นิช คาร์ ตัวแทนจำหน่ายแลมโบร์กินีอย่างเป็นทางการ เพียงรายเดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรมพาสื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะของซูเปอร์คาร์ Lamborghini Huracan ซึ่งจัดขึ้นที่สนามแข่งรถที่ได้มาตราฐานระดับโลกอย่างสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีรถให้ได้ทดลองขับขี่กันแบบเต็มรอบสนามถึง 2 รุ่น คือ Lamborghini Huracan LP 610-4 และ LP 580-2 สมรรถนะจะเป็นอย่างไรติดตามได้ครับ





Lamborghini Huracan ออกแบบให้รูปโฉมภายนอกมีความลื่นไหลลู่ลมเน้นอารมณ์ความเป็นซูเปอร์คาร์พันธ์แท้ในสไตล์ Lamborghini ด้วยเหลี่ยมสันเส้นสายลงตัวเป็นเอกลักษณ์  มิติภายนอกของรถที่มีความยาว  4,459 ม.ม. กว้าง 1,924 มม. สูง 1,165 มม. ออกแบบด้วยโครงสร้างแชสซีไฮบริดรูปแบบใหม่ด้วยการผสานวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียมเข้าด้วยกัน จึงทำให้แชสซีมีน้ำหนักเบากว่าช่วยให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น

ภายในของ Lamborghini Huracan ออกแบบเน้นความสปอร์ตด้วยอุปกรณ์ต่างๆในรูปแบบทรงหกเหลี่ยม ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและหยิบจับอุปกรณ์ได้อย่างสะดวก การควบคุมฟังก์ชั่นในการขับขี่ต่างๆถูกรวมไว้ที่บริเวณพวงมาลัยเป็นหลักที่ให้อารมณ์เดียวกับรถแข่งในสนาม แต่ยังคงความสะดวกสบายหรูหราและความสปอร์ตดุดันจากวัสดุและการตกแต่งชั้นเยี่ยมด้วยเบาะหุ้มด้วยหนังแท้ รวมที่จับประตูถึงด้านบนของคอนโซลด้วยความประณีต

Lamborghini Huracan LP 610-4 ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Hydraulic multi-plate cluth ควบคุมอัตโนมัติ  มาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ความจุ 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์คลัตช์คู่ LDF 7 สปีด สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.

Lamborghini Huracan LP 580-2 ใช้ระบบขับเคลื่อนสองล้อ ที่ล้อหลัง เครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร พร้อมน้ำหนักตัวรถที่เบาลง เพียง 1,389 กก. เบากว่าเครื่องยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อถึง 33 กก. ให้กำลังสูงสุด 580 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์คลัตช์คู่ LDF 7 สปีด  สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุด  320 กม./ชม.

Lamborghini Huracan LP 580-2 ออกแบบให้อัตราส่วนกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังอยู่ที่ 40/60 ลดแรงเฉื่อยบนเพลาหน้า และออกแบบระบบช่วงล่าง ปรับเซตพวงมาลัยใหม่ โดยสามารถเลือกการขับแบบ STRADA, SPORT และ CORSA ให้ความสนุกในการขับขี่

Lamborghini Huracan LP 580-2 ยังเน้นการออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์ของตัวรถให้แตกต่างจากเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้ออย่างชัดเจน โดยช่องรับอากาศด้านหน้าได้รับการปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มแรงกดให้กับล้อหน้า เสริมด้วยสปอยเลอร์หลัง และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถได้อย่างเต็มที่

Lamborghini Huracan LP 610-4 และ LP 580-2 ใช้ระบบหยุดการทำงานของกระบอกสูบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เป็นครั้งแรก ในเครื่องยนต์ V10 โดย 5 สูบ จากทั้งหมด 10 กระบอกสูบจะหยุดทำงาน เมื่อเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้งานเต็มกำลัง และจะสวิตซ์กลับมาที่ระบบ 10 สูบ เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์ ระบบนี้จะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษต่ำอีกด้วย




    

    




ช่วงทดสอบ Lamborghini Huracan LP 610-4 และ LP 580-2
ทีมงาน Auto-Thailand

เมื่อเดินทางถึงสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ภาพแรกที่เห็นก็คือ ฝูงกระทิง Lamborghini Huracan จอดนิ่งสงบรอพวกเราอยู่อย่างเรียบร้อย แต่ยังไม่ถึงเวลาเราต้องเข้ารับฟังบรรยายสรุปข้อมูลกันก่อน หลังจากจึงได้เวลาลงทดสอบขับขี่ Lamborghini Huracan ในสนามช้างฯ

โดยมี Lamborghini Huracan LP 610-4 และ LP 580-2 ให้ได้ขับทดสอบทั้ง 2 รุ่น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะเป็น Lamborghini Huracan LP 610-4 จำนวน 3 คัน คันแรกจะเป็นรถนำส่วนอีก 2 คันจะเป็นรถให้เราได้ทดลองขับขี่ทดสอบทั้งหมด 3 รอบสนาม ส่วนอีกกลุ่มจะเป็น Lamborghini Huracan LP 580-2 จำนวน 3 คัน คันแรกจะเป็นรถนำส่วนอีก 2 คันจะเป็นรถให้เราได้ทดลองขับขี่ทดสอบทั้งหมด 3 รอบสนามเช่นกัน  แต่ก่อนจะแบ่งกลุ่มลงทดสอบจะมีการพานั่งไปกับ Instructor 1 รอบ เพื่อแนะนำการขับขี่และดูไลน์สนามไปในตัว

ทีมงาน Auto-Thailand เริ่มทดลองขับขี่ Lamborghini Huracan LP 580-2 ซึ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลังที่มีแรงม้าแรงบิดน้อยกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเล็กน้อย แต่ละรอบของสนามจะเน้นให้ได้ทดสอบการขับขี่กับโหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมด คือ STRADA, SPORT และ CORSA

รอบแรกก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารในตำแหน่งผู้ขับขี่ ต้องบอกเลยว่าเป็นการขับรถพวงมาลัยซ้ายครั้งแรก กับรถซูเปอร์คาร์แท้ๆในสนามช้างฯ เรียกว่าต่างก็กังวลกับการขับขี่รถพวงมาลัยซ้าย หลังจากเข้านั่งประจำที่ปรับเบาะนั่ง กระจกมองข้าง และอุปกรณ์อื่นๆเรียบร้อย ถือว่าทุกอย่างค่อนข้างลงตัว ทัศนวิสัยการมองเห็นนั้นชัดเจนรอบด้าน เมื่อขับขี่เคลื่อนตัวออกไปช่วงแรกอาจจะต้องกะระยะด้านขวาเผื่อไว้สักหน่อย แต่สักพักก็สามารถขับขี่ได้ชินเหมือนรถพวงมาลัยขวาทั่วไป โดยพวงมาลัยนั้นสามารถปรับน้ำหนักตามการขับขี่ที่สามารถให้ความมั่นใจแม้ว่าขับขี่ด้วยความเร็วสูงก็ตาม

ความรู้สึกในการขับขี่กับโหมด STRADA พูดง่ายๆว่าเป็นโหมดที่ใช้งานขับขี่ทั่วไป ระบบช่วยการขับขี่ต่างๆจะทำงานครบ พละกำลังจากเครื่องยนต์ V10 ที่มีแรงม้าและแรงบิดขนาดนี้ เรียกว่าแค่กระแทกคันเร่งก็หลังติดเบาะหน้าหงายกันแล้ว อัตราเร่งสามารถส่งออกมาได้อย่ารวดเร็ว ซึ่งก็สามารถเลือกสนุกกับการขับขี่ด้วยการปรับเปลี่ยนเกียร์ที่แป้นแพดเดิลชิฟที่พวงมาลัยที่ให้การตอบสนองที่รวดเร็วสมกับเป็นรถซูเปอร์คาร์ โดยตลอดการขับขี่เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจของ Lamborghini Huracan ให้อารมณ์ไม่ต่างจากการชมการแข่งขันรถซูเปอร์คาร์ริมขอบสนามเลยทีเดียว

ส่วนระบบช่วงล่างในโหมดนี้ก็ให้ความนุ่มหนึบไม่ว่าจะเป็นช่วงทางตรงหรือแม้ในช่วงโค้งต่อเนื่องของสนามช้าง ระบบเบรกก็เป็นสิ่งสำคัญกับการที่จะต้องหยุดชะลอแรงม้าของ Lamborghini Huracan เรียกว่าขับขี่มาด้วยความเร็วเกิน 200 กม./ชม.ในทางตรงก็สามารถชลอความเร็วได้แบบตัวรถไม่มีการเสียอาการก่อนเข้าโค้งสามารถขับเข้าไลน์ได้อย่างง่ายดาย

ในรอบต่อมาปรับโหมดการขับขี่เป็นโหมด Sport ระบบจะปรับเซตการส่งกำลังจากระบบเกียร์ให้ตอบสนองได้ดีขึ้น ระบบช่วงล่างปรับเซตให้แข็งขึ้น รวมทั้งระบบพวงมาลัยให้มีการควบคุมได้แม่นย่ำขึ้นระยะในการหมุนจะกระชับขึ้นเล็กน้อยทำให้การขับขี่ในโค้งสามารถทำได้คล่องตัวมากขึ้น

และการขับขี่ในโหมด CORSA ซึ่งจะเป็นโหมดที่ต้องควบคุมการขับขี่เอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเกียร์ที่จะให้ความสปอร์ตและอัตราเร่งที่รวดเร็ว  ระบบพวงมาลัยและช่วงล่างก็ปรับให้มีความสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงจะตัดระบบช่วยการขับขี่บางตัวเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ควบคุมสมรรถนะตัวรถเองอย่างเต็มที่ เรียกว่าถ้าอยากสนุกและมีทักษะในการควบคุมรถ โหมดนี้จะเป็นโหมดที่ขับขี่ได้สนุกกับอัตราเร่งพละกำลังกันแบบสุดๆ ในอารมณ์ประมาณขับขี่รถแข่งกันเลยทีเดียว

โดยรวมแล้วความรู้สึกในการขับขี่ Lamborghini Huracan LP 580-2 ซึ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลังนั้น การควบคุมรถโดยเฉพาะในโค้งนั้นถึงแม้จะมีระบบช่วยต่างๆทำงานอยู่แต่ด้วยความแรงของพละกำลังเครื่องยนต์ก็ต้องอาศัยทักษะการขับขี่เพิ่มขึ้นอีกนิด แต่ถ้าคุ้นเคยกับรถที่ขับเคลื่อนล้อหลังอยู่แล้วได้มาขับขี่ Lamborghini Huracan ตัวนี้ก็จะสามารถขับขี่ได้อย่างสนุกและปรับตัวเข้ากับรถได้อย่างรวดเร็ว




    





    

    




หลังจากนั้นทีมงาน Auto-Thailand ได้เปลี่ยนมาขับขี่ทดสอบ Lamborghini Huracan LP 610-4 ด้วยขนาดทั้งภายนอก-ภายในแทบจะเหมือนกัน แตกต่างที่เครื่องตัวนี้มีแรงม้าแรงบิดมากกว่า และเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือพูดง่ายๆว่าเป็นออพชั่นเต็มของรุ่นนี้ก็ว่าได้

เริ่มเคลื่อนตัวก็สัมผัสได้ถึงพละกำลังอัตราเร่งที่พอจะรู้สึกได้ว่าตอบสนองได้รวดเร็วกว่า โดยการขับขี่ทดสอบทั้ง 3 รอบยังใช้รูปแบบเดิม โดยรู้สึกได้ถึงการยึดเกาะถนนและให้ความมั่นใจได้มากขึ้นโดยเฉพาะในการขับขี่เข้าโค้ง การควบคุมยังคงให้ความแม่นยำคล่องตัว เรียกว่าพละกำลังที่เพิ่มขึ้นบวกกับได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่สามารถปรับอัตโนมัติทำให้ตอบสนองการขับขี่หลากหลายและมั่นใจขึ้น

ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ จากการที่ได้ทดลองขับขี่ Lamborghini Huracan LP 610-4 และ LP 580-2 กันในสนามช้างฯที่ทำให้สามารถสัมผัสสมรรถนะทั้งของเครื่องยนต์และช่วงล่างของรถได้อย่างเต็มที พละกำลังส่งออกมากันแบบรวดเร็วทันใจ ระบบช่วงล่างและการควบคุมถือว่าขับขี่ง่ายกว่าที่คิด เรียกว่ารถซูเปอร์คาร์เดี๋ยวนี้ก็สามารถขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้เหมือนกัน ถึงตรงนี้...ถ้าเงินไม่ใช้ปัญหาสำหรับคุณ...รวมถึงมีความชื่นชอบในการขับขี่รถซูเปอร์คาร์อยู่แล้วล่ะก็ Lamborghini Huracan ทั้ง 2 รุ่นนี้ต้องมีสักคันที่โดนใจคุณแล้วล่ะครับ...