auto-thailand.com
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาสมาทดลองขับ Honda CR-V ใหม่ จากครั้งนั้นเราได้ไปทดลองขับ Honda CR-V ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ในสนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ แต่สำหรับครั้งนี้เป็นการทดลองขับใช้งานจริงบนถนนกับ Honda CR-V ใหม่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 EL AWD ค่าตัว 1.549 ล้านบาท และดีเซล 1.6L i-Dtec Diesel Turbo ค่าตัว 1.699 ล้านบาท สมรรถนะจะเป็นอย่างไรติดตามกันได้ครับ Honda CR-V ใหม่ รุ่นนี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ได้รับการออกแบบพัฒนามาใหม่ทั้งรูปโฉมภายนอกที่มีความหรูหรา พร้อมดูสปอร์ตในแบบรถยนต์อเนกประสงค์ โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายใหม่แบบ LED พร้อม Daytime Running Light กระจังหน้าแบบโครเมียมที่ได้รับการออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ภายในห้องโดยสารของ Honda CR-V ใหม่ ออกแบบให้ดูหรูหรา กว้างขวาง เน้นพื้นที่ใช้สอยตามสไตล์รถเอนกประสงค์ กับเบาะโดยสาร 3 แถว แบบ 7 ที่นั่ง โดยสามารถปรับพับเบาะแถวที่ 2 และ 3 เพิ่มพื้นที่ใช้งานด้านหลังได้อีก เบาะหนังสีดำ แผงคอนโซลด้านหน้าขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเส้นสายด้วยลายไม้และวัสดุสี Piano Black อีกทั้งครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ ระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire) เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ i-Dual Zone ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay กับลำโพง 8 ตำแหน่ง ด้วยลำโพง 4 ตัว ซึ่ง 2 ตัวบริเวณประตูด้านหน้า อีก 2 ตัวบริเวณประตูด้านหลัง พร้อมกับทวีตเตอร์ จำนวน 4 ตัว ซึ่งติดตั้งบริเวณเสา A-Pillar 2 ตัว และอีก 2 ตัวที่บริเวณประตูด้านหลัง อีกทั้งช่องเชื่อมต่อ USB ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง ที่มีมาให้ใช้งานกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อีกออพชั่นเด่นก็คือ ระบบฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ โดยในวิธีเตะขาไปที่บริเวณใต้กันชนหลัง พร้อมควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมท และสามารถปรับระดับความสูงของการเปิดฝากระโปรงท้ายได้ตามต้องการ Honda CR-V ใหม่ ยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-DPS ทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วพร้อมกับให้แรงบิดที่ล้อหลังสูงขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำของการปรับแรงบิดที่ล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุล Honda CR-V ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบ ให้เลือก คือ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 4 สูบ ขนาด ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ แรงบิดสูงสุด 224 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85 ช่วงทดสอบ Honda CR-V ใหม่ กับทีมงาน Auto-Thailand สำหรับการทดลองขับ Honda CR-V ใหม่ ครั้งนี้จัดขึ้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมีระยะทางในการขับทดสอบรวมกว่า 280 กม. และถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทดลองขับตลอดทริปมือเดียวทั้งไปและกลับ ซึ่งทำให้ได้เก็บข้อมูล รวมถึงความรู้สึกในการขับขี่ของรถทั้งสองรุ่นมากันแบบเต็มที่ ในเที่ยวขาไป ทีมงาน Auto-Thailand ได้รถทดสอบเป็น Honda CR-V ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ตัว Top สุด ซึ่งเป็นครั้งแรกกับการขับทดสอบในถนนหลวง หลังจากที่ได้เคยทดลองขับในสนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์มาแล้ว เส้นทางในเที่ยวขาไปจะมีระยะทางประมาณ 140 กม. สภาพเส้นทางมีทั้งทางตรง ทางโค้ง ขึ้นลงเขา รวมถึงผ่านแหล่งชุมชน และยังเจอกับฝนตกเกือบตลอดทาง ความรู้สึกจากการขับตลอดเส้นทาง พวงมาลัยให้น้ำหนักตึงมือดี การควบคุมทำได้แม่นยำจากระบบพวงมาลัยแบบ Dual พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPS ประกอบด้วยชุดเฟืองพิเนียนแบบ Dual และได้มีการปรับอัตราทดเฟืองให้แปรผันได้ตามช่วงความเร็วที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในช่วงความเร็วต่ำ และให้การทรงตัวที่ดีในช่วงความเร็วสูง การเก็บเสียงในห้องโดยสารถือว่า Honda CR-V ใหม่ ทำได้ค่อนข้างดี สำหรับเสียงลมจะพอได้ยินในช่วงความเร็วเกินกว่า 120 กม./ชม. ส่วนเสียงของเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ถ้าขับขี่เดินคันเร่งทั่วไปความเร็วปกติ เสียงที่ได้ยินเข้ามาในห้องโดยสารก็ไม่ได้ต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน จะได้ยินชัดเจนตอนช่วงที่คิกดาว์นหรือลากรอบสูงๆ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ สำหรับภายในห้องโดยสารของ Honda CR-V ใหม่ โดยรวมถือว่าทำได้เรียบร้อยดี พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมแป้น Paddle Shiift ส่วนบริเวณคอนโซลเกียร์ที่เป็นแบบ Shift by Wire เปลี่ยนเกียร์ด้วยการกดปุ่มที่ถือว่าล้ำสมัยลงตัวกว่ารุ่นอื่น แต่จะมีตรงวัสดุคอนโซลถ้าเป็นแบบสีดำมัน หรือลายไม้ หรืออื่นๆจะดูสวยงามลงตัวกว่าการเป็นพลาสติกสีดำธรรมดา ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 เท่าที่ได้ลองให้พี่ที่รวมเดินทางกับเราที่ตัวค่อนข้างเล็กไปทดลองนั่ง โดยปรับเลื่อนเบาะแถวที่ 2 ขึ้นมาพอประมาณ ก็สามารถนั่งโดยสารได้กับพื้นที่วางขาค่อนข้างจำกัด ซึ่งไม่น่าจะเหมาะกับคนรูปร่างใหญ่ เอาเป็นว่าให้เป็นที่นั่งสำหรับเด็กเล็กจะเหมาะกว่า หรือไม่ก็ใช้สำหรับวางของ หรือจะพับเพิ่มพื้นที่ใช้งานก็จะให้ความสะดวกกว่า ในด้านพละกำลังของเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO ของ Honda CR-V ใหม่ ที่หลายคนอาจบอกว่ามันมีขนาดเล็กเกินไป แต่พละกำลัง 160 แรงม้า กับแรงบิด 350 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดใหม่ สามารถให้การขับขี่ได้น่าพอใจ ถึงจะไม่ได้ดึงหลังติดเบาะ แต่เพียงพอกับการขับใช้งานแน่นอน การส่งกำลังของเกียร์ลูกใหม่ทำได้เรียบเนียนต่อเนื่องอารมณ์เดียวกับรถยุโรปกันเลยทีเดียว ระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ได้ทดลองประสิทธิภาพในครั้งนี้ เนื่องจากเส้นทางที่ใช้ต้องผ่านทั้งทางโค้ง ขึ้นลงเขา ที่สำคัญมีฝนตกเกือบตลอดทาง แต่ทั้ง 2 ระบบของ Honda CR-V ใหม่ ก็ให้สมรรถนะที่มั่นใจ ช่วงที่ขับโยนเข้าโค้งจะรู้สึกได้ถึงความหนึบของระบบช่วงล่าง ที่จากการสอบถามวิศวกรชาวญี่ปุ่นได้คำตอบว่า ได้รับการปรับเซตค่าสปริงกับโช้คให้ต่างจากรุ่นเครื่อยนต์เบนชิน เพื่อให้สามารถรองรับกับน้ำหนักตัวรถที่มากกว่า 60-70 กก. จากการที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้ทดลองขับ Honda CR-V ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ตัวนี้แบบยาวๆ เราได้ใช้เครื่องมือวัด Performance box วัดอัตราเร่ง 0-60 กม./ชม. ทำได้ที่ 5.5 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ที่ 11.7 วินาที ส่วนอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอ่านจากหน้าจอแสดงข้อมูลทำได้ที่ 15 กิโลลิตร กับความเร็วใช้งานที่ส่วนใหญ่เท่าที่สังเกตจะไม่เกิน 110 กม./ชม. กับสภาพมีฝนตกเกือบตลอดทาง หลังจากถึงจุดแวะพักรับประทานอาหารเรียบร้อย ทีมงาน Auto-Thailand ได้เปลี่ยนรถมาเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร i-VTEC ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ตัวเดิมกับรุ่นก่อน ระยะทางขากลับถึงโรงแรมที่พักอยู่ที่ประมาณ 136 กม. ภายในออพชั่นต่างๆแทบจะเหมือนกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล จุดแตกต่างชัดเจนจะเป็นที่คอนโซลเกียร์จะเป็นแบบมีคันเกียร์ เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และระบบฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ก็มีมาให้เช่นกัน สำหรับความรู้สึกในการขับขี่ สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือ พวงมาลัยมีน้ำหนักเบากว่าไวกว่ารุ่นดีเซล แต่ก็ยังสามารถขับขี่ควบคุมง่าย ตรงนี้น่าจะเหมาะกับคุณผู้หญิง ส่วนในเรื่องของพละกำลังของเครื่องยนต์เบนซินตัวนี้ ก็สามารถตอบสนองได้ตามสั่งในสไตล์ระบบเกียร์ CVT ที่จะมีความนุ่มนวล และเมื่อเราคลิกดาว์นรอบเครื่องก็จะกวาดขึ้นสูงอัตราเร่งก็จะตอบสนองตามมา พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังไม่แพ้รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล แต่ถ้าขับขี่ปกติจะมีความเงียบกว่าเล็กน้อย ระบบช่วงล่างของรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะถูกปรับเซตมาหนึบไปทางนุ่มกว่ารุ่นดีเซลแบบรู้สึกได้ ทำให้ในช่วงขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วก็จะพอรู้สึกถึงความเกาะหนึบที่แตกต่างแบบสัมผัสได้ว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลจะหนักแน่นกว่า ส่วนในช่วงทางตรงๆก็จะให้ความนุ่มนวลกว่า โดยทีมงาน Auto-Thailand ได้ใช้เครื่องมือวัด Performance box เช่นเดิมกับ Honda CR-V ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน วัดอัตราเร่ง 0-60 กม./ชม. ทำได้ที่ 5.5 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ที่ 11.2 วินาที ส่วนอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอ่านจากหน้าจอแสดงข้อมูลทำได้ที่ 12 กิโลลิตร กับความเร็วใช้งานที่ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 110 กม./ชม. กับสภาพมีฝนตกเกือบตลอดทางเช่นกัน ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ จากการที่ได้ทดลองขับ Honda CR-V ใหม่ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ทั้งคู่ สมรรถนะการขับขี่ที่ได้ทดลองขับโดยส่วนตัวจะชอบไปทางฝั่งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่า ทั้งด้านพละกำลังที่อาจจะไม่ได้แรงอย่างที่หลายๆคนคาดหวัง แต่ต้องบอกว่าเหลือเฝือกับการใช้งาน การตอบสนองทำได้ตามสั่ง ช่วงล่างเกาะหนึบได้ทุกเส้นทาง ซึ่งตามธรรมชาติของเครื่องยนต์ดีเซลก็จะมีความทนทานและให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีกว่า แต่สำหรับ Honda CR-V ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ก็จะเป็นอีกทางเลือกกับค่าตัวที่ถูกกว่าได้ออพชั่นเหมือนกัน การขับขี่ใช้งานแบบนุ่มนวลขับขี่ง่ายเหมาะกับคุณผู้หญิง อัตราเร่งก็ไม่ได้เป็นรองรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล จะด้อยกว่าก็แต่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทำได้น้อยกว่า และอย่างที่กล่าวไว้ทุกครั้งว่าแนะนำให้ไปทดลองขับด้วยตัวคุณเอง เพราะว่าเราอาจจะชอบและรู้สึกไม่เหมือนกันครับ