต่ก็ยังหนึบโค้งใช้ได้ ความกว้างขวางในห้องโดยสารของ Ford Everest ใหม่ นอกจากความสะดวกสบายจากออพชั่นต่างๆแบบจัดเต็มแล้ว เรื่องงานประกอบและวัสดุโดยรวมถือว่าทำได้เรียบร้อยดูดี อาจจะมีตรงวัสดุพสาติกสีดำที่คอนโซลเกียร์ที่จะดูธรรมดาไปนิด ถ้าเปลี่ยนเป็นวัสดุดำเงา ดำด้าน หรือแบบอื่นๆจะดูลงตัวสมบูรณ์แบบกว่านี้ ในบางช่วงได้ลองไปนั่งที่เบาะโดยสารด้านหลัง ในเรื่องความกว้างขวางนั้นผ่าน การนั่งค่อนข้างสบายแต่ก็ยังไม่ค่อยชอบนัก แต่ฟอร์ดก็ให้ความสำคัญจัดช่องแอร์ให้เย็นสบายทั้งแถว 2 และ 3 และยังมีจุดเสียบชาร์จไฟมาแบบไม่ต้องแย่งกับใคร นั่งทำงานกับโน้ตบุคกันยาวๆไม่ต้องห่วงเรื่องแบตหมด เมื่อเดินทางถึงที่พักที่เขาค้อเป็นอันจบทริปกับการได้ทดลองขับ Ford Everest ใหม่ รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เริ่มวันใหม่ได้สลับมาทดลองขับ Ford Everest ใหม่ รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งวันนี้จะได้ขับในเส้นทางออฟโรดมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สภาพเส้นทางก็ถือว่าไม่โหดนัก Ford Everest ใหม่ รุ่นขับสองในขบวนเราก็สามารถขับขึ้นได้สบาย ขับลัดเลาะชมเส้นทางธรรมชาติระหว่างทางไปเรื่อยๆก็จะถึงจุดพักที่ทางฟอร์ดเตรียมไว้ สำหรับ Ford Everest ใหม่ รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีระบบ Terrain Management System (TMS) มีโหมดตั้งค่าการขับขี่ 4 แบบ คือ 1. พื้นผิวทั่วไป (Normal) 2. พื้นหิมะ/โคลน/หญ้า (Snow/Mud/Grass) 3. พื้นทราย (Sand) และ 4. พื้นหินขรุขระ (Rock) โดยแต่ละโหมดจะปรับเปลี่ยนการตั้งค่า อัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ และระบบควบคุมการเกาะถนน เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกสถานการณ์ ในกรณีที่ต้องเผชิญกับเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ผู้ขับขี่ก็สามารถเลือกปรับโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อที่อัตราทดรอบต่ำ (4x4 Low) เพื่อการควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งในบางช่วงที่ต้องลงเนินชัน ก็สามารถเลือกใช้ระบบ Hill Descent Control ก็เข้ามาช่วยควบคุมความเร็วของตัวรถ ช่วยให้การลงทางลาดชันของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนความรู้สึกในการทดลองขับ Ford Everest ใหม่ รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในถนนหลวงทั่วไปทางเรียบ อัตราเร่งจะให้ความรู้สึกมาในแบบต่อเนื่องตั้งแต่รอบต้นไหลไปเรื่อยๆจนรอบสูง ถ้าวัดจากความรู้สึกแล้วยังไม่ปรู้ดปร้าดอย่างใจคิด โดยในช่วงต้นส่วนตัวยังรู้สึกว่าตัวเทอร์โบเดี่ยวจะดีกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าขับกันยาวๆ ตัวเทอร์โบคู่จะไปได้ลื่นไหลกว่า ในช่วงขับขึ้นลงเขาหรือทางชัน จะสังเกตได้เลยว่าเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ของ Ford Everest ใหม่ จะมีการปรับเชนเกียร์ช่วยโดยเฉพาะการขับลงเขาหรือทางชัน ทำให้การขับขี่ทำได้มั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้เบรกมาก แต่สิ่งที่รู้สึกต่างกันชัดเจนของ Ford Everest ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ก็คือ เรื่องระบบช่วงล่างที่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะให้ความรู้สึกหนึบแน่นกว่า โดยเฉพาะในเส้นทางที่ผ่านโค้งเยอะ การขับขี่ทำได้ค่อนข้างนิ่ง อาการโคลงตัวน้อยกว่า ซึ่งแน่นนอนก็จะมาจากสมรรถนะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วย ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ จากการได้ทดลองขับ Ford Everest ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น โดยส่วนตัวชอบภาพรวมของรูปโฉมที่มีความเป็นเอสยูวี ออพชั่นต่างๆ มีมาแบบจัดเต็ม การขับขี่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะให้ความหนึบแน่นของระบบช่วงล่างและการควบคุมที่ดีกว่า แต่เรื่องพละกำลังรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เทอร์โบเดี่ยวจะตอบสนองดีกว่าในช่วงต้นไปกลางๆ แต่ถ้าช่วงปลายแล้วรุ่นเทอร์โบคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อจะรู้สึกไปได้ดีกว่า เอาเป็นว่าข้อมูลตรงนี้น่าจะเป็นเบื้องตัน ยังไงก็ต้องไปทดลองขับ Ford Everest ใหม่ ตัวจริงกันเองจะดีที่สุด รับรองว่าตัดสินใจไม่ยากหรอกครับ ว่าจะเลือกรุ่นไหน....