หลังจากที่บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแนะนำฮอนด้า บริโอ้ อีโคคาร์ตัวใหม่ล่าสุดที่ผลิตในประเทศไทย และเป็นอีโคคาร์คันแรกของค่ายฮอนด้าไปเมื่อต้นปี 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเปิดตัวมาจะบอกว่า ฮอนด้า บริโอ้ เป็นรถรุ่นที่ค่อนข้างจะโชคร้ายที่ต้องมาเจอกับวิกฤตภัยธรรมชาติซ้ำซ้อน แต่หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านั้นมา ก็ต้องมาเจอศึกหนักกับเหล่ารถอีโคคาร์จากค่ายต่างๆ ที่ออกสู่ตลาดกันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้กระแสของฮอนด้า บริโอ้นั้นเบาบางลงไปอีก
ทางทีมงาน Auto-Thailand จึงได้ถือโอกาศนำเจ้าฮอนด้า บริโอ้ มาทดสอบกันอีกสักครั้ง หลังจากได้ลองทดสอบอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ มาบ้างแล้ว โดยในครั้งนี้ ทีมงาน Auto-Thailand ได้นำฮอนด้า บริโอ้ รุ่น TOP เกียร์อัตโนมัติ มาทำการทดสอบ

ก่อนอื่นขอพูดถึงตัวเจ้าฮอนด้า บริโอ้ ก่อน ด้วยรูปลักษณ์ด้านหน้าที่โฉบเฉี่ยวพอประมาณ และด้านท้ายตัดสั้น ที่มากับเครื่องยนต์ i-VTEC 1,200 ซีซี 90 แรงม้า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3.999 แสนบาท รูปทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดกะทัดรัด ที่มีด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ทั้งเกียร์ธรรมดา และ เกียร์อัตโนมัติ CVT
ฮอนด้า บริโอ้ มีความยาว 3,610 มม. กว้าง 1,680 มม. และสูง 1,485 มม. บนฐานล้อ 2,345 มม. ฮอนด้าเลือกที่จะลดความสูงและขยายความกว้างของบริโอ้ เพื่อเพิ่มความรู้สึกกว้างสำหรับรถขนาดกะทัดรัด และการขับขี่ที่คล่องตัวมั่นคง ลำตัวสั้นของบริโอ้นอกจากจะช่วยให้การขับขี่คล่องตัวแล้ว ยังให้ทัศนวิสัยเป็นเยี่ยมในทุกทิศทางอีกด้วย ซึ่งทำให้การขับขี่และการจอดรถบนถนนแคบสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น

ฮอนด้า บริโอ้มีพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางพอเพียง เพื่อเสริม “ความรู้สึกกว้างโปรงสบาย” ประตูบานท้ายช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขนย้ายสิ่งของเข้า-ออกจากพื้นที่เก็บสัมภาระซึ่งสามารถรองรับกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดใหญ่ รถเข็นเด็ก หรือแม้กระทั่งถุงกอล์ฟ
การออกแบบภายใน เน้นความกว้างขวาง วัสดุภายในออกแนวประหยัดไปสักนิด โดยพวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านออกแบบให้จับกระชับมือ มาตรวัดเรืองแสงดีไซน์สปอร์ตสีส้ม 3 วง พื้นหลังมาตรวัดสีขาว มีขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน พร้อมจอแสดงผลระดับของน้ำมันเชื้อเพลิง และการขับขี่แบบ LED ซึ่งจะแจ้งระยะทางรวม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย อีกทั้งยังมีไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ECO (จะแสดงขณะขับขี่ที่ความเร็วคงที่โดยที่รอบเครื่องและความเร็วสัมพันธ์กัน ช่วยให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ)

คอนโซลกลางมีชุดแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศแบบมือบิด 3 ปุ่ม พร้อมเครื่องเสียงแบบ 2DIN (เฉพาะรุ่น V) เล่นเพลงจากช่องเสียบ USB , AUX , ไม่มีเครื่องเล่น CD มาให้ ไฟสัญญาณเตือนสำหรับลืมเบรกมือ, ลืมเสียบกุญแจรถ, ลืมปิดไฟหน้าและเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย

เครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ ความจุ 1,200 ซีซี 90 แรงม้า สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E20 และประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร อีกทั้งปล่อยไอเสียสะอาดตามเกณฑ์มาตรฐานยูโร-4 ด้วยประสิทธิภาพของตัวถังนิรภัย G-CON ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากการทดสอบการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้างตามที่ระบุโดย UNECE 94 และ 95 ตามลำดับ ในส่วนของระบบส่งกำลัง บริโอ้มีทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติทั้งในรุ่น S และรุ่น V ขณะที่เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT จะมีในเฉพาะรุ่น V และยังมีอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ ระบบเบรก ABS พร้อม EBD ระบบล็อกป้องกันเด็ก ระบบกุญแจ Immoblizer และไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED มาเป็นอุปกรณ์มาตราฐานในฮอนด้า บริโอ้ทุกคัน

การเดินทางของทีมงาน Auto-Thailand และฮอนด้า บริโอ้ในช่วงแรก ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในในเมืองที่การจราจรที่ติดขัด สลับหยุดนิ่ง ฮอนด้า บริโอ้ สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างน่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเลนเพื่อแซง และแทรก ทำได้อย่างคล่องตัว และด้วยความที่เป็นรถที่ได้รับความสนใจของผู้ใช้รถอยู่แล้ว เวลาวิ่งไปทางไหน จะเปลี่ยนเลน หรือแทรกใครก็จะรับการเว้นที่ให้เจ้าฮอนด้า บริโอ้เสมอ ส่วนถามว่าการใช้เกียร์อัตโนมัติกับการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯเป็นอย่างไรบ้าง ทีมงาน Auto-Thailand ขอบอกว่า ฮอนด้า บริโอ้ ตัวนี้ถือเป็นรถเกียร์อัตโนมัติที่ขับขี่ง่ายคล่องตัว ถึงแม้จะมีเครื่องยนต์แค่ 1,200 ซีซี. กับ 90 แรงม้า แต่ให้อัตราเร่งที่ทันใจดีไม่แพ้ในแบบเกียร์ธรรมดา ยิ่งถ้าเปลี่ยนมาใช้โหมดสปอร์ตที่ลากรอบได้ยาวขึ้น ยิ่งทำให้ขับสนุกคล่องตัวกว่ารถคันใหญ่ๆ โดยอัตราความสิ้นเปลืองที่วัดได้อยู่ประมาณ 15-16 กม./ลิตร (ตอนวิ่งในเมือง) ก็ถือว่าน่าพอใจกับการใช้งานในเมือง

หลังจากผ่านการจราจรในเมืองแล้ว ถึงเวลาที่ทีมงาน Auto-Thailand จะพาฮอนด้า บริโอ้ไปลองวิ่งใช้งานกันแบบเดินทางยาวๆ นอกเมืองดูบ้าง ซึ่งในรถเล็กเหล่านี้จะชอบถูกพูดถึงว่า “ออกต่างจังหวัด วิ่งทางไกล ไม่ได้หรอก” ทีมงาน Auto-Thailand เลยจัดให้ซะเลย... โดยใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - อยุธยา ซึ่งก็น่าจะเพียงพอกับการที่จะได้สัมผัสสมถรรนะของฮอนด้า บริโอ้ ต้องขอบอกก่อนว่าการเดินทางทดสอบในครั้งนี้มีผู้ร่วมทดสอบอีก 3 คน ตลอดเส้นทางการเดินทางเราก็พยายามจะลองอัตราการสิ้นเปลืองโดยใช้ความเร็วในการเดินทางอยู่ระหว่าง 100-110 กม./ชม. หลายครั้งที่ต้องเร่งแซงก็สามาถใช้ความเร็วได้ จะเห็นว่าความเร็วที่เราใช้ไม่ใช่รูปแบบที่ใช้ทดสอบความประหยัดอย่างที่อื่นเขาทำกัน แต่อย่างที่บอกไปแล้วครับว่า ทีมงาน Auto-Thailand ต้องการทดสอบการใช้งานแบบเดินทางไกลที่ใช้ในชีวิตจริง เลยเลือกเอาความเร็วดังกล่าวมาทดสอบ ซึ่งฮอนด้า บริโอ้ ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังได้อัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 19.6 กม./ลิตร อาจจะดูน้อยกว่าสเปกที่เคลมมาแต่อย่างที่บอกครับ นี่เป็นความเร็วใช้งานจริง นั่งโดยสารกัน 3 คน ได้อัตราการสิ้นเปลืองขนาดนี้ถือว่าน่าพอใจแล้วครับ แต่ถ้าใช้ความเร็วลดลงอีกรับรองได้ว่าเกิน 20 กม./ลิตร แน่นอน และในส่วนเรื่องอัตราเร่งของเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรที่มากับเกียร์อัตโนมัติ ก็สามารถเรียกใช้พละกำลังได้อย่างเต็มที แต่ความเร็วท็อปสปีดอาจจะไม่มากเนื่องจากถูกล็อกความเร็วไว้ที่ประมาณ 145 กม./ชม.มาจากโรงงาน

อีกจุดที่ฮอนด้า บริโอ้ ทำได้น่าพอใจก็คือเรื่องของสมถรรนะของช่วงล่างที่เซตมาอย่างเกินตัวในรถขนาดอีโคคาร์ โดยฮอนด้า บริโอ้ให้ความคล่องตัว เกาะถนน ทั้งในทางโค้ง และทางตรง การบังคับควบคุมน้ำหนักพวงมาลัยกำลังดี พวงมาลัยจับกระชับมือวงเลี้ยวแคบสามารถกลับรถในซอยได้สบาย ระบบเบรกก็ให้ความมั่นใจทุกครั้งที่เรียกใช้งาน
สำหรับข้อด้อยยอดนิยมที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นอย่างมากของฮอนด้า บริโอ้ จะอยู่ที่ส่วนท้ายของตัวรถเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นท้ายไม่สวย สั้นไปแคบไปหรือเปล่า ไม่มีไล่ฝ้าหลังกับที่ปัดน้ำฝนหลัง ฝาปิดท้ายเป็นกระจกแผ่นเดียว ทำให้ดูรวมๆแล้ว ผู้ใช้งานอาจเกิดความไม่สะดวก และไม่มั่นใจในการใช้งาน อันนี้คงต้องฝากทางฮอนด้านำไปพัฒนาในรุ่นต่อไปด้วยแล้วกันครับ

สรุปที่ทีมงาน Auto-Thailand ได้พาฮอนด้า บริโอ้ ไปทดสอบในรูปแบบใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ยังขอย้ำว่า “เป็นรถขับขี่สนุก แม้มีเครื่องยนต์แค่ 1200 ซีซี.” บวกกับสมรรถนะช่วงล่าง การยึดเกาะถนนที่มั่นใจ แถมด้วยความประหยัดเชื้อเพลิง นี่ถ้าไม่มองพวกออฟชั่นบางตัวที่ขาดไปบวกกับราคาที่แรงไปสักนิด...ฮอนด้า บริโอ้ก็น่าสนอยู่เหมือนกันนะครับ...คงต้องไปทดลองขับดูครับว่า...สมรรถนะที่ได้มาจะอาจลบล้างกับออฟชั่นที่ขาดไปได้หรือเปล่า???...