เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม “Mercedes-Benz Star Charity #stardrive #suv”การทดสอบสมรรถนะเอสยูวีสุดหรูในแบบคาราวานกว่า 15 คัน เส้นทางกรุงเทพฯ-พังงา พร้อมร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่โรงเรียนเยาววิทย์ จ.พังงา วันแรกกับการเดินทางกรุงเทพฯ - จ.ชุมพร เริ่มต้นกิจกรรมที่โรงแรม MODE Sathorn ด้วยรถเอสยูวีสุดหรู Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC กับผู้ร่วมเดินทางอีก 1 ท่าน โดยรูปโฉมภายนอกนั้นให้ความโฉบเฉี่ยวกับชุดแต่ง AMG ส่วนภายในก็มาพร้อมความสะดวกสบายกว้างขวางพอตัวกับออพชั่นและวัสดุตกแต่งคุณภาพดี Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 2,143 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 -1,800 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ แบบ 9G-TRONIC ความรู้สึกในช่วงที่เป็นผู้ขับขี่นั้น ถือว่าเป็นรถที่ขับง่ายให้ความคล่องตัว ทั้งจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่สามารถเรียกพละกำลังออกมาใช้งานได้ทันใจ เมื่อรวมกับระบบช่วงล่างที่ปรับเซตมาแบบกึ่งสปอร์ตที่ให้ทั้งสมรรถนะการยึดเกาะถนน แต่ในการนั่งโดยสารก็สามารถให้ความนุ่มนวลสะดวกสบายในการเดินทาง โดยการเดินทางครั้งนี้ต้องบอกว่าใช้ความเร็วค่อนข้างสูงตลอดทางก็สามารถให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้แบบสบายๆ เมื่อถึงจุดพักจึงได้เปลี่ยนมาทดลองขับขี่ Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC รถเอสยูวีสุดหรูด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดรุ่น Top สุด ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่กว้างใหญ่สไตล์เอสยูวี เสริมหล่อด้วยชุดแต่ง AMG ให้ความหรูหราลงตัว เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารที่กว้างขวางกับออพชั่นการตกแต่งแบบจัดเต็ม อาทิ หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทางจาก Harman Kardon ชุดใหญ่ และระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC พร้อมระบบความปลอดภัยและช่วยการขับขี่ครบครัน Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุ 2,996 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า ที่ 5,250-6,000 รอบ แรงบิด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,000 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS แบบ DIRECT SELECT พร้อมด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 8.7 กิโลวัตต์ น้ำหนักประมาณ 114 กก. ไว้ที่ใต้เพลาขับด้านหลังซึ่งมีระบบหล่อเย็นจากน้ำและฝาป้องกันการกระแทกที่ผลิตจากแผ่นโลหะปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง โดยแบตเตอรี่ชาร์ตไฟให้เต็มได้ภายในเวลาประมาณ 4 ชม.สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือ EV เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 30 กม. ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 130 กม./ชม. ตัวเลขที่เคลมจากโรงงานสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. สำหรับความรู้สึกช่วงแรกต้องพยายามปรับตัวกะระยะกับตัวรถที่ใหญ่ หลังจากพอคุ้นชินบางแล้ว อยากบอกว่า Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC เป็นรถที่ขับขี่ง่าย ถึงแม้น้ำหนักและขนาดตัวรถจะใหญ่ แต่ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่สามารถให้พละกำลังอัตราเร่งออกมาใช้งานได้แบบรวดเร็วทันใจ จนบางครั้งเผลอคิดว่ากำลังขับรถสปอร์ตคันเล็กๆที่ให้ความคล่องตัวมุดซ้ายขวาได้ไม่ต่างกันเลยก็ว่าได้ ส่วนการบังคับควบคุมการขับขี่ ระบบช่วงล่างก็ให้ความมั่นใจได้ทุกรอบความเร็ว และยิ่งขับขี่ในโหมด Sport+ ทั้งอัตราเร่ง น้ำหนักพวงมาลัย ระบบช่วงล่างสามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีกว่าเดิมขึ้นไปอีก แต่จากการขับขี่เค้นอัตราเร่งแบบนี้ก็ต้องยอมแลกกับอัตราความสิ้นเปลืองที่อยู่แถว 10 กิโลลิตร ที่ทั่วไปอาจจะมองว่ามากไปสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับรุ่นเดิมๆ เรียกว่าดีกว่าชัดเจน วันที่ 2 ของการเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.กระบี่ วันนี้เราได้รถทดสอบเป็น Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC โดยเส้นทางส่วนใหญ่จะค่อนข้างตรง จะมีโค้งเนินชันบาง ซึ่งก็ถือว่าให้การขับขี่ได้น่าพอใจ โดยมีบางช่วงที่ทางตรงยาวๆได้ทดลองขับขี่ที่ความเร็วสูง ก็ยังให้ความมั่นใจได้ว่าสามารถคุมอยู่ถึงแม้ว่าจะต้องใช้สมาธิในการขับขี่เพิ่มขึ้น โดยความเร็วปลายกว่า 200 กม./ชม.สามารถทำได้แบบไม่ต้องรอนาน วันที่ 3 ของการเดินทางกับเส้นทาง จ.กระบี่-โรงเรียนเยาววิทย์ จ.พังงา- จ.กระบี่ สภาพเส้นทางในวันนี้จะมีทั้งทางราบทั่วไป ขึ้นลงเขาลงต่อเนื่อง โดยวันนี้เราได้รถทดสอบเป็น Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC แต่เป็นรุ่นรอง Top ที่แตกต่างกันที่ออพชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ และไม่มีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ส่วนระบบเครื่องยนต์และระบบความปลอดภัยยังคงจัดเต็มเท่าเดิม จึงทำให้การขับขี่ผ่านเส้นทางต่างๆในทุกสภาพการเดินทางถึงจุดหมาย พร้อมทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่โรงเรียนเยาววิทย์ จ.พังงา ร่วมกับเด็กนักเรียนปลูกพริกไทยจำนวน 100 ต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการด้านการเกษตรที่จัดขึ้นเพื่อให้สามารถนำความรู้ประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว และครั้งนี้ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังได้มอบเงินสนับสนุนทางการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนอีกด้วย ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ สำหรับการเดินทางกับกิจกรรม “Mercedes-Benz Star Charity #stardrive #suv” ครั้งนี้ นอกจากได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม ยังได้สัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่เอสยูวีสุดหรูในเส้นทางยาวๆ เรียกว่าถ้าต้องการความคล่องตัว อัตราเร่งดีลองดูกับ Mercedes-Benz GLC 250 d 4MATIC แต่ถ้าอยากได้ความหรูหรา สมรรถนะดี กว้างขวาง ออพชั่นเต็มแต่จ่ายแพงกว่าก็เลือก Mercedes-Benz GLE 500 e 4MATIC เอาเป็นว่าสามารถเลือกให้ตรงกับการใช้งานได้ตามงบตามราคากันได้เลยครับ