auto-thailand.com
Auto-Thailand : หลังจากฮอนด้าได้เปิดตัว บริโอ้ อเมซ ในรูปแบบของรถยนต์อีโคคาร์ซีดาน 4 ประตู คันแรกของฮอนด้า และได้ดึงเอา บี้ เดอะสตาร์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการสร้างสมการความสุข ซึ่งสามารถเรียกกระแสให้ผู้คนกลับมาสนใจในฮอนด้า บริโอ้ อเมซ โดยมียอดจองรถอยู่ในขั้นที่ว่าประสบความสำเร็จเลยก็ว่าได้ และทางค่ายฮอนด้าก็ไม่รอช้าจัดกิจกรรมทดสอบฮอนด้า บริโอ้ อเมซ สำหรับสื่อมวลชนสายยานยนต์ให้ได้สัมผัสสมรรถนะกับแบบเป็นทางการที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนอื่นทีมงาน Auto-Thailand ขอพาสำรวจความเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ กันก่อน ที่มองดูจากภายนอกแล้วอาจจะไม่แตกต่างอะไรกับ ฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก 5 ประตู โดยเฉพาะด้านหน้า เรียกว่าถอดแบบกันมาเลย จะเริ่มมีความแตกต่างชัดเจนตั้งแต่เสากลาง ไปถึงเสาหลัง ตัวถังด้านท้าย และห้องเก็บสัมภาระท้ายที่ได้รับการออกแบบใหม่ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ได้รับการออกแบบตามแนวคิด “สมาร์ท ไมโคร ลีมูซีน” ที่เน้นให้ความสำคัญสูงสูดต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดดเด่นด้วยดีไซน์ ปราดเปรียวคล่องตัวจากหน้าจรดท้าย แต่มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสนุก ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นอีโคคาร์ที่มีความปลอดภัยครบครัน ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ด้านหน้าโดยรวมแล้วจะเหมือนกับฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก โดยไฟหน้ายังคงแบบเดิม ต่างกันที่กระจังหน้าได้รับการออกแบบให้ดูสปอร์ตขึ้น พร้อมกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ เมื่อมาที่ด้านข้างตัวรถเริ่มตั้งแต่กลางไปถึงท้ายรถ มีการเพิ่มเส้นสายใหม่ เพื่อลดแรงต้านทานของอากาศ พร้อมกับให้ความโฉบเฉี่ยวไปในตัว ส่วนด้านท้ายของ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ เป็นส่วนที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด แตกต่างไปจากบริโอ้ แฮทช์แบ็ก ด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ที่ได้รับการออกแบบให้ขยายกว้างไปทางด้านข้างตัวถัง ให้ความสปอร์ตด้วยลายกราฟฟิก เมื่อส่องสว่างจะให้ความแปลกใหม่ ทำให้มีรูปลักษณ์ด้านท้ายโดดเด่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมคิ้วโครเมียมดีไซน์ใหม่ที่ดูแล้วลงตัวใช้ได้ ด้านตัวถังรถเพิ่มระยะฐานล้อหน้า-หลังให้ยาวขึ้นอีก 60 มิลลิเมตร เป็นการเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระให้กว้างขวางมากขึ้น เรียกว่าให้พื้นที่ได้ไม่น้อยกว่ารถในระดับที่สูงกว่าเลยทีเดียว ส่วนภายในนั้นเมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารในตำแหน่งผู้ขับขี่ จะพบว่ารูปแบบก็ยังคงเป็นเช่นเดียวกับ ฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลกลาง การจัดวางอุปกรณ์ รวมถึงวัสดุพลาสติกลวดลายคอนโซลก็ยังเหมือนเดิม เรียกว่าผิดคาดไปเหมือนกัน โดยทีมงานเราคิดว่าน่าจะมีการปรับปรุงในจุดนี้ แต่ก็มีจุดที่ได้รับการปรับปรุงในส่วนของแผงประตูตรงช่องเก็บของที่มีการเก็บงานได้เรียบร้อย ไม่เห็นสีพื้นของตัวถังแบบในฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก เบาะนั่งคู่หน้ายังคงรูปแบบเดิมให้ความกระชับนั่งสบายหุ้มด้วยผ้าลายเดิม มากันที่ห้องโดยสารด้านหลัง ที่ให้ความกว้างขวาง ทั้งพื้นที่วางขา พื้นที่เหนือศีรษะ ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าเหมือนกับฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก ตรงนี้ขอบอกว่าค่อนข้างจะแตกต่างและทำได้ดีกว่าฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก โดยมีการขยายขนาดเบาะนั่ง รวมถึงความหนา และรูปแบบให้โอบกระชับนั่งสบายกว้างขวางในแบบรถใหญ่ แต่ไม่สามารถพับแบบ 60:40 ได้ และจากการสอบถามทีมออกแบบของฮอนด้าได้รับคำตอบว่า ถ้าออกแบบให้พับ 60:40 ได้ จะต้องเสียพื้นที่ไปกับโครงสร้างตัวเบาะ ซึ่งจะทำให้เบาะแคบ และบางกว่านี้ที่อาจทำให้นั่งโดยสารได้ไม่สบายเท่าที่ควร ในส่วนของพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้ายของฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ถึง 400 ลิตร บวกกับการออกแบบให้มีช่องเก็บของด้านใต้ระหว่างยางอะไหล่กับแผ่นปิดห้องสัมภาระท้ายอีก 20 ลิตร รวมแล้วเพียงพอและกว้างขวางไม่แพ้รถรุ่นสูงกว่าอย่างฮอนด้า ซิตี้เลยทีเดียว อีกส่วนที่ได้รับการพัฒนาให้รองรับกับความกว้างขวางที่มากขึ้นก็คือ ระบบช่วงล่างที่มีการออกแบบปรับปรุงเพิ่มเติมจากตัวฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็กอยู่ 2-3 จุด ทำให้มีการขับขี่ที่ดีขึ้น ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ มาพร้อมเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ ส่งกำลังผ่าน 2 ระบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่มาพร้อมระบบควบคุมการเคลื่อนตัว พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับความลาดเอียงของตัวรถ โดยขณะที่รถยนต์เคลื่อนตัวด้วยความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยรักษาระดับการเคลื่อนตัวให้อยู่ในระดับปกติ เมื่อผู้ขับขี่มีการเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ ระบบจะหยุดทำงาน เมื่อผู้ขับขี่ปล่อยเบรกระบบจะกลับมาทำงานปกติ ทั้งนี้เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ไปในการเคลื่อนตัวอย่างเหมาะสมในขณะที่เหยียบเบรก หากมีการหยุดรถในที่ลาดเอียง เซ็นเซอร์จะตรวจจับระดับความลาดเอียงของรถ และระบบจะปรับระดับการทำงานให้มีการเคลื่อนตัวที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการถอยหลัง ช่วงทดสอบ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ กับทีมงาน Auto-Thailand หลังจากรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลและเส้นทางการทดสอบฮอนด้า บริโอ้ อเมซ คณะทดสอบก็พร้อมออกเดินทางทดสอบ โดยการทดสอบจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกจะไปทำการทดสอบฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่วนอีกกลุ่มทำการทดสอบฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โดยทีมงาน Auto-Thailand ได้ทดสอบในกลุ่มที่สอง สำหรับรถฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ตัวนี้เป็นรุ่นออพชั่น V ที่เรียกว่ามีอุปกรณ์ทุกอย่างครบเหมือนที่รุ่น TOP เกียร์ CVT มีมาเป็นมาตราฐาน โดยในการทดสอบให้วิ่งโดยใช้ระยะทางไม่มากอยู่บริเวณรีสอร์ทที่พัก เริ่มการทดสอบในฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โดยทีมงาน Auto-Thailand ขอนั่งเป็นผู้โดยสารก่อน เรียกว่าความสะดวกสบายในห้องโดยสารจากฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ทำได้น่าพอใจ เบาะนั่งด้านหน้านั่งสบาย พื้นที่โดยรอบก็ถือว่าใช้ได้ ส่วนในการนั่งโดยสารในด้านหลังที่จะบอกว่าแตกต่างและดีกว่าฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก อย่างชัดเจนด้วยเบาะนั่งที่กว้างขวาง นั่งนุ่มขึ้น ด้วยการออกแบบให้มีความสูงกว่าเบาะนั่งคู่หน้าเพื่อการโดยสารที่สะดวกสบายขึ้น และอีกจุดหนึ่งที่สังเกตุได้เวลาที่เรานั่งโดยสารและพิงเบาะ ในส่วนของหลังคาจะคุมศีรษะพอดี (รถบางรุ่นศีรษะจะเลยไปอยู่ตรงส่วนของกระจกบานหลัง) บวกกับพื้นที่เหนือศีรษะก็มีพอสมควร ถ้าไม่ได้เป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่เกินไป รับรองว่านั่งได้อย่างสบาย ศีรษะไม่ชนเพดานเวลารถวิ่งผ่านคอสะพานแน่นอนครับ และเมื่อถึงจุดเปลี่ยนผู้ขับขี่ ทีมงาน Auto-Thailand จึงได้สัมผัสสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 4 สูบ 90 แรงม้า กับระบบเกียร์ธรรมดาที่ให้การขับขี่ที่เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว อัตราเร่งสามารถที่จะเค้นออกมาได้ไม่ยากเย็นนัก พละกำลัง 90 แรงม้า กับน้ำหนักตัวถัง 935 กิโลกรัม เกือบลืมบอกไปว่า เรามีผู้ร่วมทดสอบทั้งคัน 3 คน บวกน้ำหนักเข้าไปก็ถือว่ายังให้อัตราเร่งที่น่าพอใจอยู่เหมือนกัน ทั้งในส่วนของการปรับเปลี่ยนเกียร์ ที่คันเกียร์และระยะการเข้าเกียร์ในตำแหน่งต่างๆ ถือว่าให้ความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่น้ำหนักของแป้นคลัตช์ที่เหยียบเบาแรงดี แต่คลัตช์ค่อนข้างสูงไปสักนิด ต้องอาศัยการใช้งานให้คุ้นชินเสียก่อนน่าจะสนุกกับการขับขี่ได้มากกว่านี้ สำหรับในเรื่องความเร็วนั้น ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ก็ถูกล็อกความเร็วไว้ที่ 145 กิโลเมตร/ชั่วโมง เช่นเดียวกับฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก แต่ก็อย่างว่าครับ เขาสร้างให้เป็นรถอีโคคาร์ ที่ส่วนใหญ่คงมีน้อยคนที่จะนำไปขับใช้งานในความเร็วสูงอย่างที่เราทดสอบ แต่ถ้าต้องการปลดล็อกก็คงไม่เกินความสามารถของช่างไทยหรอกครับ มาถึงอีกความรู้สึกที่สัมผัสได้ และต่างออกปากชมกันหลายท่านที่ร่วมทดสอบ ก็คือ เรื่องของเสียงลมประทะที่น่าจะทำได้ดีกว่ารถรุ่นที่สูงกว่าหลายๆรุ่น เรียกว่าวิ่งกันด้วยความเร็วเสียงลมยังไม่สร้างความรำคาญให้ได้ยินเท่าไร แต่เมื่อมานั่งโดยสารด้านหลัง จะมีเสียงล้อยางที่สุ้มล้อหลังรบกวนบ้าง ตรงนี้ถ้ามีการบุซับเสียงเพิ่มเข้าไปก็น่าจะหมดปัญหานี้ หลังจากพักรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว ทีมงาน Auto-Thailand ก็ได้มีโอกาศในการทดสอบฮอนด้า บริโอ้ อเมซ เกียร์อัตโนมัติ CVT ในรุ่น TOP เช่นเคยเราขอเป็นผู้โดยสารก่อน สำหรับเส้นทางในการทดสอบจะใช้ระยะทางยาวกว่าในการทดสอบรุ่นเกียร์ธรรมดา โดยออกจากที่พัก แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท มุ่งหน้าไปยัง มหาวิหารหลวงพ่อโต บนถนนมิตรภาพ และวนกลับทางเดิมที่รีสอร์ท ความรู้สึกจากการเป็นผู้โดยสารก็ไม่ต่างจากการนั่งโดยสารในฮอนด้า บริโอ้ อเมซ รุ่นเกียร์ธรรมดา แต่ด้วยเส้นทางที่ยาวกว่าทำให้เราสัมผัสถึงความสบายจากการนั่งโดยสารของเบาะนั่งหลังที่ได้รับการออกแบบปรับปรุงใหม่ที่ไม่เกิดความเมื่อยล้ายามที่ต้องนั่งนานๆ อาจมาจากตำแหน่งที่สูงขึ้นทำให้นั่งสบายกว่าเดิม และเมื่อถึงจุดแวะพักที่มหาวิหารหลวงพ่อโต ทีมงาน Auto-Thailand จึงเปลี่ยนมาเป็นผู้ขับทดสอบ เริ่มออกตัวสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากอัตราเร่งของเครื่องยนต์ ซึ่งก็แน่นอนที่ระบบเกียร์อัตโนมัติจะมีอัตราเร่งที่ไม่เร้าใจเหมือนระบบเกียร์ธรรมดา แต่ก็ทำให้คิดถึงเวลาที่ต้องใช้งานในสภาพการจราจรที่ติดขัด รับรองว่าเกียร์อัตโนมัติยังไงก็ให้ความสะดวกสบายกว่า เมื่อเริ่มออกมาสู่ถนนที่ค่อนข้างโล่ง จึงลองใช้ความเร็ว เรียกว่าการส่งพละกำลัง 90 แรงม้า ทำได้ราบลื่นพอสมควรกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ถ้าไม่ได้เป็นคนใจร้อนนักในบรรดาอีโคคาร์ด้วยกันถือว่าไม่เป็นสองรองใคร และเช่นเดิมที่ความเร็วปลายถูกล็อกไว้ที่ 145 กิโลเมตร/ชั่วโมง และอีกระบบที่มีมาให้ใช้และช่วยในการขับขี่คือ ระบบควบคุมการเคลื่อนตัว พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับความลาดเอียงของตัวรถ ที่จะช่วยรักษาระดับการเคลื่อนตัวให้อยู่ในระดับปกติ เมื่อขับขี่ในเส้นทางที่โค้ง คือระบบจะรักษาความเร็วในการขับเคลื่อน คล้ายๆกับระบบครูสคอนโทรล แต่ตรงนี้คงต้องใช้ความระมัดระวังซักหน่อย ถ้ายังไม่เคยชิน แต่ถ้าใช้งานบ่อยๆรู้จังหวะการทำงานของระบบก็จะขับขี่ได้อย่างสนุกขึ้น เนื่องจากความเร็วจะไม่ตกทำให้เรียกรอบการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยระบบนี้จะหยุดทำงาน เมื่อผู้ขับขี่มีการเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ และเมื่อผู้ขับขี่ปล่อยเบรกระบบนี้จะกลับมาทำงานปกติ สำหรับการขับขี่ในทางยาวๆ ทำให้เราได้สัมผัสสมรรถนะของระบบช่วงล่างของฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ที่ให้ความนุ่มหนึบในระดับหนึ่ง ทั้งเวลาในการขับขี่ในเส้นทางที่โค้ง หรือทางตรงก็ให้ความมั่นคงเกินตัวกับความเป็นอีโคคาร์ เช่นกันในเมื่อสนุกกับการขับขี่ไปข้างหน้า ในยามที่ต้องชลอความเร็วหรือหยุดรถ ระบบเบรกฮอนด้า บริโอ้ อเมซก็ไม่ทำให้ผิดหวังไว้ใจได้เช่นเคย ฮอนด้าบริโอ้ อเมซ ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมแบบ H-Shape ซึ่งเป็นระบบเดียวกับ ฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก โดยมีความแตกต่างกันที่ได้รับการปรับความหนืดของช็อกแอบฯ และค่า K ของสปริงใหม่ พร้อมเพิ่มขนาดเหล็กกันโคลง ที่ทำให้สมรรถนะของระบบช่วงล่างของฮอนด้าบริโอ้ อเมซ ให้การขับขี่ที่มั่นใจขึ้น ในด้านการบังคับควบคุมพวงมาลัย ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ที่ช่วยผ่อนแรง ขนาดของวงพวงมาลัยกำลังดี จับได้กระชับมือ โดยเวลาเราถอยจอดในที่แคบ หรือขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ น้ำหนักในการบังคับควบคุมจะเบาแรง ทำให้ง่ายและสะดวกในการใช้งาน แต่เมื่อขับขี่ใช้ความเร็วสูงก็จะเพิ่มความหนืดขึ้นมาให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้อย่างน่าพอใจ และเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่แน่นอนว่ารถในกลุ่มอีโคคาร์จะถูกบังคับด้วยข้อกำหนดอยู่แล้วว่าต้องมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอย่างน้อย 20 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งส่วนใหญ่ทุกค่ายก็จะเคลมมาอยู่แล้วว่าทำได้ และเช่นเคยที่มาตรวัดของฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ก็จะมีตัวช่วยบอกเราเวลาขับขี่ที่เรียกว่า ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ECO (จะแสดงขณะขับขี่ที่ความเร็วคงที่โดยที่รอบเครื่องและความเร็วสัมพันธ์กัน ช่วยให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ) แต่ในการใช้งานจริง หรือว่าง่ายๆในการทดสอบครั้งนี้ ตลอดการขับขี่มีทั้งการเรียกอัตราเร่ง ลากเกียร์ดูรอบการทำงาน วิ่งขับขี่ด้วยความเร็วสูงจนถึงความเร็วสูงสุดที่ล็อกไว้ที่ 145 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่น่าจะใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ยังสามารถทำอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยได้ประมาณ 16-17 กิโลเมตร/ลิตร (มีผู้โดยสารรวม 3 คนตลอดการเดินทาง) ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจในตัวเลข เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว คงจะมีน้อยคนที่นำไปใช้งานในแบบที่เราขับทดสอบ เพราะอย่าลืมว่าบางอย่างมันก็มีข้อจำกัดในการเป็นรถอีโคคาร์ แต่ก็ยังขอยืนยันว่า รถอีโคคาร์ขนาดเล็กในปัจจุบันนั้นสามารถไปได้ทุกทีที่รถทั่วไปเดินทางไปได้ครับ ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ อีโคคาร์ซีดานคันแรกจากฮอนด้า ที่ได้รับการพัฒนาจากฮอนด้า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก รุ่นที่ผ่านไปมาหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมภายนอกที่ปราดเปรียวขึ้น พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายที่กว้างขวาง บวกกับสมรรถนะจากเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 4 สูบ และระบบช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาสำหรับรถซีดาน ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ จึงน่าจะเป็นตัวสร้างสมการความสุขใหม่ ตัวเลือกแรกๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ