หลังจากที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาศเดินทางไปร่วมทดสอบ Honda Accord ใหม่ ที่สหรัฐอเมริกาไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งในครั้งนั้นรถที่ได้ทดลองขับจะเป็นสเปกที่ขายในสหรัฐอเมริกาที่มีออพชั่นรายเอียดต่างๆหลายส่วนที่ไม่เหมือนกับตัวที่ผลิตบ้านเรา และในครั้งนี้ทีมงานเราก็ได้มาทดลองขับ Honda Accord ใหม่ รุ่น 1.5 Di Vtec TURBO EL ที่ผลิตและขายในบ้านเรากันอีกครั้ง
สำหรับ Honda Accord ใหม่ มีด้วยกัน 3 รุ่น คือ รุ่นเริ่มต้น 1.5 Di Vtec TURBO EL ที่เราได้มาทดลองขับ และอีก 2 รุ่น คือ รุ่น HYBRID และ HYBRID TECH ที่ตอนนี้ยังไม่ส่งมอบรถ จากการสอบถามน่าจะช่วง ก.ค.62 ซึ่งเมื่อมีรถให้ลองเราจะมาลองขับกันอีกรอบ
Honda Accord ใหม่ มาพร้อมรูปโฉมที่ใหม่หมดทั้งคัน ภาพรวมถือว่ามีความทันสมัยปราดเปรียวมากขึ้น ซึ่งฮอนด้าออกแบบมาเพื่อเน้นกลุ่มเป้าหมายจับกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ด้วยมิติตัวถังค่อนข้างใหญ่ มีความยาว 4,894 มิลลิเมตร กว้าง 1,862 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,830 มิลลิเมตร ระยะห่างของล้อหน้าและล้อหลัง 1,600/1,610.2 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 131.3 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถ 1,464 กิโลกรัม เมื่อดูจากตัวเลขก็จะเห็นว่ามีความกว้างใหญ่กว่าคู่แข่งเล็กน้อย แต่ตัวรถออกแบบมาให้เตี้ยกว่า
Honda Accord ใหม่ ใช้เทคโนโลยี Laser Blaze ในการออกแบบตัวถัง เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคารถและตัวถังที่ให้ความสวยงามเรียบร้อยพร้อมความแข็งแรงของตัวถังมากขึ้น และยังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ น้ำหนักตัวถังเบาลง รวมถึงการออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทที่มีปีกนกด้านหน้าใหม่จากเดิมแบบรูปทรงตัว A เปลี่ยนเป็นรูปทรง L และปรับช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลงใหม่ด้วย
Honda Accord ใหม่ ยังเน้นเรื่องการเก็บเสียงให้ห้องโดยสารมีความเงียบกว่าเดิมด้วยการฉีดโฟมเก็บเสียงตามส่วนชิ้นส่วนต่างๆกว่า 10 จุด และติดตั้งระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร ANC ที่สามารถลดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี
Honda Accord 1.5 Di Vtec TURBO EL มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ไดเร็คอินเจ็คชั่น 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC TURBO บล็อกเดียวกับ Honda Civic แต่มีการปรับรายละเอียดในบางจุดทั้งเครื่องและระบบเกียร์ ไม่ว่าจะเป็น ฝาสูบ เทอร์โบตัวใหญ่กว่า แรงดันบูสท์มากกว่า รวมถึงการปรับจูนกล่องที่ไม่เหมือนใน Honda Civic ทำได้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร ที่ 1,500-5,500 รอบ (แรงม้ามากว่า 17 ตัว แรงบิดมากว่า 23 นิวตันเมตรเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ Honda Civic) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Paddle Shift สำหรับปรับเปลี่ยนเกียร์ และเครื่องยนต์ตัวนี้ยังสามารถรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย
ช่วงทดสอบ Honda Accord 1.5 Di Vtec TURBO EL
กับทีมงาน Auto-Thailand
การทดสอบ Honda Accord ใหม่ ครั้งนี้จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มต้นที่โรงแรมหรูในตัวเมืองวิ่งออกนอกเมือง แล้วกลับรถมายังจุดแวะพักที่ปั้มปตท. เพื่อสลับผู้ขับขี่ โดยจะมีผู้ร่วมทดสอบอีกหนึ่งท่านกับระยะทางที่ได้ขับคนละประมาณ 80 กว่ากิโลเมตรที่ถือว่าไม่ไกลนัก แต่เส้นทางนั้นมีครบทั้งทางตรงในทางราบ ทางโค้งขึ้นลงเข้า
ทีมงาน Auto-Thailand ได้เริ่มทดสอบไม้แรก สัมผัสแรกกับ Honda Accord ใหม่ รูปโฉมภายนอกก็ถือว่ามีความทันสมัยปราดเปรียวมากขึ้น ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารในตำแหน่งผู้ขับขี่ เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง และยังมีระบบเลื่อนถอยหลังให้อัตโนมัติเวลาลงจากรถมาให้ด้วย ส่วนเบาะผู้นั่งโดยสารหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง พวงมาลัยเป็นแบบปรับมือยังไม่มีระบบปรับไฟฟ้ามาให้ ขนาดวงพวงมาลัยกำลังดี มีปุ่มควบคุมและสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆมาให้ใช้งานได้สะดวก รวมถึงมีแป้น Paddle Shift สำหรับปรับเปลี่ยนเกียร์มาให้ด้วย
สำหรับการนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ใน Honda Accord ใหม่ จะถูกออกแบบมาต่ำกว่าเดิม เพื่อเน้นความสปอร์ตในการขับขี่อารมณ์เดียวกับ Honda Civic แต่ก็มีความนุ่มสบายหรูหรากว่า ถึงแม้ว่าการตกแต่งบางส่วนจะใช้พลาสติกมากไปสักนิดในรุ่นนี้ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าพอดูสมราคาอยู่บ้าง
ความรู้สึกในการทดลองขับ พละกำลังจากเครื่องยนต์ 1.5 Di Vtec TURBO ตัวนี้ถือว่ามีมาให้ใช้งานกันแบบสบายๆ เรียกว่าดีกว่าที่หลายคนกังวลว่าจะอืดไหม เพราะถึงแม้จะเป็นเครื่องบล็อกเดียวกับที่วางใน Honda Civic แต่มีการปรับชิ้นส่วน ปรับจูนใหม่ที่สามารถให้กำลัง 190 แรงม้า โดยในช่วงออกตัวอาจจะไม่รู้สึกปรูดปร้าดจากตัวถังรถที่กว้างใหญ่กว่า แต่เมื่อออกตัวแล้วก็สามารถสัมผัสถึงพละกำลังที่มีมาให้แบบเหลือเฟือ ให้ความคล่องตัวในการขับขี่เหมือนรถเล็กถึงแม้ตัวรถจะค่อนข้างยาว
การขับขี่ทำได้เรียบเนียนถึงแม้จะเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งทำได้ดีกว่าเดิม น่าจะมาจากการปรับเซตที่ลงตัว และพละกำลังและแรงบิดที่มาในรอบที่กว้างกว่า (1,500-5,500 รอบ) โดยยังสามารถเลือกใช้โหมด Sport ในการขับขี่ที่จะสามารถขับเล่นรอบเครื่องยนต์ได้มากขึ้น ขับสนุกขึ้น ส่วนเมื่อต้องการขับขี่เดินทางแบบเรื่อยๆเน้นความประหยัดก็สามารถใช้ ECON MODE ที่จะหน่วงคันเร่งให้ตอบสนองช้าลง รวมถึงปรับการทำงานของระบบแอร์เพื่อเน้นความประหยัดสูงสุด
และเมื่อต้องการสนุกกับการขับขี่เล่นเกียร์จากแป้น Paddle Shift ต้องบอกเลยว่าพละกำลังของเครื่องยนต์สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสนุกและต่อเนื่องโดยเฉพาะในการขับขี่ในโหมด Sport สามารถเพิ่มลดเกียร์ได้ตามต้องการ
ด้านการควบคุมพวงมาลัยของ Honda Accord ใหม่ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ค่อนข้างชอบ เพราะส่วนตัวจะชอบรถที่พวงมาลัยค่อนข้างหนึบตึงมือเวลาขับขี่ด้วยความเร็ว ซึ่งพวงมาลัยของ Honda Accord ใหม่ก็ทำได้น่าพอใจ โดยในช่วงขับช้าๆ พวงมาลัยจะมีน้ำหนักค่อนข้างเบา แต่เมื่อขับใช้ความเร็วมากขึ้นก็ปรับให้มีน้ำหนักหนึบตึงมือแบบรู้สึกได้ชัดเจน แต่ยังคงมีความแม่นยำ ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ
หน้าปัดใหม่ของ Honda Accord ใหม่ จะเป็นแบบอนาล็อกแบบเข็มไมล์แสดงความเร็วในฝั่งขวามือ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นจอแบบ TFT สามารถแสดงผลข้อมูลต่างๆได้ครบ แต่จะค่อนข้างมองยากในบางเมนูที่ดูจะเบียดๆกันไปหน่อย ซึ่งหน้าปัดตัวนี้จะเป็นตัวที่ทำเผื่อในรุ่น Hybrid จึงทำให้ระหว่างกลางของไมล์ฝั่งซ้ายขวาจะเป็นพื้นที่ว่างไป แต่ตรงนี้ก็จะมีสีสันเล็กน้อยๆ เมื่อเราใช้งานในโหมด Sport หน้าจอก็จะปรับเป็นโทนแดงให้อารมณ์ความสปอร์ตในการขับขี่เพิ่มขึ้น
ช่วงล่างของ Honda Accord ใหม่ รุ่น Turbo นี้จะปรับเซตมาค่อนข้างนุ่มหนึบกว่าเดิม เรียกว่าขับขี่ด้วยความเร็ว ขึ้นลงเขา เจอทางคดโค้งก็สามารถขับได้อย่างมั่นใจ ตัวรถค่อนข้างนิ่งกว่า แต่ตรงนี้บางคนอาจจะรู้สึกกระด้างไปบ้างก็ได้ รวมถึงระบบเบรกที่ให้น้ำหนักเบรกชลอลดความเร็วได้ตามสั่ง แม้ขับขี่มาด้วยความเร็ว ช่วยให้มั่นใจในการขับขี่มากขึ้น
เมื่อถึงจุดแวะพักจึงได้เปลี่ยนมาเป็นผู้โดยสาร ซึ่งแน่นอนครับ เราขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังของ Honda Accord ใหม่ ความรู้สึกแรกเลยที่สัมผัสได้ก็คือ ความกว้างขวางของห้องโดยสารด้านหลัง ตัวเบาะหลังนั่งสบาย พนักพิงเบาะหลังมีองศากำลังดี ไม่สามารถปรับเอนได้ พื้นที่วางขากว้างเหลือเฝือ พื้นที่เหนือศรีษะก็เพียงพอสำหรับคนรูปร่างใหญ่นั่งได้แบบสบาย ที่ห้องโดยสารด้านหลังจะมีช่องแอร์มาให้ แต่ไม่มีช่องจ่ายไฟมาให้ และการพับเบาะหลังนั้นไม่ค่อยสะดวกจะต้องไปเปิดฝากระโปรงหลังเพื่อดึงที่ปลดล็อก แล้วกลับเข้ามาในห้องโดยสารเพื่อพับเบาะ ซึ่งพับได้ทั้งเบาะแบบเดียว ไม่สามารถพับแยกส่วนได้
อีกเรื่องที่น่าจะเป็นจุดเด่นที่ทำได้น่าประทับใจก็คือ เรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสารนั้นทำได้ดี จากการฉีดโฟมเก็บเสียงตามส่วนชิ้นส่วนต่างๆกว่า 10 จุด และติดตั้งระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร ANC ซึ่งทำให้การโดยสารสะดวกสบายมากขึ้น ขับขี่ทำความเร็วเสียงรบกวนจากภายนอกจะเริ่มได้ยินที่ความเร็วเกินกว่า 130 กม./ชม.
สิ่งที่อยากให้มีหรือปรับเพิ่มใน Honda Accord ใหม่ 1.5 Di Vtec TURBO EL รุ่นนี้ก็คือ
- ระบบช่วยการขับขี่ Honda Sensing ที่ไม่มีมาให้ในรุ่นนี้ จะมีติดตั้งมาในรุ่น Hybrid ขึ้นไป
- กระจกมองหลังไม่เป็นแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ยังต้องใช้มือผลักปรับตัวกระจกเอง
- เพิ่มช่องจ่ายไฟที่ห้องโดยสารด้านหลัง
- เพิ่มม่านบังแดดที่ห้องโดยสารด้านหลัง (คู่แข่งมีมาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น)
- การปรับพับเบาะหลัง น่าจะเป็นแบบแยกส่วน ควรปรับง่ายและสะดวกกว่านี้
- เพิ่มเซ็นเซอร์ถอยจอด เพราะในช่วงที่ทดสอบมีฝนตกทำให้ละอองฝนและฝุ่นมาเกาะที่ตัวกล้องทำให้ภาพจากกล้องไม่ชัดเจน
ในระหว่างทดลองขับ Honda Accord 1.5 Di Vtec TURBO EL ได้สังเกตรอบการทำงานของเครื่องยนต์ในโหมด D ที่ความเร็ว 90 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,500 รอบ ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,800 รอบ ความเร็ว 120 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 2,100 รอบ เรื่องอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 12 กิโลลิตร กับความเร็วใช้งาน 100-120 กม./ชม. และมีบางช่วงทดลองอัตราเร่งที่ใช้ความเร็วเกินกว่านี้ โดยทางฮอนด้าใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ในการทดลองขับครั้งนี้
นอกจากนี้ยังได้ทดลองใช้อุปกรณ์ PerformanceBox วัดอัตราเร่งของ Honda Accord 1.5 Di Vtec TURBO EL ได้ข้อมูลดังนี้
โหมด D
0-40 กม./ชม. ทำได้ 3.0 วินาที
0-50 กม./ชม. ทำได้ 3.8 วินาที
0-60 กม./ชม. ทำได้ 4.6 วินาที
50-70 กม./ชม. ทำได้ 1.8 วินาที
80-120 กม./ชม. ทำได้ 6.1 วินาที
0-100 กม./ชม. ทำได้ 9.6 วินาที
โหมด Sport
0-40 กม./ชม. ทำได้ 3.0 วินาที
0-50 กม./ชม. ทำได้ 3.8 วินาที
0-60 กม./ชม. ทำได้ 4.6 วินาที
50-70 กม./ชม. ทำได้ 1.7 วินาที
80-120 กม./ชม. ทำได้ 6.1 วินาที
0-100 กม./ชม. ทำได้ 9.6 วินาที
ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ จากการได้มาทดลองขับ Honda Accord 1.5 Di Vtec TURBO EL ครั้งนี้กับรถยนต์ที่ผลิตและขายในบ้านเรา ต้องถือว่าเป็นรถที่ขับได้สนุกกว่าที่คิดไว้ เครื่องยนต์บล็อกนี้เพียงพอกับการใช้งานกับรถตัวถังใหญ่แบบนี้สบาย การปรับเซตทำได้ลงตัว ให้อัตราเร่งการขับขี่ได้ดีกว่ารถยนต์ระบบเกียร์ CVT รุ่นอื่นๆที่ผ่านมา ช่วงล่างมีความนุ่มหนึบ นั่งสบาย เรียกว่าเรื่องสมรรถนะตัวรถถือว่าผ่าน แต่เมื่อมาดูเรื่องออพชั่นหลายๆตัวที่ไม่มีมาให้ในรุ่นนี้กับราคาค่าตัวในรุ่นเริ่มต้นระดับ 1,475,000 บาท ก็คงต้องอาศัยความชอบในรูปโฉมตัวรถรวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ถือว่าทำได้น่าประทับใจมาเป็นตัวทำให้มองข้ามเรื่องราคาค่าตัวไป Honda Accord 1.5 Di Vtec TURBO EL ก็เป็นตัวเลือกของรถในกลุ่มนี้ที่ขับสนุกและไม่ควรมองข้ามอีกคันเลยครับ...