รถใช้งานในบ้านเราส่วนใหญ่แล้วจะใช้กันแบบอเนกประสงค์ทั้งในการเดินทางและบรรทุกของในการทำมาหากิน ซึ่งแน่นอนนั่นคือ รถกระบะหรือรถปิกอัพที่เราใช้งานกันมาที่เมื่อก่อนนั้นจะเน้นการใช้งานในการบรรทุกของเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันนี้ รถกระบะหรือรถปิกอัพก็สามารถตอบสนองความสะดวกสบายในการใช้งาน และยังมีพละกำลังให้ใช้งานกับแบบว่าเหลือๆ แถมหรูหรากันแบบรถยนต์นั่งกันเลยทีเดียว เมื่อเร็วๆนี้ ทีมงาน Auto-Thailand ก็ได้มาโอกาศสัมผัสกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ของเชฟโรเลตที่มีพละกำลังมาให้ถึง 200 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ใช่ครับ...ตัวเลขนี้ไม่ผิดแน่ และมันถูกวางลงในบอดี้รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโดตัวใหม่นี้ จะตอบสนองดีแค่ไหนติดตามกันครับ ก่อนอื่นนั้น ขอแนะนำตัวรถเชฟโรเลต โคโลราโดใหม่ก่อน โดยตัวนี้ถือเป็นรุ่นปี 2014 ที่เน้นขุมพลังใหม่ ให้สมรรถนะสูงกว่าเดิม ตัวถังยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก ไฮไลต์ใหม่ๆที่เพิ่มขึ้นมาจะเน้นที่ขุมพลังเครื่องยนต์ตัวใหม่ ทั้งได้นำระบบมายลิงค์ ระบบอินโฟเทนเมนท์ล้ำยุคของเชฟโรเลตมาใช้ในรถกระบะ และจอแสดงข้อมูลบนมาตรวัดเรือนไมล์ พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดแบบใหม่ สำหรับโคโลราโด LTZ1 ตัวท็อปนั้น มากับระบบ มายลิงค์ ที่มีจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ระบบนำทางนาวิเกชั่น ฟังก์ชันแสดงภาพปกอัลบั้มเพลง วิดีโอ ภาพ และภาพยนตร์ DVD พร้อมด้วยลำโพงชุด 9 ตัว และช่องเสียบอุปกรณ์ USB/Aux ส่วนในรุ่น LTZ ก็มาพร้อมกับระบบมายลิงค์อีกหนึ่งรูปแบบ ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อฟังเพลง ดูภาพถ่ายหรือวิดีโอ สนทนาทางโทรศัพท์ และตั้งค่าระบบได้ผ่านหน้าจอทัชสกรีน โดยที่ผู้ใช้สามารถเลือกฟังเพลงจากเพลย์ลิสท์ส่วนตัว สนทนาทางโทรศัพท์แบบแฮนด์สฟรี และใช้ฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกมากมาย เช่นการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเปิดฟังวิทยุออนไลน์กว่า 70,000 สถานีทั่วโลก ผ่านทางแอพพลิเคชัน Stitcher และ TuneIn เชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะการขับขี่ได้ละเอียดยิ่งขึ้น ด้วยระบบแสดงผล Display Information Cluster (DIC) ที่นำเสนอข้อมูลต่างๆ อย่างครบครันบนมาตรวัดเรือนไมล์ โดยรวมถึง หน้าจอ ‘ECO Index’ หรือสถิติการประหยัดน้ำมันของผู้ขับขี่แต่ละราย โดยหากมีระดับการใช้น้ำมันที่ถือได้ว่าอยู่ในขั้นประหยัด หน้าจอดังกล่าวก็จะแสดงภาพใบใม้ขึ้นมา ส่วนหน้าจอสถิติก็จะแสดงข้อมูลมากมาย เช่นกราฟแท่งแสดงอัตราการใช้น้ำมันตลอดระยะทาง 50 กิโลเมตรหลังสุด โดยที่แต่ละแท่งจะแสดงอัตราการใช้น้ำมันในแต่ละช่วง 5 กิโลเมตรหลังสุด ทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการจอดรถด้วยระบบเซนเชอร์ถอยหลัง (Park-Assist System) ที่ติดตั้งบริเวณกันชนท้ายรถ เพื่อช่วยให้การจอดรถให้ง่ายดายขึ้น เชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ Duramax ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน รุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาให้มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อรองรับสมรรถนะที่สูงกว่าเดิม โดยสำหรับรุ่น 2.8 ลิตรนั้น มีพละกำลังสูงสุด 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ส่วนเครื่องยนต์รุ่น 2.5 ลิตรนั้น มีพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที โดยส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดรุ่นใหม่ และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วงทดสอบรถเชฟโรเลต โคโลราโดใหม่ กับ ทีมงาน Auto-Thailand สำหรับการทดสอบรถเชฟโรเลต โคโลราโดใหม่นี้ เริ่มต้นที่โรงแรมสวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค หลังจากรับฟังบรรยายสรุปแนะนำจากทีมงานเชฟโรเลตเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมออกเดินทาง โดยใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-บางเลน-พนมทวน-แก่งเสี้ยน-กาญจนบุรี รวมระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางทดสอบครั้งนี้มีรถเชฟโรเลต โคโลราโดใหม่ให้ได้ขับขี่ทดสอบเรียกว่าเกือบครบรุ่นเลยก็ว่าได้ ทีมงาน Auto-Thailand ได้ขับทดสอบในรถเชฟโรเลต โคโลราโดใหม่ 4 ประตู เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร 200 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีผู้ร่วมเดินทางทดสอบอีก 1 ท่าน และที่พิเศษกว่าทุกครั้งเท่าที่เคยทดสอบมาคือ เราจะได้ทดสอบสมรรถนะกันทุกรูปแบบ ทั้งในทางเรียบบนถนนลาดยาง ทางฝุ่นลูกรัง และทางแบบออฟโรดในป่า ในการเดินทางทดสอบแบ่งเป็น 5 ช่วง คือช่วงที่ 1-2 จะเป็นการขับในเส้นทางเรียบบนถนนลาดยางปรกติ เริ่มออกเดินทาง ทีมงาน Auto-Thailand เป็นผู้ขับขี่ก่อน ความรู้สึกในการนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม เรียกว่าการทดสอบครั้งนี้ทีมงานเชฟโรเลตจะเน้นให้ได้สัมผัสสมรรถนะของเครื่องยนต์ Duramax ใหม่ เริ่มเคลื่อนตัวออกสู่ถนนด้วยสภาพการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด แต่โชคดีที่เราเดินทางกันเป็นคณะและมีรถทีมงานวิ่งนำขบวน ทำให้ค่อนข้างจะสะดวก เรียกว่าช่วงออกตัวพละกำลัง 200 แรงม้าก็ยังไม่ได้แสดงพลังออกมาให้เห็นนัก เสียงเครื่องยนต์ที่ในรุ่นก่อนนี้ค่อนข้างจะดัง ในเครื่องตัวใหม่นี้ก็จะเบาลงนิดหน่อย และเมื่อหลุดออกจากการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดสู่ทางด่วนที่มีสภาพการจราจรที่ค่อนข้างโล่ง จึงได้มีโอกาสในการทดสอบพละกำลัง 200 แรงม้า โดยในการเร่งความเร็วขึ้นนั้นก็ทำได้พอใช้ เรียกว่าพอถึงรอบการทำงานเกินกว่า 2000 รอบกว่าๆจะให้อัตราเร่งได้ทันใจ เมื่อใช้ความเร็วสูงในเกียร์ 6 ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง รอบเครื่องไม่ถึง 2000 รอบ ถือว่าพละกำลังมาในรอบต่ำ แต่ถ้าทางไม่ได้โล่งจริงๆ เกียร์ 6 แทบไม่ได้ใช้เลย และถ้าไม่ได้วิ่งที่ความเร็วสูงเกินกว่า 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และต้องการเร่งแซงจะต้องเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำเพื่อเรียกกำลัง 200 แรงม้าออกมาใช้งาน เท่าที่สังเกตการทดเกียร์น่าจะเหมาะกับการวิ่งทางยาวๆโล่งๆ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เรียกพลังบ่อยๆ โดยตลอดเส้นทางเรียกว่าเราใช้ความเร็วกันตลอด เนื่องจากต้องทำเวลา เพื่อที่จะได้ใช้เวลาในช่วงออฟโรดมากหน่อย เรียกว่าอัตราเร่ง พละกำลัง 200 แรงม้าในทางเรียบที่ได้สัมผัสนั้นยังไม่ประทับใจ แต่ในเรื่องของช่วงล่าง การยึดเกาะถนน ระบบเบรก รวมถึงการบังคับควบคุมพวงมาลัยทำได้ดีไม่เสียชื่อเชฟโรเลตเลยทีเดียว มาถึงช่วงที่ 3-4 เป็นเส้นทางแบบออฟโรดเข้าไปในป่าและกลับออกมาในเส้นทางเดิม หลังจากจัดรูปขบวนกันเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มเดินทางเข้าสู่เส้นทางออฟโรด ที่ก็ไม่โหดมากนัก จากคำแนะนำของทีมงานบอกผ่านวิทยุสื่อสารว่า แค่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 4H ก็เอาอยู่ ตลอดเส้นทางเป็นทางดิน มีโคลนบ้าง บางช่วงต้องขับผ่านทางน้ำที่มีความลึกประมาณ 50-60 เซนติเมตร ก็ผ่านได้อย่างง่ายดาย และบางช่วงนั้นเราต้องขับช้าจากสภาพเส้นทางหลุมบ่อก็สามารถใช้งาน จากแรงบิดมหาศาลเรียกว่าแค่ปล่อยคลัตช์ให้เคลื่อนตัวโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง เจอโคลนเจอหลุมหรือแม้แต่ตอนผ่านทางน้ำเติมคันเร่งหน่อยก็ขับขี่ผ่านไปได้อย่างสบาย นี่ถ้าได้ขับเกียร์อัตโนมัติน่าจะให้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นอีก และในบางช่วงต้องลงทางชันก็ได้ลองใช้ระบบ HDC หรือ Hill Descent Control ที่จะทำงานรักษาความเร็วเวลาลงทางชันโดยไม่ต้องใช้เบรก เรียกว่าจุดเด่นของเชฟโรเลต โคโลราโดใหม่ตัวนี้ที่แสดงสมรรถนะให้ประทับใจอยู่ในการใช้งานแบบออฟโรดนี่เอง ออกจากเส้นทางออฟโรด คณะทดสอบก็มุ่งหน้าสู่ ศูนย์อนุรักษ์ช้าง บ้าน ช.ช้างชรา ซึ่งเป็นช่วงที่ 4 เพื่อทำกิจกรรมในการขนต้นกล้วยมาให้เป็นอาหารช้าง โดยแบ่งเป็นทีมๆละ 2 คัน มีเวลาในการขนต้นกล้วยขึ้นรถ 15 นาที แล้วนำกลับมาชั่งน้ำหนักรวมทั้ง 2 คัน หลังเสร็จกิจกรรมที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง บ้าน ช.ช้างชรา จึงเดินทางเข้าที่พักที่ หินตก ริเวอร์แคมป์ พักผ่อนกันตามอัธยาศัย เช้าวันรุ่งขึ้นคณะทดสอบออกเดินทางเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯเป็นอันเสร็จภารกิจในการทดสอบเชฟโรเลต โคโลราโดใหม่ครั้งนี้ ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ เชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ Duramax 200 แรงม้า ที่มาพร้อมแรงบิด 500 นิวตันเมตร พละกำลังใช้งานในทางเรียบดูยังไม่ประทับใจนัก อาจมาจากการทดเกียร์ที่ดูไม่เหมาะกับบ้านเรานัก แต่เมื่อใช้พละกำลังขับขี่ในเส้นทางออฟโรด อยากบอกว่า...โอ้มันสุดยอดจริงๆเลย...เรียกว่าถ้าได้ลองแล้วจะหนีไม่ออกจริงๆนะครับ
รถห่วย ตามราคา คือ รถกระทะในตลาดไทยอืด ล็อคความเร็วจนทำให้เร่งได้ไม่เต็มพิกัด จนซดน้ำมัน
รถกระบะในตลาดไทยมีอัตราเร่งอืด ล็อคความเร็วสูงสุด จนไม่สามารถลากรอบสุดในเกียร์สุดท้าย ทำให้ซดน้ำมันมากกว่าเดิม
เซ็งว่ะ