มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษ MINI Track Day พาสื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์โกคาร์ทฟิลลิ่งที่สนุกสนานในแบบฉบับมินิ ณ สนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต จ.เพชรบุรี โดยจะได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ของรถยนต์มินิหลากหลายรุ่นกันแบบเต็มอิ่ม
หลังจากเดินทางถึงสนามแข่งรถแก่งกระจานเซอร์กิต จ.เพชรบุรี ก็พร้อมรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลและรูปแบบการทดลองขับขี่ในกิจกรรม MINI Track Day โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มๆ ละ 5 คัน คือ MINI John Cooper Works, MINI Cooper S, MINI Cooper S Convertible, MINI Clubman D และ MINI Countryman D จะได้ขับทดสอบรุ่นละ 3 รอบ วนไปจนครบทุกรุ่น โดยจะมีทีม Instructor นำขบวนและขับปิดท้ายให้คำแนะนำตลอดทาง
ทีมงาน Auto-Thailand เริ่มทดลองขับ MINI John Cooper Works ตัวแรงสุดของกิจกรรมครั้งนี้ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ด้วยหลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Chili Red ล้ออัลลอย JCW ขนาด 18 นิ้ว และแถบสีแต่งกระโปรงรถลาย JCW ส่วนระบบช่วงล่างปรับเซตมาแบบสปอร์ตรองรับพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ MINI TwinPower Turbo 231 แรงม้า ทั้งยังมาพร้อมกับระบบเบรก Brembo และระบบช่วยการขับขี่ต่างๆแบบจัดเต็ม
การทดลองขับขี่ในรอบแรกนั้นจะใช้ความเร็วไม่มากถือเป็นการดูไลน์สนามพร้อมกับตำแหน่งที่วางไพล่อนดักไว้เป็นจุดเบรกจุดเลี้ยว เข้าสู่รอบที่สอง เริ่มใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น สมรรถนะจากเครื่องยนต์ MINI John Cooper Works ตัวนี้ให้พละกำลังที่ขับขี่ได้สนุก ให้อัตราเร่งได้อย่างรวดเร็ว ระบบพวงมาลัย ระบบช่วงล่างปรับเซตมาแบบสปอร์ตให้ความคล่องตัวเกาะหนึบทุกโค้ง และเมื่อเปลี่ยนมาใช้โหมด Sport ในการขับขี่จะสามารถรับรู้ถึงพละกำลังที่ติดเท้ามากขึ้น รวมถึงความหนักแน่นของระบบพวงมาลัย ระบบช่วงล่างที่จะปรับให้ขับขี่ในความเร็วสูงทั้งในช่วงโค้งตัวเอสได้อย่างมั่นใจในแบบโกคาร์ทฟิลลิ่งที่สนุกสนานในแบบฉบับมินิ
รอบต่อมาเปลี่ยนมาทดลองขับ MINI Countryman D เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2,000 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า กับแรงบิด 270 นิวตันเมตร ความรู้สึกแรกจากการที่เพิ่งลงจาก MINI John Cooper Works ตัวแรงสุดทำให้รู้สึกว่าเจ้า MINI Countryman D ให้อัตราเร่งไม่ทันใจ แต่เมื่อปรับความรู้สึกได้แล้วก็ถือว่าให้อัตราเร่งได้อย่างสมตัว การขับขี่ผ่านเส้นทางโค้งต่างๆของสนาม รวมถึงการทำความเร็วในช่วงทางตรงก็สามารถทำได้น่าพอใจ อาจจะขับขี่ได้ไม่สนุกเท่ารุ่นอื่นจากตัวรถที่สูงกว่าทำให้มีอาการบ้างในช่วงทางโค้งต่างๆ
มาต่อกันที่ MINI Clubman D เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2,000 ซีซี 150 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตัน กับตัวถังยาวและใหญ่ขึ้น แต่เมื่อได้ทดลองขับขี่กลับให้ความคล่องตัว การควบคุมรถในทางโค้งต่อเนื่องรวมถึงอัตราเร่งและการทำความเร็วในทางตรงสามารถตอบสนองได้น่าพอใจ เรียกว่าน่าจะเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันจากความอเนกประสงค์กว้างขวางจากพื้นที่การใช้งานในห้องโดยสารที่เหลือเฟือ
หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาทดลองขับ MINI Cooper S Convertible ที่เป็นไฮไลต์อีกรุ่นของกิจกรรมในครั้งนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ MINI TwinPower Turbo 192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ความพิเศษอยู่ที่การเปิดประทุนตามสไตล์มินิ แผงหลังคารถหรือซอฟต์ท็อปผลิตจากวัสดุผ้าทอพิเศษ ด้วยวัสดุป้องเสียงหลายชั้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก มาพร้อมกับดีไซน์ลายธง UNION JACK ที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิ ซึ่งสามารถเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าภายในเวลาเพียง 20 วินาที และในขณะที่รถวิ่งอยู่ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.
ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากการขับขี่ พละกำลังจากเครื่องยนต์ 192 แรงม้า กับขนาดตัวรถที่ไม่เล็กไม่ใหญ่สามารถเรียกอัตราเร่งออกมาใช้งานได้อย่างทันใจ การขับขี่ควบคุมคล่องตัว แต่อาจจะรู้สึกถึงการให้ตัวของตัวรถในช่วงที่เข้าโค้งบ้างจากการเป็นรถที่ไม่มีโครงหลังคา ก็ถือว่าให้การขับขี่สนุกไม่แพ้รุ่นอื่น แต่ที่แน่ๆ MINI Cooper S Convertible ดูหล่อเท่สะดุดตากว่าอย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วย MINI Cooper S ที่เสริมหล่อด้วยชุดแต่ง JCW มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ MINI TwinPower Turbo 192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร เป็นอีกรุ่นในกิจกรรมครั้งนี้ที่ค่อนข้างลงตัวทั้งราคาและสมรรถนะที่ไม่เป็นสองรองใคร
ความรู้สึกจากการทดลองขับ MINI Cooper S พละกำลังสามารถให้การตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่แรงเท่ากับ MINI John Cooper Works แต่ก็เพียงพอที่จะให้การขับขี่ที่สนุกจากการพละกำลัง 192 แรงม้า กับช่วงล่างที่หนึบแน่นที่สามารถให้ความคล่องตัวในทางโค้งได้อย่างมั่นใจ รวมถึงการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำขับสนุกเช่นเดียวกับตัวแรงอย่าง MINI John Cooper Works เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้กดคันเร่งกันหนักๆก็เพียงพอที่จะให้ความสนุกในการขับขี่แล้ว
นอกจากสมรรถนะและดีไซน์ที่โดดเด่นของมินิทุกรุ่น มินิประเทศไทยยังเพิ่มความสบายใจในการใช้งานกับโปรแกรม MINI Service Inclusive หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร
ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ กิจกรรม MINI Track Day ถือเป็นโอกาสที่ไม่ง่ายนักที่จะได้ทดลองขับขี่รถยนต์มินิหลากหลายรุ่น โดยแต่ละรุ่นสามารถตอบสนองการใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเน้นเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างการขับขี่ที่มั่นใจ รวมถึงความอเนกประสงค์ของพื้นที่ใช้งานภายในห้องโดยสารของรถยนต์มินิรุ่นต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาให้เลือกใช้ได้หลากหลายตามความต้องการ อยากบอกว่าถ้าชอบความสนุกสมรรถนะในการขับขี่ คุณจะสามารถสัมผัสกับโกคาร์ทฟิลลิ่งได้ในรถยนต์มินิได้เท่านั้นครับ