เมื่อเข้าถึงหน้าร้อน บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนต่างก็ต้องเตรียมตัว และเตรียมรถรับกับลมร้อน และจำเป็นที่จะต้องตรวจเช็คระบบและรายละเอียดบางจุดของพาหนะคู่ใจกันเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดอาการงอแง ในระหว่างการเดินทาง เพราะคงไม่ดีแน่ที่จะต้องมานั่งซ่อมรถ หรือรถเสีย ท่ามกลางแสงแดดและอุณหภูมิที่มีตัวเลขอยู่ในระดับ 30 องศาเซลเซียส ปลายๆ

ระบบหล่อเย็นต้องดูให้ดี
อย่างที่ทราบกันดีว่าอุณหภูมิในหน้าร้อนของบ้านเรานั้นสูงขนาดไหน และถ้าต้องขับในช่วงเวลากลางวัน แล้วรถติดๆ ด้วยแล้ว รถของเราจะต้องรับภาระและเจอกับความร้อนของอากาศมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนให้ดีเพื่อป้องกันปัญหาในเรื่องความร้อนขึ้นสูง
ควรตรวจสอบสภาพของระบบหล่อเย็นว่ามีการรั่วซึมหรือพร้อมใช้งานหรือไม่ วิธีสังเกตง่ายๆ คือ ดูระดับน้ำในหม้อน้ำเป็นประจำทุกวัน ถ้าหากว่าเราต้องมานั่งเติมน้ำทุกวันจำนวนมาก แน่นอนว่าระบบหล่อเย็น ของตัวรถจะต้องเกิดความบกพร่อง
วิธีเช็คอย่างง่ายๆ เริ่มจากฝาหม้อน้ำ ดูว่าสปริงและลูกยางเสื่อม สภาพจนไม่สามารถทนแรงดันภายในหม้อน้ำจนเป็นเหตุที่ทำให้เกิดการ ระเหยของน้ำหรือไม่ และโดยทั่วไปฝาหม้อน้ำควรจะเปลี่ยนทุก 2-3 ปี ต่อไปคือการตรวจดูท่อของหม้อน้ำ ซึ่งจะมีอยู่ 2 สาย สายแรกอยู่ด้านบน ของหม้อน้ำซึ่งเป็นสายที่นำเอาสารหล่อเย็นที่ร้อนออกจากเครื่องยนต์ อีกสายอยู่ด้านล่างซึ่งจะเป็นสายที่นำเอาสารหล่อเย็นเข้าไปหล่อเย็น เครื่องยนต์ ตรวจสอบสภาพของสายทั้ง 2 เส้น และก้านยึดก่อนว่ายังอยู่ ในสภาพดีแข็งแรงไม่เป็นสนิม ถ้าชำรุดหรือมีปัญหาที่สายใดสายหนึ่ง ควรเปลี่ยนพร้อมกันทั้งคู่ ควรเลือกสายที่มีลักษณะอ่อนนุ่มมีความคงตัวสูง
และสิ่งต่อไปตัวหม้อน้ำดูว่ามีรอยรั่วตามข้อต่อหรือท่อเข้า-ออก หรือไม่ เพราะบางทีเมื่อใช้ไปนานๆ อาจจะมีรอยรั่วเกิดขึ้นตรงจุดนี้ และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เ นอกจากนั้นควรล้างหม้อน้ำ โดยเฉพาะหม้อน้ำรุ่นเก่าที่ผลิตจากเหล็ก ซึ่งจะเกิดคราบสนิมเมื่อใช้ไปนานๆ และจะทำให้เกิดการลดประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ถ้าเป็นไปได้ควรเติมน้ำยา หล่อเย็นด้วย
พัดลมหม้อน้ำก็เป็นอีกสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งรถยนต์ส่วนใหญ่ใช้พัดลมไฟฟ้าในการช่วยระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำ และบางครั้ง พัดลมเหล่านี้อาจเสียหรือเสื่อมสภาพเพราะใช้งานมานาน จนเป็นเหตุทำให้รถยนต์มีความร้อนขึ้นสูง
ระบบปรับอากาศ...อย่ามองข้าม
คงไม่ดีแน่ถ้าต้องขับรถท่ามกลางอากาศอันร้อนอบอ้าว ฉะนั้นอย่าลืม ตรวจสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในรถให้ดี ถ้ามีการรั่วซึม ของระบบก็จัดการเปลี่ยนหรือซ่อมเสีย โดยสามารถตรวจสอบด้วยวิธีง่ายๆ คือ ดูที่ช่องตรวจระดับของน้ำยาแอร์
ถ้าน้ำยาเพิ่งเติมไปไม่นานพร่องหรือหมดไปอย่างรวดเร็ว (ดูจากช่อง กระจกแล้วพบว่ามีฟองมาก) มีความเป็นไปได้ที่ระบบเครื่องปรับอากาศใน รถอาจจะมีการรั่วซึมที่จุดใดจุดหนึ่งจนทำให้น้ำยาที่เติมเข้าไปเล็ดรอด ออกจากระบบซึ่งเป็นแบบปิด
ถ้าหากไม่มีการรั่วซึมแต่ใกล้ครบระยะการล้างหรือทำความสะอาด ของตู้แอร์ก็ควรจัดการให้เรียบร้อย จะได้เย็นได้ไม่มีปัญหาตลอดการเดินทาง
ท้ายรถเตรียมสัมภาระเพิ่มอีกหน่อย
นอกจากเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับใช้ซ่อมรถยามฉุกเฉินแล้ว เมื่อหน้า ร้อนมาเยือนก็ควรหาอุปกรณ์บางอย่างเข้ามาเสริม โดยเฉพาะร่มคันใหญ่ๆ ถ้าต้องรถเสียกลางทาง และตลอดสองข้างทางไม่มีร่มเงาของต้นไม้แล้วร่ม จะช่วยเราได้มาก ร่มที่ติดรถควรเป็นร่มสำหรับใช้กลางแดดซึ่งด้านนอก ของร่มจะเป็นสีเงินที่ช่วยสะท้อนแสงแดด ขนาดที่ใช้ก็เน้นความใหญ่สักนิดเผื่อช่างหรือผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเวลารถของเราจอดเสียอยู่ข้างทาง
และอย่างสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ น้ำดื่ม เตรียมไว้เพื่อดับกระหายหรือ บางทีเกิดหม้อน้ำรั่วหรือน้ำพร่องจนทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด ก็สามารถนำมาใช้เติมรถได้ด้วย
ขอขอบคุณ : นิตยสารไทยไดเวอร์