auto-thailand.com
บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวยางรถยนต์บริดจสโตน “POTENZA S001 RFT” ยางรันแฟลต ใหม่ พร้อมเชิญคณะสื่อมวลชนร่วมทดสอบประสิทธิภาพ ณ สนาม Thai Bridgestone Proving Ground จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยมุ่งเน้นให้ได้สัมผัสประสิทธิภาพของ “POTENZA S001 RFT” ในสภาพพื้นผิวถนนอันหลากหลาย พร้อมเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยทีมงาน Auto-Thailand ก็มีโอกาสในการเข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ “POTENZA S001 RFT” ยางรันแฟลต เจเนอเรชั่นใหม่ กันก่อน “POTENZA S001 RFT” ยางรันแฟลต เจเนอเรชั่นใหม่ เป็นยางรถยนต์เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริดจสโตนได้คิดค้นและพัฒนา “เทคโนโลยีรันแฟลต” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของความปลอดภัยมาอย่างยาวนาน เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ถึงแม้จะสูญเสียความดันลมยางก็ตาม ยางรันแฟลตของบริดจสโตน ได้รับการยอมรับให้เป็นยางมาตรฐานติดรถกับรถยนต์ Porsche 959 ในช่วงทศวรรษ 1980 เป็นครั้งแรก และตั้งแต่นั้นมา ยางรันแฟลตก็ได้มีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถยนต์สมรรถนะสูงหลากหลายยี่ห้อมากขึ้น จากยางรันแฟลตเส้นแรกสู่ยางรันแฟลตเจเนอเรชั่นใหม่ “POTENZA S001 RFT” ยางสุดยอดสมรรถนะแห่งความปลอดภัย ให้สัมผัสแห่งการขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งกว่า เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับยางเรเดียลธรรมดา มีการออกแบบดอกยางมาเป็นพิเศษ ดอกยางด้านในให้ประสิทธิภาพชั้นเลิศสำหรับการขับขี่บนพื้นถนนเปียกแห้ง ในขณะที่ดอกยางด้านนอกให้สมรรถนะเต็มพิกัดสำหรับการขับขี่บนพื้นถนนเปียก “POTENZA S001 RFT” ยางรันแฟลต เจเนอเรชั่นใหม่ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งกว่า บริดจสโตนได้คิดค้นและพัฒนา “เทคโนโลยีรันแฟลต” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของความปลอดภัยมาอย่างยาวนาน เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ถึงแม้ว่าจะสูญเสียความดันลมยางก็ตาม ยางรันแฟลตของบริดจสโตน ได้รับการยอมรับให้เป็นยางมาตรฐานติดรถกับรถยนต์ Porsche 959 ในช่วงทศวรรษ 1980 เป็นครั้งแรก และตั้งแต่นั้นมา ยางรันแฟลตก็ได้มีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถยนต์สมรรถนะสูงมากมายหลายยี่ห้อมากขึ้น จากยางรันแฟลตเส้นแรกสู่ยางรันแฟลตเจเนอเรชั่นใหม่ POTENZA S001 RFT ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคต บริดจสโตนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการในด้านสมรรถนะ ตลอดจนความปลอดภัยในการขับขี่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ยางรันแฟลตสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 80 กม. ที่ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. แม้ไม่มีลมยาง ปลอดภัยไม่สูญเสียการควบคุมรถและสามารถขับขี่ต่อไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย ไม่เสียเวลา เสี่ยงต่ออันตรายหรืออุบัติเหตุหากต้องจอดรถเพื่อทำการเปลี่ยนยางอะไหล่ข้างทาง หรือในพื้นที่ที่ไม่ค่อยปลอดภัย ยางรันแฟลตยังรักษ์สิ่งแวดล้อม คือไม่จำเป็นต้องมียางอะไหล่ ทำให้น้ำหนักรถลดลง จึงช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมจากการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตยางลง 1 เส้น ทั้งยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในรถเมื่อไม่ต้องมียางอะไหล่ ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น สัมผัสแห่งการขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งกว่า ยางรันแฟลต เจเนอเรชั่นใหม่ ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ใกล้เคียงยางเรเดียลธรรมดาทั่วๆ ไป ยางเทคโนโลยีรันแฟลต ได้รับการออกแบบโครงสร้างมาเป็นพิเศษ โดยมีการเสริมความแข็งแรงบริเวณแก้มยางด้านในมากกว่ายางเรเดียลธรรมดาทั่วๆ ไป ซึ่งทำให้ความนุ่มนวลขณะขับขี่น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยางเรเดียลธรรมดาทั่วๆ ไป นอกจากนี้ เมื่อการสูญเสียความดันลมยางเกิดขึ้น โครงสร้างบริเวณแก้มยางด้านในอาจเกิดการบิดงอ หรือเปลี่ยนรูปทรงบ้างเล็กน้อย (แต่ไม่เป็นอันตรายใดๆ หากผู้ขับขี่ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือประจำรถยนต์แต่ละคัน) และยังทำให้เกิดความร้อนสะสมเพิ่มขึ้นภายในยาง ดังนั้น ยางรันแฟลต เจเนอเรชั่นใหม่ของบริดจสโตน จึงได้ถูกออกแบบให้มีความนุ่มนวลขณะขับขี่มากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการลดความร้อนสะสมภายในยาง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ New Sidewall-reinforced Rubber “POTENZA S001 RFT” ใช้เนื้อยางเสริมพิเศษสูตรใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี NanoPro-TechTM ช่วยให้บริเวณแก้มยางด้านในมีความแข็งแรงมากขึ้น และช่วยลดความร้อนสะสมจากการเปลี่ยนรูปทรงของแก้มยาง เมื่อขับขี่ขณะสูญเสียความดันลมยางให้เกิดขึ้นน้อยลงถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อยางเสริมความแข็งแรงที่ใช้ในยางรันแฟลตรุ่นก่อน โดยอาศัยหลักการกระจายตัวของคาร์บอนที่เป็นระเบียบมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นระหว่างโมเลกุลของคาร์บอน เมื่อมีน้ำหนักกดทับบนยางขณะสูญเสียความดันลมยาง เทคโนโลยี Cooling FinTM Cooling FinTM เทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการออกแบบพื้นผิวบริเวณแก้มยางด้านนอกแบบพิเศษ เพื่อช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณแก้มยางได้เร็วยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในขณะสูญเสียความดันลมยาง โดยนำหลักการการไหลเวียนของกระแสลมตามธรรมชาติมาเป็นแนวคิดในการออกแบบสำหรับยางรันแฟลตเจเนอเรชั่นใหม่ ประสิทธิภาพการขับขี่ดีเยี่ยมทั้งถนนแห้งและถนนเปียก ยางรันแฟลต POTENZA S001 RFT เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับยางเรเดียลธรรมดา POTENZA S001 ที่มีการออกแบบดอกยางมาเป็นพิเศษ ดอกยางด้านในให้ประสิทธิภาพชั้นเลิศสำหรับการขับขี่บนพื้นถนนเปียกแห้ง ในขณะที่ดอกยางด้านนอกให้สมรรถนะเต็มพิกัดสำหรับการขับขี่บนพื้นถนนเปียก ช่วงทดสอบ Bridgestone POTENZA S001 RFT กับทีมงาน Auto-Thailand สำหรับการทดสอบยางรันแฟลต Bridgestone POTENZA S001 RFT ครั้งนี้มาทำการทดสอบกันที่สนามทดสอบ Thai Bridgestone Proving Ground ที่ถือว่าเป็นสนามที่ได้มาตราฐานแห่งหนึ่ง โดยรูปแบบในการทดสอบแบ่งออกเป็น 2 สถานี คือ สถานี Wet Handling ทดสอบการขับขี่บนพื้นเปียก และสถานี NVH ทดสอบเสียงของยางและความนุ่มนวล ทั้งสองสถานีใช้รถยนต์ BMW ในการทดสอบ เริ่มกันที่สถานี Wet Handling ทดสอบการขับขี่บนพื้นเปียก โดยใช้ไลน์สนามด้านใน โดยมีทีมงาน Bridgestone เป็นผู้ขับขี่พาดูไลน์สนามก่อนด้วยรถยนต์ BMW 320d หนึ่งรอบก่อนจะกลับมาเป็นผู้ขับทดสอบเอง โดยใช้รถยนต์ BMW 520d และเพื่อให้สัมผัสถึงสมรรถนะความแตกต่างจึงใช้รถยนต์ BMW 520d สองคัน คันแรกใส่ยางรันแฟลต Potenza RE050 RFT รุ่นก่อนหน้าที่ทำตลาดอยู่ ส่วนคันที่สองใส่ยางรันแฟลต Potenza S001 RFT รุ่นใหม่ โดยให้ขับทดสอบกันคนละ 2 รอบ ในการขับทดสอบใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. แถมด้วยรถยนต์ BMW 520d ทั้งสองคันจะปิดระบบ DSC ที่เป็นระบบช่วยในการขับขี่ เพื่อที่จะได้สัมผัสถึงสมรรถนะของยางได้อย่างแท้จริง บวกกับพื้นสนามจะมีการฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลา เรียกว่าได้ทดสอบกันแบบไม่มีตัวช่วย เน้นสมรรถนะของยางล้วนๆ ออกตัวจากจุดสตาร์ตด้วยรถยนต์ BMW 520d กับยางรันแฟลต Potenza RE050 RFT อย่างที่บอกไปแล้วว่าพื้นสนามเป็นทางเปียก ช่วงแรกของการออกตัวเป็นทางตรงที่สามารถจะใช้ความเร็วได้พอประมาณ หลังจากนั้นจะต้องหลบหลีกไพล่อนที่วางดักไว้ แล้ววิ่งต่อไปยังโค้งขวาแบบกว้างๆ หลังจากนั้นก็จะเป็นโค้งซ้าย โค้งขวาอีก เรียกว่าต้องการเค้นสมรรถนะของยางให้เห็นกันเลยทีเดียว ความรู้สึกที่สัมผัสได้กับการขับขี่ทดสอบ Potenza RE050 RFT รอบแรกนั้นด้วยที่เรายังไม่ได้ใช้ความเร็วมากนัก แต่ก็พอที่จะสัมผัสถึงความมั่นใจได้ว่าถ้าใช้ความเร็วมากกว่านี้ ก็น่าจะเอาอยู่ ในรอบที่สองจึงลองเพิ่มความเร็วจากที่ขับขี่ในรอบแรก โดยก็ยังให้ความมั่นใจอยู่ ถึงแม้จะรู้สึกลื่นๆบางแต่ก็ยังสามารถควบคุมได้ หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนมาขับทดสอบรถยนต์ BMW 520d กับยางรันแฟลต Potenza S001 RFT รุ่นใหม่ อีกสองรอบเช่นกัน แต่ในครั้งนี้เราเริ่มจำไลน์สนามได้ บวกกับความที่ต้องการที่จะสัมผัสความแตกต่างจึงใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น เรีกกว่า Potenza S001 RFT รุ่นใหม่ สามารถให้ความมั่นใจในการขับขี่ในทางเปียกได้ค่อนข้างดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมพวงมาลัยทั้งในตอนที่อยู่ในโค้ง หรือแม้แต่ในยามที่ต้องหักหลบสิ่งกีดขวางก็สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ การยึดเกาะและรีดน้ำออกจากหน้ายางก็ทำได้อย่างหน้าพอใจ ทำให้การขับขี่ไม่ว่าจะเป็นโค้งซ้ายขวาต่อเนื่อง ในสภาพพื้นเปียกก็ไม่ทำให้รถเสียอาการ โดยส่วนตัวแล้วก็ยังให้ความรู้สึกในการขับขี่ดีกว่า Potenza RE050 RFT หลังจากนั้น ทีมงาน Auto-Thailand ก็เปลี่ยนมาทำการทดสอบที่สถานี NVH ซึ่งสถานีนี้จะเน้นให้สัมผัสถึงความแตกต่างทั้งเรื่องเสียงของยาง และความนิ่มนวล สำหรับสภาพเส้นทางจะเป็นทางตรงยาว วิ่งผ่านพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบในแบบต่างๆ โดยใช้รถยนต์ BMW 320d 2 คัน โดยคันแรกใส่ยาง Potenza RE050 RFT อีกคันใส่ยางยางรันแฟลต Potenza S001 RFT รุ่นใหม่ เกือบลืมบอกว่า ในสถานีนี้เราไม่ต้องขับขี่เองจะมีทีมงาน Bridgestone เป็นผู้ขับขี่ให้ เราเพียงแค่ค่อยจับความแตกต่างของยางทั้งสองรุ่น ในรอบแรกเรานั่งโดยสารไปกับ BMW 320d ใส่ยาง Potenza RE050 RFT อย่างจะบอกว่าเสียงยางก็ไม่ได้ดังมากไปกว่ายางทั่วไปเลย ส่วนความนุ่มนวลในการนั่งโดยสารที่ในยางรันแฟลตรุ่นเก่าจะได้รับการบ่นว่ากระด้างกว่ายางธรรมดาจากการที่ต้องเสริมความแข็งแรงของแก้มยางให้รับน้ำหนักได้ในยามที่ไม่มีลมยาง แต่ Potenza RE050 RFT ก็ทำได้ดีขึ้น แต่ก็ยังมีอาการอยู่บ้าง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาในยางรุ่นใหม่ๆ หลังจากนั่งทดสอบกับ Potenza RE050 RFT สองรอบ จึงเปลี่ยนมานั่งโดยสารไปกับ BMW 320d ใส่ยาง Potenza S001 RFT รุ่นใหม่ ดูบ้าง เรียกว่าแรกสัมผัสกับยางรุ่นใหม่นี้ ที่ชัดเจนคือ ให้ความนุ่มนวลกว่า Potenza RE050 RFT แต่ในเรื่องของเสียงเมื่อต้องวิ่งผ่านพื้นผิวที่ไม่เรียบ หรือรอยต่อถนน Potenza S001 RFT รุ่นใหม่ ก็สามารถเก็บเสียงได้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง โดยอยากบอกว่ายางรันแฟลตในปัจจุบันได้รับการพัฒนาไปมาก โดยเฉพาะ Potenza S001 RFT รุ่นใหม่ สามารถให้สมรรถนะทั้งเรื่องของเสียงยาง และความนุ่มนวลที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ายางทั่วไป แต่ยางรันแฟลตจะให้ความปลอดภัยมากกว่าในยามฉุกเฉินที่อาจจะต้องวิ่งโดยไม่มีลมยางในเวลาจำเป็น เพื่อให้เห็นภาพด้านสมรรถนะความปลอดภัยในการใช้ยางรันแฟลต ทางทีมงาน Bridgestone จึงมีการสาธิตโดยการจำลองสถานการณ์เมื่อต้องวิ่งมาด้วยความเร็ว โดยไม่มีลมยางในเวลากระทันหัน ในรอบแรกใช้ยางรถยนต์ทั่วไปวิ่งเข้าโค้งด้วยความเร็วแล้วใช้เครื่องมือพิเศษปล่อยลมยางออก ผลที่ออกมาคือ รถยนต์เสียการทรงตัว พร้อมกับความเสียหายกับล้อแม็กซ์และยาง ดีที่ว่าเป็นการสาธิตทำให้คิดถึงในการใช้งานจริงว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบนถนนจริงจะเป็นเช่นไร ในรอบที่สอง ทีมงาน Bridgestone จึงได้เปลี่ยนมาใส่ยางรันแฟลต Potenza S001 RFT และทำการวิ่งสาธิตเหมือนเดิม หลังปล่อยลมยางออกแล้ว รถยนต์ก็ยังที่สามารถจะควบคุมและชลอความเร็วลงมาได้ แทบไม่มีความเสียหายใดๆเลย เรียกว่าชัดเจนมากในเรื่องของการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ตรงนี้ต้องอาศัยทักษะในการควบคุมรถในเวลาฉุกเฉินจึงจะสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ Bridgestone Potenza S001 RFT เป็นยางรันแฟลตอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาให้มีความนุ่มนวลเพิ่มมากขึ้น สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ไว้ใจได้ พร้อมกับความปลอดภัยในการใช้งานในยามฉุกเฉิน แต่ก็มีข้อจำกัดที่ว่ายังมีราคาสูงบวกกับต้องใช้กับกระทะล้อเฉพาะ ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในรถหรู จึงยังไม่สามารถใช้งานกับรถยนต์ทั่วๆไปได้
เสียดายนะที่ใช้กับรถทั่วไปไม่ได้