เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส จรัญสนิทวงศ์ ศูนย์บริการและผู้แทนจำหน่าย บีเอ็มดับเบิลยู อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดกิจกรรมเปิดประสบการณ์ในการขับขี่ยนตรกรรมแห่งโลกอนาคต โดยเชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสและทดลองขับ บีเอ็มดับเบิลยู อีไดร์ ปลั๊กอินไฮบริด กับกิจกรรม BMW eDRIVE DRIVING EXPERIENCE 2016 BY PERFORMANCE MOTORS. เส้นทางกรุงเทพฯ - จ.นครปฐม โดยรุ่นรถที่ได้ทดสอบในครั้งนี้ ได้แก่ BMW 330e M SPORT และ X5 xDrive40e M Sport มุ่งสู่ปานเทวี ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา สามพราน
สำหรับรถที่ใช้ในการขับขี่ครั้งนี้ ทาง เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ได้จัดเตรียม บีเอ็มดับเบิลยู อีไดร์ ปลั๊กอินไฮบริด รุ่น 330e M SPORT และ X5 xDrive40e M Sport ให้ทางสื่อมวลชนได้สัมผัสเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo อันทรงพลังและมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง
BMW X5 xDrive40e M Sport รถเอสยูวีขุมพลังไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาดความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 230 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 83 กิโลวัตต์ (113 แรงม้า) และแรงบิดในสภาวะรวม 450 นิวตันเมตร ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้สมรรถนะคล่องตัวในทุกโหมดการขับขี่ อีกทั้งยังวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร (โดยประมาณ) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 31.3 กม./ลิตร ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 76 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งค่าดังกล่าวทดสอบโดย BMW ภายใต้ความเร็วที่กำหนด ซึ่งหากนำมาใช้งานจริงอาจแตกต่างไปตามสภาพการใช้งานของผู้ขับขี่
โดยทั้ง 2 รุ่นสามารถเลือกโหมดขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ 3 แบบ คือ
โหมด Auto eDrive จะเป็นการขับขี่ที่ระบบจะทำงานผสมผสานกันระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังออกมาให้ใช้งาน
โหมด MAX eDrive จะเป็นโหมดที่ขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวที่สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชม. เมื่อความเร็วเกินกว่านี้ เครื่องยนต์จะทำงานโดยอัตโนมัติ
โหมด Save Battery เมื่อแบตเตอรี่ในระบบไฮบริดต่ำ ขับขี่โดยใช้เครื่องยนต์โหมดนี้จะทำให้สามารถชาร์จไฟเข้าระบบได้รวดเร็วขึ้น
ช่วงทดสอบ BMW 330e M SPORT และ BMW X5 xDrive40e M Sport
กับทีมงาน Auto-Thailand
ทีมงาน Auto-Thailand เริ่มการทดสอบกับ BMW X5 xDrive40e M Sport โดยมีผู้ร่วมทดสอบอีก 1 ท่าน โดยขอเป็นผู้โดยสารก่อน ด้วยระยะทางการขับขี่ที่ไม่มาก เราจึงแบ่งกันขับขี่คนละครึ่งทางโดยแวะสลับกันเอง เพื่อจะได้ลองสมรรถนะของ BMW X5 xDrive40e M Sport กันแบบพอหอมปากหอมคอ
สำหรับความรู้สึกในการนั่งเป็นผู้โดยสารนั้น เรียกว่า ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ BMW X5 xDrive40e M Sport ที่มีความกว้างขวางใหญ่โต เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั่งสบาย ให้ความนุ่มนวลจากระบบช่วงล่างที่หนึบนุ่ม ภายในให้ความเรียบหรูในสไตล์ BMW
ในด้านการขับขี่ถือว่าเป็นรถที่ขับขี่ง่าย ถึงแม้ว่าตัวรถจะใหญ่ พวงมาลัยปรับความหนืดตามความเร็วและตามโหมดการขับขี่ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจ คล่องตัวในทุกเส้นทาง เรียกว่าลืมไปเลยว่ากำลังขับขี่รถ SUV คันใหญ่ๆ
หลังจากแวะพักรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อย ทีมงาน Auto-Thailand ได้เปลี่ยนมาทดลองขับขี่ BMW 330e M SPORT โดยระบบปลั๊กอินไฮบริดจะเหมือนกันกับในรุ่น BMW X5 xDrive40e M Sport แต่จะต่างกันที่ไม่มีระบบขับเคลื่อน xDrive และพละกำลังที่ดูจากตัวเลขแล้วน้อยกว่า
ความรู้สึกจากการขับขี่ BMW 330e M SPORT ถึงแม้ว่าตัวเลขแรงม้า แรงบิดจะน้อยกว่า แต่เมื่อได้ขับขี่สมรรถนะของ BMW 330e M SPORT ให้การขับขี่ที่สนุก สามารถเรียกอัตราเร่งได้อย่างรวดเร็ว อย่างในช่วงที่ทดลองขับขี่ด้วยโหมด MAX eDrive พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถฉุดตัวรถพุ่งไปได้อย่างทันใจ เมื่อรวมกับการเป็นรถยนต์นั่งระบบช่วงล่างที่เซตมาค่อนข้างสปอร์ต ทำให้การขับขี่ควบคุมทำได้คล่องตัว เอาเป็นว่าเมื่อกระแทกคันเร่งก็สามารถรับรู้อาการหลังติดเบาะได้ในทันที
ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ จากการที่ได้ทดลองขับขี่ BMW 330e M SPORT และ BMW X5 xDrive40e M Sport ที่ถึงแม้จะมีระยะทางและเวลาในการขับขี่ที่น้อยไปสักนิด แต่ก็พอจะได้สัมผัสถึงเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งพละกำลังที่มีมาให้แบบเหลือเฟือ รวมถึงระบบช่วงล่างที่ให้ความมั่นใจในการขับขี่ของ BMW ที่สำคัญยังมาพร้อมความหรูหรา ความแรง และความประหยัด ที่เชื่อแน่ว่ายากที่ทั้งหมดจะมาครบพร้อมกันในรถคันเดียว และยังหมดห่วงจากการรับประกัน และการดูแลนานถึง 5 ปี