เมอร์เซเดส-เบนซ์ รถยนต์แบรนด์หรูที่หลายคนอยากมีไว้ในครอบครอง นอกจากจะได้ใช้งานขับขี่เดินทางแล้ว ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ให้ดูดีแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย โดยครั้งนี้ ทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาสนำ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport รถยนต์สปอร์ตคูเป้สี่ประตูขนาดกลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์มาทำการทดลองขับขี่ใช้งาน
Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport ได้รับการออกแบบพัฒนามาจากรถยนต์ต้นแบบ Concept Style Coupé โดยเน้นดีไซน์โฉบเฉี่ยวในสไตล์สปอร์ตแบบ Avant-garde พร้อมความพริ้วไหวของลายเส้นด้านข้าง ออกแบบใหม่หมดตั้งแต่หน้าจรดท้ายที่เน้นความแตกต่างไปจากเดิม เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่
ภายนอกของ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport ได้รับการออกแบบในสไตล์คูเป้สี่ประตู โดยมิติของตัวรถมีความยาว 4,630 มม. ความกว้าง 1,777 มม. และความสูง 1,432 มม. โดยตัวถังของ CLA จะดีไซน์เป็นส่วนโค้งและส่วนเว้าเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ผสมผสานกันระหว่างความสปอร์ตและความปราดเปรียว ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า พื้นที่ด้านข้าง และกระจังหน้าแบบ diamond grille พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ชุดโคมไฟหน้าแบบไบซีนอน (bi-xenon) พร้อมระบบฉีดน้ำทำความสะอาด และไฟ daytime สำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED ในกรอบไฟหน้า นอกจากนี้ลายเส้นด้านข้างสามแนวได้รับการออกแบบและสอดรับกันอย่างลงตัว ทั้งยังโดดเด่นด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ ค่า Cd ที่ต่ำเพียง 0.22



นอกจากนั้นยังมีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค รวมถึงชุดแต่ง AMG แบบสปอร์ต ได้แก่ กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง, กันชนท้ายแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งชายล่างของกันชนสีเดียวกับตัวรถ, ชุดแป้นคันเร่ง และเบรกแบบสปอร์ต, พรมด้านหน้าและหลัง พร้อมโลโก้ AMG, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 18 นิ้ว
การตกแต่งภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport เน้นความเป็นสปอร์ต และล้ำสมัย ตั้งแต่มาตรวัดค่าแบบสปอร์ตทรงกลมสองวงตกแต่งพื้นหลังด้วยสีเงินและก้านบอกตำแหน่งสีแดง แบ่งเป็นมาตรวัดความเร็วที่ออกแบบภายในให้มีมาตรวัดปริมาณเชื้อเพลิงวงเล็กซ้อนไว้ อีกวงเป็นมาตรวัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ภายในเป็นมาตรวัดอุณหภูมิคั่นกลางด้วยทริปมิเตอร์แสดงค่าอย่างละเอียด แผงคอนโซลด้านหน้าประกอบไปด้วย ช่องปรับอากาศ 5 ช่องแบบโครเมียม การตกแต่งเลือกใช้วัสดุชั้นดี ออกแบบตกแต่งได้อย่างลงตัวในสไตล์เมอร์เซเดส-เบนซ์
เบาะนั่งของ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport เป็นแบบสปอร์ตให้ความกระชับ หุ้มด้วยหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แผงประตูบุด้วย DINAMICA microfibre สีดำ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้าน ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย พรมรองพื้นสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport ยังมาพร้อมระบบความบันเทิงครบครันด้วยเครื่องเล่นวิทยุแบบ Audio 20 พร้อมซีดี และช่องเชื่อมต่อ Aux-in และ USB บริเวณคอนโซลกลาง รวมทั้งระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ เพื่อให้ความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น



ระบบช่วงล่างของ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport ด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ โดยได้รับการปรับแต่งมาในแบบสปอร์ตเน้นการขับขี่ที่สนุกและมั่นใจในทุกเส้นทาง
ด้านระบบความปลอดภัยนั้น Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport ติดตั้งเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์แบบครบครันที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น กระจกส่องหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP ระบบช่วยเบรก BAS ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR ระบบรักษาความเร็ว cruise control และระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD ป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ตลอดเวลา เป็นต้น


Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1,991 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตรที่ 1,200 – 4,000 รอบ/นาที (ตัวเลขที่เคลมจากโรงงานสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 7G-DCT พร้อมกับระบบ direct-steer system ที่พวงมาลัยจะปรับน้ำหนักตามความเร็วรถช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้อย่างดี
ช่วงทดสอบ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport
กับทีมงาน Auto-Thailand
แรกสัมผัสในวันรับรถทดสอบ ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารในตำแหน่งผู้ขับขี่ก็สัมผัสได้ถึงการตกแต่งที่ค่อนข้างเน้นไปในแนวสปอร์ตในสไตล์ AMG ความรู้สึกในตอนที่นั่งในเบาะนั่งผู้ขับขี่นั้นก็ให้ความกระชับ แต่จะไม่ได้กว้างขวางมากนัก เมื่อปรับเบาะพร้อมระยะตำแหน่งของพวงมาลัยแล้วรู้สึกว่าตำแหน่งชุดคันเร่งและแป้นเบรกอยู่ในตำแหน่งวางเท้าที่ยังไม่คุ้นเคยนัก ปรับตัวนิดหน่อยก็สามารถใช้งานได้สบาย
เริ่มเคลื่อนตัวออกสู่ท้องถนนที่มีการจราจรค่อนข้างติดขัดย่านถนนสาทร พละกำลังจากเครื่องยนต์ 211 แรงม้า ที่มาพร้อมแรงบิดระดับ 350 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์เบนซินยุคใหม่ที่สามารถให้สมรรถนะการขับที่ให้อารมณ์ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ดีเซลในด้านแรงบิด เรียกว่าสามารถเรียกพลังขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทั้งในช่วงที่ต้องเร่งออกตัว หรือในช่วงที่ต้องปรับเปลี่ยนเลนเร่งแซงก็ทำได้อย่างทันใจ ที่สำคัญคือ ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้จากปุ่มที่คอนโซลกลางที่มีทั้งโหมดสปอร์ต S หรือโหมด M ยังมีปุ่ม ECO มาให้ใช้งานในเวลาที่ต้องการความประหยัด ซึ่งตรงนี้น่าจะออกแบบปุ่มให้อยู่ใกล้บริเวณพวงมาลัยเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน เพราะจะเห็นได้ว่าแป้นคันเกียร์ของ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport ถูกออกแบบย้ายตำแหน่งจากคอนโซลกลางมาอยู่ที่คอพวงมาลัยด้านขวาในแบบก้านโยกเหมือนก้านไฟเลี้ยวที่จะว่าไปแล้ว ถ้าใช้งานจนคุ้นชินก็สะดวกดีเหมือนกัน ทั้งยังทำให้บริเวณคอนโซลกลางโล่งขึ้นเล็กน้อย อีกจุดหนึ่งที่อาจต้องใช้งานให้คุ้นชินก็คือ ปุ่มเบรกมือไฟฟ้าที่ถูกติดตั้งในตำแหน่งด้านขวาที่คอนโซลใต้พวงมาลัย




ความรู้สึกในการขับขี่ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport นั้นนอกจากความคล่องตัวในช่วงการใช้งานในสภาพการจราจรที่หนาแน่นแล้ว ในช่วงที่ขับขี่เดินทางในเส้นทางโล่งๆรถน้อย หรือขับขี่เดินทางนอกเมือง สมรรถนะของเครื่องยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็สามารถให้ความสนุกในการขับขี่จากระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 7G-DCT ที่ส่งถ่ายกำลังได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ทันใจ โดยเฉพาะเมื่อเลือกใช้โหมด S ในการขับขี่ก็สามารถเรียกพละกำลังอัตราเร่งได้ตามสั่ง ทั้งยังสามารถใช้งานแป้นปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยที่ให้ความสนุกในการขับขี่ได้น่าพอใจ
อีกจุดเด่นหนึ่งที่ทีมงาน Auto-Thailand ค่อนข้างประทับใจก็คือ ระบบช่วงล่างที่เซตมาในแบบสปอร์ตให้ความหนึบแน่น ทรงตัวดีทั้งในช่วงทางตรง หรือในการขับขี่ในทางโค้ง แต่ตรงนี้ก็อาจจะรู้สึกกระด้างไปบ้างสำหรับคนที่ชอบความนุ่มนวล ซึ่งก็ต้องแลกกันกับสมรรถนะที่เกาะถนนเพิ่มขึ้น และในช่วงที่ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกว่า 110 ก.ม./ช.ม. ขึ้นไป ความรู้สึกถึงการปรับความหนืดของพวงมาลัยที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ทำให้การขับขี่ใช้ความเร็วสามารถควบคุมขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ส่วนในช่วงที่ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ หรือในช่วงถอยจอดน้ำหนักพวงมาลัยก็จะเบาแรง เรียกว่ามีการทำงานที่ให้ความรู้สึกชัดเจน และที่ลืมไม่ได้กับสมรรถนะของระบบเบรกที่สามารถหยุดความเร็วได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่
และเมื่อมีโอกาสทีมงาน Auto-Thailand จึงลองไปนั่งโดยสารที่เบาะนั่งด้านหลัง ซึ่งก็ถือว่ามีความกว้างขวางพอตัว แต่อาจจะรู้สึกอึดอัดไปบางถ้าเป็นผู้ที่มีรูปร่างสูงใหญ่เกินกว่า 170 ซ.ม.ขึ้นไป โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่เหนือศรีษะที่ได้รับการออกแบบมาให้ลาดลงรับกับแนวกระจกด้านหลัง ถ้าดูจากภายนอกนั้นก็จะให้อารมณ์แบบสปอร์ตคูเป้ ซึ่งจะว่าไปแล้วถ้ามีรูปร่างมาตรฐานคนไทยก็ไม่น่ามีปัญหาในจุดนี้ และที่สำคัญในความเห็นของทีมงาน Auto-Thailand คิดว่าทางเมอร์เซเดส-เบนซ์คงน่าจะเน้นสมรรถนะการขับขี่ใช้งานในสไตล์สปอร์ตคูเป้ที่สามารถใช้นั่งโดยสารที่ด้านหลังได้ด้วย เอาเป็นว่าถ้าจะเน้นการนั่งโดยสารด้านหลังนั่นค่อนข้างจะมีข้อจำกัดอย่างที่กล่าวไปข้างต้น
ด้านอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport นั้นถึงแม้จะได้รับการออกแบบมาในสไตล์สปอร์ตเน้นขับขี่สนุก แต่ก็ยังให้อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น่าพอใจจากการทำงานของรอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงนัก โดยที่ความเร็ว 80 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1300 รอบ ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1600 รอบ ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องประมาณ 1800 รอบ โดยตัวเลขเฉลี่ยในการใช้งานในเมืองอยู่ที่ประมาณ 9-10 ก.ม./ลิตร ส่วนในการขับขี่เดินทางนอกเมืองอยู่ที่ประมาณ 13-14 ก.ม./ลิตร เมื่อนำมาเทียบกับอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจในการขับขี่ถือว่าก็น่าพอใจแล้วกับสมรรถนะที่ได้มา และสำหรับการทำความเร็ว 0-100 ก.ม./ช.ม. ก็สามารถให้อัตราเร่งอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเลยทีเดียว
ทีมงาน Auto-Thailand ของสรุปแบบนี้ Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport รถยนต์สปอร์ตคูเป้สี่ประตูขนาดกลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถตอบสนองการขับขี่เรียกอัตราเร่งได้อย่างทันใจ สมรรถนะช่วงล่าง รวมถึงระบบเบรกที่ให้ความมั่นใจ รูปแบบตัวรถน่าจะเหมาะกับการขับขี่ใช้งานที่ไม่เน้นการโดยสารมากนัก เรียกว่าถ้าชอบแนวการขับขี่เน้นความสปอร์ต คล่องตัว ทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์แก่ผู้ขับขี่ให้ดูดีอีกด้วย Mercedes-Benz CLA 250 AMG Sport ก็น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายในรถกลุ่มนี้ก็ว่าได้นะครับ...

สถานที่ : Bavarian Field