dot dot
dot
dot



car2day



เปิด 6 ข้อก่อนคืดซื้อ EV Car ตอบโจทย์เทรนด์ Eco-Friendly แค่ไหน

เทรนด์ Eco-Friendly หรือ เทรนด์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กลายเป็นกระแสหลักของโลกที่สอดแทรกอยู่ในทุกวงการเลยก็ว่าได้ ไม่เว้นแม้แต่ในวงการตลาดรถยนต์ ที่ตอนนี้รถยนต์พลังงานทางเลือกอย่าง “รถยนต์ไฟฟ้า EV” (Electric Vehicle) กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับประเทศไทยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น มีรถยนต์ไฟฟ้าวางจำหน่ายในบ้านเราจำนวนไม่น้อย


TSE,AUTOTU,วิศวฯยานยนต์,วิศวฯธรรมศาสตร์,รถยนต์พลังงานไฟฟ้า,JCCOTH,รถยนต์ไฟฟ้า,รถยนต์ EV,Electric Vehicle,รถยนต์ไฟฟ้า EV


ทำให้หลายคนที่กำลังอยากจะเปลี่ยนรถใหม่และมีความสนใจอยากจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า อาจมีข้อสงสัยและคำถามมากมายอยู่ในหัว วันนี้ TSE จึงได้รวบรวมเรื่องที่ควรรู้ก่อนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจาก อาจารย์ ดร.สนันตน์เขม อิชโรจน์ ภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์ (AUTO-TU) คณะวิศวกรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา มาช่วยไขข้อสงสัย จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย! 


เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยแท้จริง !


รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกันคือ 1. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) 2. รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) 3. รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) และ 4. รถยนต์ไฟฟ้าเซลเชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV) (ที่มา : สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย) แต่ใน 4 ประเภทนี้ มีอยู่สองประเภทที่ไม่ใช่น้ำมัน คือ BEV เเละ FCEV จึงตอบโจทย์ในเรื่องการลดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ซึ่งหลักการทำงานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BEV (Electric Vehicle) ใช้เพียงแค่พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเท่านั้น เมื่อแบตเตอรี่หมดก็สามารถชาร์จไฟได้ ทำให้เป็นที่จับตามองของตลาดโลกเป็นอย่างมาก


ประหยัดค่าเชื้อเพลิงรถได้มากกว่า 3 เท่า

แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในระยะยาว รถยนต์ไฟฟ้านับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะค่าซ่อมบำรุง และค่าพลังงานไฟฟ้านั้นมีราคาถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง โดยน้ำมันนั้นมีราคาผันผวนตามตลาดโลก ส่วนค่าไฟฟ้านั้นค่อนข้างคงที่ โดยจะเสียค่าไฟครั้งละ 90-150 บาท/การชาร์จหนึ่งครั้ง หรือประมาณ 0.60 - 1 บาท/กิโลเมตร เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 บาท/กิโลเมตร ทำให้สามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงรถไปได้มากกว่า 2-3 เท่า ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น รถยนต์ธรรมดาแบบใช้น้ำมันจะมีความเสื่อมของเครื่องยนต์มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนประกอบน้อยกว่า และไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทำให้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ทั่วไป แต่สิ่งที่ต้องระวังคือความเสียหายที่ตัวแบตเตอรี่ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่แพงที่สุดชิ้นหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้า ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 372,000 - 558,000 บาท/คัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่มีความทนทานและมีอายุการใช้งานสูง จึงไม่ได้รับความเสียหายโดยง่าย 


มีระบบตัดไฟเมื่อแบตเพียงพอ หมดกังวลหากชาร์จแบตทิ้งไว้ 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าแบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญและมีราคาสูง ทำให้หลายคนมีความกังวลและส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ซึ่งแบตเตอรี่และมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้านั้น มีการออกแบบระบบให้ถูกใช้ซ้ำ ๆ แม้จะมีการชาร์จบ่อยครั้ง ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ แถมยังมีระบบที่ช่วยตัดไฟเมื่อระดับไฟฟ้าในแบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่ทั้งนี้ แบตเตอรี่ก็สามารถเสื่อมสภาพตามการใช้งานได้ โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-8 ปี ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” และ “ระยะทาง” เป็นตัวกำหนด เช่น “Nissan LEAF” มีการรับประกันอายุของ แบตเตอรี่เอาไว้ที่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ส่วนด้าน “MG ZS EV” มีการรับประกันอายุของแบตเตอรี่เอาไว้ที่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร ซึ่งอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่ากับอายุการใช้งานของรถยนต์ทั่วไปเลยก็ว่าได้


TSE,AUTOTU,วิศวฯยานยนต์,วิศวฯธรรมศาสตร์,รถยนต์พลังงานไฟฟ้า,JCCOTH,รถยนต์ไฟฟ้า,รถยนต์ EV,Electric Vehicle,รถยนต์ไฟฟ้า EV


เข้าถึงการชาร์จไฟหลากรูปแบบ 


ปัจจุบันการชาร์จไฟของรถยนต์มี 3 แบบ คือ Quick Charger การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charging) โดยใช้ตู้ EV Charger (สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า) จ่ายไฟเข้าที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง ใช้เวลาการชาร์จ 40-60 นาที ซึ่งเป็นวิธีการชาร์จไฟที่เร็วที่สุด ใช้ได้กับหัวชาร์จ CHAdeMo นิยมใช้ในแถบเอเชีย และหัวชาร์จ CCS นิยมใช้ในยุโรปและอเมริกา Normal Charger แบบเครื่องชาร์จ Wall Box เป็นการชาร์จด้วยไฟกระแสไฟฟ้าสลับ (AC Charging) ส่วนใหญ่จะเห็นกันในรูปแบบของตู้ชาร์จติดผนังตามห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรม ระยะเวลาในการชาร์จอาจมากถึง 4-9 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ และสเปครถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น และ Normal Charger แบบต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชาร์จไฟที่บ้าน เพราะใช้เวลาชาร์จนานที่สุดเฉลี่ยที่ 12-15 ชั่วโมง โดยมิเตอร์ไฟของบ้านต้องสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าขั้นต่ำ 15(45)A และเต้ารับไฟในบ้านต้องได้รับการติดตั้งใหม่ ให้เป็นเต้ารับเฉพาะสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ควรติดตั้งระบบตัดไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็มหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน ปัจจุบันบริษัทเอกชนหลายแห่งมีการนำตัวชาร์จนี้เข้ามาจำหน่ายและพร้อมให้บริการติดตั้งตามบ้านแล้ว


มีหลากแบรนด์ดัง หลายสัญชาติให้เลือกใช้ 

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเริ่มคึกคักอย่างต่อเนื่อง เพราะหลายแบรนด์ต่างเข้ามาตีตลาดทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น การตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคนเป็นหลัก เช่น FOMM One รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น ขนาด 4 ที่นั่ง แบตเตอรี่ความจุ 11.8 kWh วิ่งได้ไกล 160 กม./ชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จจะมีเฉพาะแค่ AC Type2 MG ZS EV รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า PMSM 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 44.5 kWh วิ่งได้ไกลถึง 337 กม./ชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง สําหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2 Hyundai IONIQ EV รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง โดยสูงสุดถึง 204 แรงม้า แรงบิด 395 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ ความจุ 28 kWh วิ่งได้ไกลถึง 280 กม./ชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2 ฯลฯ 


TSE,AUTOTU,วิศวฯยานยนต์,วิศวฯธรรมศาสตร์,รถยนต์พลังงานไฟฟ้า,JCCOTH,รถยนต์ไฟฟ้า,รถยนต์ EV,Electric Vehicle,รถยนต์ไฟฟ้า EV


หากต้องเดินทางไกลต้องแม่นวางแผน


ในปัจจุบันจำนวนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังไม่เป็นที่นิยมเท่าในต่างประเทศ เนื่องจากทัศนคติของคนทั่วไปยังมีความกังวลและไม่เข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง อีกทั้งอาจเป็นเพราะราคาที่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับสมรรถนะและความสะดวกสบายที่ได้รับ เนื่องจากการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งจะสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 300-400 กม. เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง แต่ผู้ที่ต้องเดินทางระยะไกลนั้นอาจต้องวางแผนให้ดี เพราะสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังมีจำนวนไม่มากพอ ทำให้ไม่สามารถรองรับการใช้งานอย่างทั่วถึง ความพร้อมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจึงเรียกได้ว่ายังอยู่ในระดับเริ่มต้นเท่านั้น

นอกจากนี้ การสนับสนุนหรือการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นยังมีน้อยมาก ทำให้ผู้ผลิตและผู้ซื้อมองไม่เห็นประโยชน์ในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ที่มีมาตรการส่งเสริมและให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน เช่น การยกเว้นภาษี มีเลนพิเศษ ไม่เสียค่าที่จอดรถ ฯลฯ อย่างไรก็ดี ในอนาคตกระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะมาแน่นอน ไม่ใช่แค่ต่างประเทศ แต่ประเทศไทยเองก็จะถูกกดดันให้ต้องเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้ ไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่พร้อมก็ตาม 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ TSE ได้ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT 

 

 




AutoTrick

5 ขั้นตอนเตรียมรถให้พร้อมขับช่วงฝนตกหนัก
แอร์รถสะอาด สำคัญกว่าที่คิด???
4 ข้อดีของการนำรถเข้าศูนย์บริการตัวถังและสีมาตรฐาน
6 เคล็ดไม่ลับการเลือกซื้อรถคันแรกอย่างชาญฉลาด
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยในเชฟโรเลตช่วยให้ปลอดภัยในฤดูฝน
4 เคล็ดลับเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์
เคล็ดลับลดความเครียด สร้างความสุขง่ายๆ บนท้องถนน
แนะนำเคล็ดลับขับขี่เที่ยวภูเขาอย่างปลอดภัยช่วงหน้าฝนกับเชฟโรเลต
DIY ขั้นตอนการติดตั้งการ์ดหม้อน้ำ Honda cb650f ปี 2017 (มีVDO)
เคล็ดลับความสนุกสุดเหวี่ยงบนรถเอสยูวีในวันหยุด
5 เคล็ดลับขับขี่ปลอดภัยช่วงปีใหม่ จากกองบังคับการตำรวจจราจร
แนะนำเส้นทางเลี่ยงรถติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560
ซื้อประกันภัยรถยนต์ต้องเปรียบเทียบอะไรบ้าง? ตอน “เงื่อนไขของกรมธรรม์”
ขับรถอย่างปลอดภัยในช่วงหน้าฝน
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ใน New Honda Accord Hybrid
การเติมลมยางที่ถูกต้องนั้นทำได้อย่างไร
เอ็มจี แนะนำเคล็ดลับขับขี่ทางไกลให้ปลอดภัยทุกเส้นทาง
รู้หรือไม่...สัญลักษณ์บนแก้มยางมีความหมายอย่างไร
มารู้จักระบบขับเคลื่อนในรถกระบะและรถเอสยูวี
วิธีง่ายๆในการดูแลรักษาหม้อน้ำ
เชฟโรเลตแนะนำ 12 เคล็ดลับ เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมันสูงสุด
ระบบตรวจจับ...คนขับรถหลับใน
เชฟโรเลตแนะนำเคล็ดลับขับขี่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่
เลือกซื้อยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถของคุณ
หยุดพฤติกรรมเสี่ยงขณะขับรถ เพื่อถนนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ทันเกมส์พนักงานเคลมประกัน
8 เคล็ดลับดูแลยาง ใช้ได้นานและช่วยประหยัดน้ำมัน
รถเสียศูนย์ คุณก็สังเกตเองได้
เตรียมรถ...สู่ร้อน??
เส้นทางเลี่ยงรถติดช่วงเทศกาล
รันอิน คืออะไร
ใบปัดน้ำฝน สิ่งสำคัญที่ถูกมองข้าม
ไส้กรองอากาศรถยนต์
ว่าด้วยเรื่องของคลัตช์
การตรวจสภาพรถ
ขับขี่ปลอดภัยช่วงวันหยุดยาวไปกับสาระน่ารู้จากฟอร์ด
น้ำมันเครื่องสำคัญแค่ไหน ??



Copyright © 2011 All Rights Reserved.