บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำภาพความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าจัดกิจกรรมทดสอบสมรรถนะยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด “Mercedes-Benz E350e” พร้อมด้วยยนตกรรมรุ่นอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz” ครบทั้งพอร์ทโฟลิโอเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จำนวนรวม 12 รุ่น ในเส้นทางกรุงเทพฯ – พังงา
พร้อมมอบเงินสนับสนุนทางการศึกษาและอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ต่อยอดมาจากกิจกรรมจัดทำชุดเครื่องเขียนเพื่อเด็กนักเรียนผู้ยากไร้ที่จัดขึ้นที่ “เมอร์เซเดส มี บ็อกซ์” เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนเยาววิทย์ จ.พังงา เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 11 ปี
สำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใช้ในการเดินทางทดสอบครั้งนี้ จะเป็นยนตกรรมในกลุ่มปลั๊กอินไฮบริดรุ่นต่างๆ ของเมอร์เซเดสเบนซ์แบบครบรุ่น โดยไฮไลต์จะอยู่ที่ Mercedes-Benz E350e รุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ ที่เพิ่งเปิดตัว ส่วนรุ่นอื่นๆก็มีมาให้สลับสับเปลี่ยนกันทดลองขับ อาทิ Mercedes-Benz C350e,Mercedes-Benz S500e,Mercedes-Benz GLE500e เรียกว่าได้ทดลองขับกันเต็มอิ่มกับระยะทางยาวๆถึงจ.พังงา
Mercedes-Benz E350e ใหม่ เป็นรถยนต์ซีดานระดับพรีเมี่ยมรุ่นหนึ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องยนต์ไฮบริด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มาพร้อมภาพลักษณ์อันหรูหราของรถยนต์ตระกูลอี-คลาส โดยมีให้เลือก 3 ออพชั่น คือ Avantgarde, Exclusive และ AMG Dynamic
ภายนอกของ Mercedes-Benz E350e ใหม่ ในรุ่น Avantgarde มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED High Performance ส่วนรุ่น Exclusive และ AMG Dynamic มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS – Intelligent Light System), ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS – Active Light System), ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus)
โดยรุ่น AMG Dynamic จะเพิ่มความพิเศษด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า
-(1).jpg)
-(10).jpg)
-(4).jpg)
-(4).jpg)
-(6).jpg)
-(1).jpg)
ภายในของ Mercedes-Benz E350e ใหม่ ออกแบบห้องโดยสารให้ดูกว้างขวาง ตกแต่งเน้นวัสดุคณภาพสูงให้ความหรูหราและร่วมสมัย เบาะที่นั่งตอนหลังออกแบบให้สามารถพับลงแบบ 1/3 และ 2/3 เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ สำหรับรุ่น Avantgarde และ Exclusive ภายในได้รับการตกแต่งเน้นความหรูหรา มาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง nappa ในขณะที่รุ่น AMG Dynamic จะมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง nappa
สำหรับรุ่น Exclusive และ AMG Dynamic จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit และพิเศษสำหรับรุ่น AMG Dynamic จะมาพร้อมกับระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up Display) และระบบเครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยมจาก Burmester นอกจากนี้ ระบบไฟในห้องโดยสารยังสามารถปรับสีได้ถึง 64 เฉดสีอีกด้วย
ระบบความปลอดภัยก็เป็นอีกออพชั่นที่จัดเต็มมาใน Mercedes-Benz E350e ใหม่ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging for mobile phone) โดยในรุ่น Avantgarde จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ในขณะที่รุ่น Exclusive และ AMG Dynamic จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพ รอบทิศทาง รวมถึงระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) เป็นต้น
-(9).jpg)
Mercedes-Benz E350e ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน รหัส M274 DE 20 AL 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1,991 ซีซี ให้กำลังสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ และกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 440 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC PLUS) พร้อมแป้นแพดเดิลชิฟระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

ช่วงทดสอบ Mercedes-Benz E350e ใหม่
กับทีมงาน Auto-Thailand
สำหรับการเดินทางทดสอบสมรรถนะยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ครั้งนี้ เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพ โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.พังงา โดยมีจุดแวะพักแรกที่หัวหิน ซึ่งนอกจากจะได้ทดลองขับรถยนต์ Mercedes-Benz แล้วยังได้ร่วมกิจกรรมเพื่อเยาวชนที่โรงเรียนเยาววิทย์ จ.พังงา ที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง
ความรู้สึกที่ได้ทีโอกาสทดลองขับ Mercedes-Benz E350e ใหม่ รถยนต์รุ่นไฮไลต์ของทริปนี้ นอกจากความกว้างขวางสะดวกสบายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งคู่หน้าที่ให้ความสบายปรับด้วยไฟฟ้า การขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่รวดเร็วจากพละกำลังของเครื่องยนต์เบนซินที่ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าในโหมด Hybrid ที่จะทำงานสลับกันและพร้อมกันเมื่อต้องการอัตราเร่งแบบรวดเร็ว ส่วนในโหมด E-Mode หรือใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว ซึ่งก็ให้อัตราเร่งที่น่าประทับใจ รวมถึงความเงียบและไม่มีมลพิษจากท่อไอเสียเลย โดยสามารถใช้งานโหมดนี้ทำความเร็วได้ถึงประมาณ 130 กม./ชม.เครื่องยนต์จึงจะติด และยังสามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 33 กม.เมื่อแบตเตอรี่ในระบบไฮบริดเต็ม ซึ่งเท่าที่ทดลองขับ Mercedes-Benz E350e สามารถใช้งานได้ตัวเลขใกล้เคียงตามที่เคลมมาจากโรงงาน
ส่วนเมื่อแบตเตอรี่ระบบไฮบริดเหลือน้อย การชาร์จไฟเข้าไปก็จะสามารถทำได้ในช่วงที่ขับขี่ทั่วไป แต่ก็สามารถใช้โหมด E-charge ชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่แบบรวดเร็วได้ โดยต้องใช้การขับขี่ด้วยความเร็วสักหน่อย ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมดเป็นกรณีต้องขับรถยนต์เดินทางตลอด แต่ถ้าขับถึงบ้านแล้วก็สามารถใช้การเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการชาร์จไฟได้เต็มแบตเตอรี่ระบบไฮบริด
นอกจากพละกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้ความประทับใจในการขับขี่แล้ว ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC PLUS) ตัวใหม่ที่ถูกติดตั้งมาใน Mercedes-Benz E350e ก็สามารถทำงานได้อย่างเรียบเนียน ส่งกำลังได้อย่างรวดเร็วทันใจ ที่สำคัญยังช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้อีกด้วย
-(7).jpg)


.jpg)
การทดลองขับ Mercedes-Benz E350e ใหม่ ให้ความมั่นใจจากพวงมาลัยที่ค่อนข้างเบา แต่ก็สามารถควบคุมรถได้ทุกย่านความเร็ว รวมถึงระบบช่วงล่างที่ให้ความนุ่มหนึบ ตามการปรับตั้งซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งในโหมด Comfort, Eco, Sport และ Sport+ ที่นอกจากจะปรับน้ำหนักพวงมาลัย การตอบสนองอัตราเร่งของเครื่องยนต์ตามโหมดที่เลือกแล้ว ระบบช่วงล่างก็ปรับความนุ่มหนึบตามไปด้วยแบบพอรู้สึกได้ และในการเดินทางช่วงนี้จะเจอกับสภาพฝนตกเกือบตลอด ซึ่ง Mercedes-Benz E350e ก็ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจโดยเราเปิดใช้งานระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) ที่สามารถทำงานได้ไม่ผิดเพี้ยนแม้ในช่วงที่ฝนตกแรงช่วยลดความเครียดในการขับขี่ลงได้
และในช่วงที่มีโอกาสเปลี่ยนมานั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังนั้น ก็เรียกว่าตัวเบาะหลังนั่งได้สบาย มีพื้นที่กว้างขวางพอประมาณ รวมถึงความรู้สึกในการนั่งโดยสารที่นุ่ม ไม่ว่าจะเป็นช่วงทางที่ขุขระช่วงล่างก็สามารถช่วยซับแรงไว้ได้เยอะ
ในเรื่องของอัตราเร่งของ Mercedes-Benz E350e ใหม่ ช่วงที่ได้มีโอกาสทดลองขับในทางตรงยาว จึงได้ลองทดสอบอัตราเร่ง 0- 100 กม./ชม. ทำได้ที่ 7 วินาที โดยภายในรถนั่งโดยสารกันไป 3 คน พร้อมสัมภาระ ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจ


ส่วนในเรื่องอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้น จะมีช่วงให้ได้ทดลองขับหาตัวเลขความประหยัดกับระยะทางประมาณ 100 กม. และกำหนดเวลาให้ไม่เกิน 1 ชม. ซึ่งคำนวณดูแล้วในการขับขี่จะต้องใช้ความเร็วพอสมควร เพื่อให้เข้าทันเวลาที่กำหนด โดยตัวเลขที่ทำได้สำหรับกลุ่ม Mercedes-Benz E350e อยู่ที่ประมาณ 14-15 กิโลลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 99 กม./ชม. กลุ่ม Mercedes-Benz C350e อยู่ที่ประมาณ 12-13 กิโลลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 90 กม./ชม. กลุ่ม Mercedes-Benz S500e อยู่ที่ประมาณ 11-12 กิโลลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 80 กม./ชม. กลุ่ม Mercedes-Benz GLE500e อยู่ที่ประมาณ 9-10 กิโลลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 90 กม./ชม. (ข้อมูลจากหน้าจอแสดงผลของรถ) จะเห็นว่า Mercedes-Benz E350e สามารถทำตัวเลขได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ น่าจะมาจากการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC PLUS) ในขณะที่รุ่นอื่นๆเป็นแบบ 7 สปีด
ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ Mercedes-Benz E350e ใหม่ ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดภายใต้แบรนด์ “EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz” ที่มาพร้อมความหรูหรา สมรรถนะการขับขี่ทั้งอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ดีกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว ระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาให้ทั้งความนุ่มสบาย แต่ก็สามารถขับได้อย่างมั่นใจกับทางโค้งที่เกาะถนนพร้อมมีระบบช่วยการขับขี่ต่างๆแบบจัดเต็ม ราคาค่าตัวก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอจับต้องได้สำหรับรถยนต์กลุ่มนี้ เอาเป็นว่า E350e ใหม่ ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับรถปลั๊กอินไฮบริดที่ไม่น่ามองข้ามเลยครับ