เมื่อกล่าวถึงรถยนต์ขนาดเล็กสไตล์รถ SUV หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยนักกับ MG 3 Xross รุ่นนี้ ด้วยส่วนใหญ่จะคิดถึงรถที่มีความบึกบึน ตัวถังรถขนาดใหญ่ แต่สำหรับ MG 3 Xross คันนี้ด้วยขนาดตัวถังมีขนาดกะทัดรัด ให้ความคล่องตัว รวมถึงความอเนกประสงค์ในการใช้งาน แต่ยังคงให้อารมณ์รถสไตล์ SUV ด้วยราคาค่าตัว 595,000 บาท MG 3 Xross ออกแบบบนพื้นฐานของรุ่น Hatchback 5 ประตู ได้รับการเสริมแต่งเพิ่มเติมในสไตล์รถ SUV ด้วยมิติตัวรถเมื่อนำมาเทียบกับ MG 3 Hatchback ความยาวมากกว่า 61 มม. กว้างกว่า 11 มม. สูงกว่า 11 มม. ระยะห่างทั้งล้อคู่หน้า-หลัง ยาวกว่า 10 มม. แต่ฐานล้อเท่ากัน จะเห็นว่า MG 3 Xross มีมิติตัวรถใหญ่กว่ารุ่น MG 3 Hatchback เล็กน้อย รูปโฉมภายนอกของ MG 3 Xross ตกแต่งในสไตล์รถ SUV ด้วยกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ตที่ได้รับการออกแบบให้แตกต่างจาก MG 3 Hatchback ชุดแต่งรอบคัน ราวหลังคาสำหรับการขนสัมภาระ ในรุ่นนี้ยังมีหลังคาซันรูฟไฟฟ้า พร้อมระบบไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติมาให้อีกด้วย ทั้งยังเพิ่มความคมเข็มด้วยคิ้วสุ้มล้อสีดำทั้ง 4 ล้อ ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว แบบ 5 ก้าน พร้อมยางขนาด 195/55R16 ภายในห้องโดยสารของ MG 3 Xross มีความกว้างขวางด้วยเพดานค่อนข้างสูงในสไตล์รถ SUV ออพชั่นภายในทั้งแผงคอนโซล เบาะนั่งจะคล้ายกับ MG 3 Hatchback พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้เย็บด้ายส้ม ส่วนเบาะนั่งเป็นแบบกึ่งหนังแท้ทูโทนสีดำส้ม ด้านหลังเบาะนั่งสามารถปรับพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ตามต้องการ เครื่องเล่นซีดี MP3 USB ที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และยังมีช่องเก็บของมาให้ใช้งานแบบจัดเต็มกันแบบสบายๆ MG 3 Xross มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด SeleMatic พร้อมระบบปรับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต และแบบ Manual ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้ ทั้งยังสามารถรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย อีกจุดขายของรถยนต์ MG ก็คือ ระบบช่วงล่างแบบ European Tuning Suspension ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบ H-Type ทอร์ชันบีมคานขวางแบบ U-Shape ที่ให้การขับขี่และควบคุมได้อย่างมั่นใจในสไตล์รถยุโรป MG 3 Xross ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็มที่สุดในรถระดับเดียวกัน อาทิ ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC ระบบออกตัวบนทางลาดชัน HAS ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR ระบบควบคุมการทรงตัว ESC โครงสร้างตัวถังเพื่อความปลอดภัย USD เป็นต้น ช่วงทดสอบ MG 3 Xross กับทีมงาน Auto-Thailand แรกสัมผัสกับ MG 3 Xross รูปโฉมภายนอกและการตกแต่งจะดูแตกต่างจาก MG 3 Hatchback ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายจะมาในสไตล์แบบรถอเนกประสงค์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรถที่ใช้งานคล่องตัว และยังมีพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวางเกินตัว การนั่งโดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้ความสบายจากความสูงโปร่งกว่า MG 3 Hatchback ทำให้การขึ้นลงจากตัวรถที่สูงกว่าเล็กน้อยทำได้สะดวกมากขึ้น จะจุดที่ยังต้องปรับปรุงก็คือ เรื่องวัสดุและการประกอบบางจุดภายในที่ดูแล้วยังไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่ออพชั่นและฟังก์ชั่นการใช้งานก็ถือว่ามีมาให้เพียงพอ ความรู้สึกในการขับขี่รถยนต์ MG จะชูสมรรถนะด้านการขับขี่เป็นจุดขาย ซึ่งเท่าที่ได้ทดลองขับขี่ใช้งานมาระยะหนึ่ง การควบคุมพวงมาลัยจะมีน้ำหนักในช่วงการขับขี่ที่ให้อารมณ์คล้ายรถยุโรป ทำให้การขับขี่ได้มั่นใจ ทั้งในช่วงที่ใช้ความเร็วสูง และคล่องตัวเมื่อต้องเคลื่อนตัวกับการจราจรที่คับคั้งในเมือง ด้านพละกำลังนั้น เครื่องยนต์ของ MG 3 Xross ที่กำลัง 106 แรงม้า กับแรงบิด 135 นิวตัน ก็เพียงพอกับตัวรถ สมรรถนะการขับขี่ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด SeleMatic ที่ต้องเรียนรู้และใช้ความคุ้นชินในการใช้งาน อยากจะบอกว่ามันเป็นระบบเกียร์ธรรมดาที่ไม่ต้องเหยียบคลัตช์มากกว่า โดยสามารถขับขี่และเปลี่ยนเกียร์ได้ตามรอบความเร็วที่ต้องการ ซึ่งเมื่อใช้งานจนรู้จังหวะแล้ว เรียกว่าระบบเกียร์ SeleMatic ของ MG 3 Xross ให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเลยทีเดียว แต่พอเริ่มขับขี่สนุกและใช้รอบเครื่องเรียกอัตราเร่งกันบ่อยๆ ก็จะมีอัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้นตามมา แต่ก็อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ของ MG 3 Xross นั้นรองรับน้ำมันได้ถึง E85 ที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง ส่วนในการขับขี่แบบระบบเกียร์อัตโนมัติก็เช่นกัน พอมีความคุ้นกับจังหวะการเปลี่ยนเกียร์แล้ว ก็สามารถขับขี่ได้เหมือนรถทั่วไป แต่ขอดีของระบบเกียร์แบบนี้ในช่วงที่ต้องการเอนจิ้นเบรกจะสามารถมั่นใจได้มากกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปในระดับเดียวกัน อีกจุดเด่นที่ต้องขับขี่เองแล้วจะประทับใจก็คือ ระบบช่วงล่างที่ปรับเซตมาได้ลงตัวมีความหนึบแน่น ให้ความเกาะหนึบทั้งทางตรง ทางโค้ง รวมถึงระบบเบรกที่ให้ความมั่นใจได้ทุกครั้งที่ต้องชะลอหยุดความเร็ว เรียกว่าความรู้สึกแบบนี้ยากที่รถยนต์ในกลุ่มเดียวกันในราคาประมาณนี้จะให้ความรู้สึกเช่นนี้ได้ MG 3 Xross ยังมาพร้อมกับระบบช่วยขับขี่และระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ทั้งยังให้ความมั่นใจกับการใช้งานด้วยการรับประกัน พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นานถึง 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร ส่วนศูนย์บริการของรถยนต์ MG นั้น ปัจจุบันก็มีเพิ่มมากขึ้นและจะเปิดใหม่อีกหลายแห่ง ถึงตรงนี้ก็อยากให้ได้ลองเข้าไปสัมผัสบริการ และทดลองขับขี่กันได้เลยที่โชว์รูม MG ทั่วประเทศครับ...