เบนท์ลี่ย์เผยโฉมรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (Sport Utility Vehicle) ในรูปแบบรถคอนเซ็ปต์ที่จะออกมาในอนาคตของเบนท์ลี่ย์แล้ว นั่นคือ EXP 9 F ในงานมหกรรมยานยนต์ Geneva International Salon d’Auto นักออกแบบและวิศวกรของเบนท์ลี่ย์ได้สร้างรถยนต์รุ่นใหม่นี้ขึ้นมาให้มีความน่าสนใจและน่าประทับใจภายใต้แนวคิดแกรนทัวริ่งจากเบนท์ลี่ย์มาให้สัมผัสและพบกับสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบ เสมือนกำลังนั่งชมโอเปร่าชั้นนำอยู่บนเนินทรายหรือจะเป็นขณะวิ่งขึ้นแซงบนทางหลวงก็ตามที





เบนท์ลี่ย์คันนี้จะเต็มไปด้วยความเป็นเบนท์ลี่ย์ที่แท้จริง และจะกลายมาเป็นเบนทลี่ย์รุ่นที่ 3 ต่อจากมูซาน (Mulsanne) ซาลูนหรูที่เป็นตำนานของเบนท์ลี่ย์และคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) จีทีซี (GTC) และฟลายอิ้งเสปอร์ (Flying Spur)

ในวันนี้เบนท์ลี่ย์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและกลายเป็นแบรนด์รถยนต์หรูชั้นนำทั่วโลก มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายกว่า 160 ตัวแทนจำหน่ายในทุกๆ ทวีป เรียกว่าจากเซียงไฮถึงเบเวอรี่ ฮิล เลยทีเดียว และนี่คือจุดสำคัญที่   ทำให้เบนท์ลี่ย์ขยายฐานกลุ่มลูกค้าและมีลูกค้าที่หลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้เบนท์ลี่ย์ผลิตรถรุ่นนี้ขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการในเรื่องของรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ความเหนือชั้นของการเป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังขับเคลื่อนสี่ล้อ ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง และมีอุปกรณ์และการใช้งานที่หลากหลาย มีตำแหน่งการขับขี่ที่สมดุล และที่ขาดไม่ได้คือเบนท์ลี่ย์รุ่นนี้จะเต็มไปด้วยคุณสมบัติของเครื่องยนต์ตามแบบฉบับความเป็นเบนท์ลี่ย์ที่สมบูรณ์แบบทุกประการไม่ว่าจะเป็นพละกำลัง สมรรถนะที่เหนือชั้น เทคโนโลยีชั้นนำ และงานฝีมือที่หรูหราอีกด้วย

“พวกเราตื่นเต้นกับรถสปอร์ตอเนกประสงค์คันหรูและเต็มไปด้วยสมรรถนะที่ดีเยี่ยมอย่างเต็มพิกัดของเบนท์ลี่ย์คันนี้เป็นอย่างมาก เรารู้ว่าลูกค้าเบนท์ลี่ย์ของเรามีรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ของพวกเขาแล้ว และเรารู้ว่าพวกเขาต้องการรูปลักษณ์ของรถที่พวกเขาปรารถนา ความหรูหรา กว้างขวางและมีประสิทธิภาพพร้อมพละกำลังที่เหนือชั้น และแน่นอน EXP 9 F จากเบนท์ลี่ย์คันนี้ของเรา สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และอาจเกินกว่าที่พวกเขาคาดหวังอีกด้วย” Wolfgang Dürheimer ประธานบริหารของเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์




แข็งแกร่ง คล่องตัว และดีไซน์แบบสปอร์ต

EXP 9 F ได้รับการออกแบบโดยการนำหลักการของรูปลักษณ์และสไตล์ของเบนท์ลี่ย์หลักๆ มาใช้ พร้อมด้วยรายละเอียดต่างๆที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมชั้นนำ

รูปลักษณ์และเส้นสายของรถเน้นให้เห็นถึงความทรงพลังของพละกำลังเครื่องยนต์ ความแข็งแกร่งและเทคโนโลยีชั้นนำ

EXP 9 F เป็นโปรเจคในฝันสำหรับมุมมองของทีมนักออกแบบ เพราะนี่คือการสร้างเบนท์ลี่ย์รุ่นใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นที่มีอยู่โดยสิ้นเชิง ตั้งแต่เริ่มต้นทีมนักออกแบบได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนสำหรับรถสปอร์ตอเนกประสงค์จากเบนท์ลี่ย์ใหม่ล่าสุดนี้แล้ว Dirk van Braeckel ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบอธิบายไว้:

“EXP 9 F ต้องกลายมาเป็นตัวแทนของความสุดยอดและที่สุดของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ และเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์รูปแบบนี้อย่างแน่นอน รูปแบบของรถต้องสะท้อนให้เห็นความเป็นสปอร์ตของเบนท์ลี่ย์ และมีความแตกต่างทั้งรูปลักษณ์และแน่นอนว่าต้องคงความดั้งเดิมของเบนท์ลี่ย์ไว้ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย”

ทีมออกแบบได้ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกให้มีความแข็งแกร่ง คล่องตัว โปร่ง และมีรูปทรงที่เต็มไปด้วยความทรงพลังที่ได้รับการเติมแต่งด้วยเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่คงไว้ซึ่งพละกำลังและความหรูหราที่เต็มพิกัดตามแบบฉบับความเป็นเบนท์ลี่ย์อย่างแท้จริง

ความเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลี่ย์หลักๆ ได้ถูกนำมาเติมแต่งใน EXP 9 F คันนี้ ไม่ว่าจะเป็นตะแกรงแบบเมทริกซ์ ไฟหน้า และเส้นสายต่างๆ ของรถที่เห็นเด่นชัดถึงความเป็นเบนท์ลี่ย์ การออกแบบ ‘hewn from solid’ ได้ถูกนำมาใช้ในทุกๆ รายละเอียดของรถเพื่อเน้นให้เห็นถึงลักษณะความเป็น SUV ที่หรูหราอีกด้วย

นักออกแบบของเราไม่เพียงแค่ออกแบบเพื่อเน้นสำหรับการใช้งานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังคงเน้นในเรื่องของ ‘Visible Engineering’ หรือรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของวิศวกรรมยานยนต์ของเบนท์ลี่ย์อีกด้วย เช่น ระบบไฟสำหรับเวลากลางวัน หรือช่องดักอากาศเพื่อระบายความร้อนสำหรับเครื่องยนต์ W12 เป็นต้น

ล้อในรูปแบบกังหันได้รับการนำมาใช้กับล้อขนาด 23 นิ้วแบบโลหะผสมหรืออัลลอยด์สำหรับรถคันนี้ ก้านล้อได้รับการออกแบบมาในรูปแบบใบกังหันเพราะยึดติดด้วยดุมล้อที่โดดเด่นและได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Bentley’s Le Mans ในปี 1920s และผสมผสานเข้ากับรูปแบบล้ออัลลอยด์แบบไฮเทคช่วงยุค 80’s อีกด้วย





ทางด้านหลังโดดเด่นด้วยฝาท้ายที่มีความสวยงามอย่างลงตัว อีกทั้งยังเห็นถึงความเป็นสปอร์ตอย่างชัดเจน รถมีความกว้างอย่างเห็นได้ชัด กระโปรงหลังได้รับการแยกชิ้นออกเป็น 2 ชิ้นส่วน และมีความสามารถในการทำงานได้อย่างหลากหลายตามลักษณะของรถแบบแกรนด์ ทัวริ่งอีกด้วย ความแข็งแกร่งของ EXP 9 F ได้รับการเสริมทัพด้วยการออกแบบปลายท่อคู่ที่ดุดัน เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับท้ายรถ

รูปแบบไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ทที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และมีไฟที่ยื่นออกมาทางด้านนอก

ภายในห้องโดยสาร
ความหรูหราที่ผสมผสานกับการใช้งานได้อย่างครบครันและลงตัว

เบนท์ลี่ย์ได้ผสมผสานเอกลักษณ์ต่างๆ ที่โดดเด่นที่สุดเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว อาทิเช่น เทคโนโลยีชั้นนำที่ผสมผสานเข้ากับงานหัตถกรรมหรืองานฝีมือชั้นเยี่ยม ความหรูหราที่ผสมผสานเข้ากับประสิทธิภาพของรถที่เหนือชั้น เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ภายในห้องโดยสารของ EXP 9 F ยังได้แสดงให้เห็นถึงความหรูหราและการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และสร้างจากเทคนิคและเทคโนโลยีชั้นสูงดังที่ Dirk van Braeckel ได้อธิบายไว้ว่า:





“ความท้าทายในการออกแบบภายในห้องโดยสารคือการผสมผสานความหรูหราไว้กับการใช้งานจริงให้ได้อย่างลงตัวที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้คือบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่สว่างและโปร่งสบายที่สามารถจะบัญชาการรถคันนี้ไปบนถนนได้อย่างอเนกประสงค์ และเต็มไปด้วยงานฝีมือพร้อมการออกแบบที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความร่วมสมัยอีกด้วย”

ส่วนประกอบจากงานฝีมือหรืองานหัตถกรรมชั้นเยี่ยมแบบดั้งเดิมของเบนท์ลี่ย์ เช่น เนื้อไม้ หนัง และเหล็กที่ได้รับการพ่นเงา อาทิเช่น อลูมิเนียม โลหะผสมของทองแดงผสมดีบุกหรือสังกะสี และทองสัมฤทธ์ ต่างได้รับการผลิตตามรูปแบบฉบับความหรูหราจากอังกฤษ และเป็นวิธีที่ใช้ในการสร้างบรรยากาศของภายในห้องโดยสารให้มีความร่วมสมัย หนังมีความอ่อนนุ่มเมื่อยามสัมผัสและมาพร้อมกับพื้นผิวที่มีอายุการใช้งานอย่างยืนยาว ส่วนด้านหลังที่นั่งได้รับการออกแบบด้วยการใช้หนังแซดเดิลเพิ่มความหรูหราด้วยเช่นกัน 

พรมผ้าไหมแบบหรูหราได้รับการออกแบบให้มีความคงทนเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถพลิกกลับด้านได้โดยเปลี่ยนเป็นด้านที่ทำจากหนังแซดเดิล หากผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องการอีกด้วย

แผงหน้าปัดด้านบนได้รับการดีไซน์แบบ full-width มีลายไม้แบบไม้ชิ้นเดียวผสมผสานเพิ่มความหรูหรา ช่องดักอากาศแบบ ‘bulls eye’ ที่เป็นแบบฉบับดั้งเดิมของเบนท์ลี่ย์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความร่วมสมัยและสามารถใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น คอนโซลกลางได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตามหลักการสรีรศาสตร์เพื่อความคล่องตัวในการใช้งานอีกด้วย

แผงหลังคาแก้วแบบ Panoramic ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแผงป้องกันของรถแข่งแรลลี่ได้รับการนำมาใช้กับรถรุ่นนี้เพื่อความแข็งแกร่งของรถและยังมีน้ำหนักเบา





ที่นั่งสำหรับผู้โดยสารทางด้านหลังสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้ เช่นหากเลือกโหมดธุรกิจ (Business Mode) นั้นที่วางแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดจะพับลงมาและสามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่าน iPad หรือ Tablet หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ และเมื่อไม่ได้ใช้งานเบาะหลัง ก็สามารถเลื่อนเบาะเพื่อเพิ่มความจุของที่เก็บสัมภาระได้ด้วยเช่นกัน

ที่นั่งของ EXP 9 F มีจำนวน 4+1 มาพร้อมกับที่พักแขนทางด้านหลังที่สามารถพับขึ้นเพื่อเข้าสู่ส่วนของตู้เย็นสำหรับขวดแชมเปญและแก้วได้อีกด้วย เบาะนั่งมีคุณสมบัติและรูปลักษณ์แบบตะเข็บรูปเหลี่ยมเพชรอย่าง diamond-quilted ‘shoulder line’ และมาพร้อมกับหนังที่นิ่มนวลเมื่อยามสัมผัส ควบคู่กับรูปลักษณ์สปอร์ตตามรูปแบบเบนท์ลี่ย์

ทางด้านหลังใต้ฝากระโปรง 2 ชิ้นจะใช้งานในการตั้งโต๊ะปิกนิกได้ โต๊ะปิกนิกสามารถเก็บได้อย่างเรียบร้อยทางด้านข้างด้านใดด้านหนึ่งเมื่อไม่ใช้งาน และจะมีรางที่ใช้เลื่อนเก็บหรือเลื่อนเพื่อนำออกมาใช้งานได้อย่างง่ายดายเพื่อความสะดวกสบายด้วยเช่นกัน 





สถาปัตยกรรมที่ลงตัวเพื่อตำแหน่งที่พร้อมสั่งงานและควบคุมการขับขี่

EXP 9 F ได้รับการออกแบบให้มีประโยชน์ในการให้ข้อมูลกับผู้ขับขี่และมีอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงต่อผู้ขับขี่ ทีมวิศวกรจะไม่สร้างอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดๆ ที่สร้างความสับสนให้กับผู้ขับขี่รวมไปถึงผู้โดยสารโดยเด็ดขาด ข้อมูลที่นำเสนอหรือแสดงผลนั้นจะเป็นข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการหรือจำเป็นสำหรับผู้ใช้เท่านั้น

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่ใน EXP 9 F คันนี้ อาทิเช่น การค้นหาเส้นทางแบบ 3D จะถูกแสดงผลโดยตรงในหน้าจอ TFT ตรงกลาง ส่งผลให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เช่น ตั้งค่าควบคุมอุณหภูมิของห้องโดยสาร ระดับของช่องปรับอากาศ และระบบความบันเทิงต่างๆ ผ่านหน้าจอแบบระบบสัมผัสที่ได้รับการติดตั้งบนคอนโซลนี้ ขอบของหน้าจอ TFT ทำจากเหล็กเพื่อให้เข้ากับพื้นผิวกระจกของคอนโซลกลางด้วยเช่นกัน 

โหมดการขับขี่มีให้เลือกถึงสามโหมดด้วยกัน นั่นคือโหมดสะดวกสบายหรือ Comfort โหมดสปอร์ต และโหมดออฟโร้ด ซึ่งการเลือกใช้งานแต่ละโหมดจะขึ้นอยู่กับสภาวะถนนและรูปแบบของการเดินทาง ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอ TFT ให้เป็นการแสดงผลการค้นหาเส้นทางบนถนนทางหลวงไปเป็น ‘sump cam’ เพื่อช่วยในการขับขี่ไปบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้อีกด้วย 





พละกำลังและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นจากเบนท์ลี่ย์

แนวคิดเครื่องยนต์ EXP 9 F อาจมีทั้งเครื่องยนต์ขนาดประมาณ 6.0 ลิตร ทวินเทอโบว์ชาร์จ W12 และอาจมีเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอโบร์ชาร์จ V8 หรือระบบการขับเคลื่อนแบบไฮบริดให้เลือกเพื่อ SUV ที่หรูหราคันนี้อีกด้วย

EXP 9 F ยังคงต้องทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับการออกแบบอยู่ และทางเลือกสำหรับระบบขับเคลื่อนยังคงอยู่ภายใต้การพิจารณา และแน่นอนเบนท์ลี่ย์ SUV คันนี้ต้องมีประสิทธิภาพที่เหนือชั้นตามแบบฉบับความเป็นเบนท์ลี่ย์ อาทิเช่นเครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร W12 ที่สามารถผลิตพละกำลังได้ถึง 600 แรงม้าและมีแรงบิดที่ 80 นิวตันเมตร คือตัวชี้วัดหลักๆ ถึงสมรรถนะที่เป็นเลิศของรถคันนี้ รวมถึงความเร็วสูงสุดที่ทำได้อย่างดีเยี่ยมจะกลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับรถจำพวก SUV อีกด้วย 

การประเมินผล การปรับแต่ง และการวางแผนสำหรับอนาคต

เมื่อปี 2003 ที่คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ได้ทำการเปิดตัวเจเนอเรชั่นแรกออกมานั้นถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและเบนท์ลี่ย์ได้กลายเป็นไอคอนของความหรูหราทั่วโลกก็ว่าได้ ต่อมามูซาน (Mulsanne) คอนติเนนทัล ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Continental Flying Spur) รถยนต์ซาลูนหรูระดับพรีเมี่ยม และคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ใหม่ล่าสุดได้ทำการเปิดตัวตามๆ กันมานั้น ยิ่งทำให้เบนท์ลี่ย์แข่งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

EXP 9 F จะเป็นตัวแทนของเบนท์ลี่ย์ในเรื่องของความคุ้มค่าในการออกแบบ งานหัตถรรมและวิศวกรรมยานยนต์ชั้นเลิศซึ่งถูกรวบรวมไว้ในรถคันนี้ จะกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับแบรนด์เบนท์ลี่ย์อย่างแน่นอน อีกทั้งประสบการณ์ความสำเร็จจากแนวคิดการขับเคลื่อนสี่ล้อของรุ่นคอนติเนนทัล (Continental) ก็ได้ถูกถ่ายทอดเข้าสู่ เบนท์ลี่ย์ SUV คันนี้ด้วยเช่นกัน 

การตอบรับจากลูกค้าและมหาชนจากการเผยโฉม EXP 9 F ที่เจนีวา 2012 ครั้งนี้จะถูกนำมาวิเคราะห์และถูกนำมาใช้ในการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ต่อไป เบนท์ลี่ย์พร้อมที่จะรับฟังเสียงตอบรับเหล่านี้จากทั่วโลกก่อนที่จะทำการตัดสินใจผลิต

“เบนท์ลี่ย์ แกรนด์ ทัวเรอร์ (Grand Tourer) ไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบคูเป้ หรือรถเปิดประทุน หรือในรูปแบบซาลูนเท่านั้น หากแต่สามารถออกมาในรูปแบบ SUV หรือรถสปอร์ตอเนกประสงค์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญคือความเป็นเบนท์ลี่ย์อย่างแท้จริง และมีคุณค่าของแบรนด์ที่ดีและกลายมาเป็นที่ปรารถนาของลูกค้าเรา” – Alasdair Stewart สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายขายและการตลาดกล่าวไว้

สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยรถยนต์ เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทางเอเอเอสฯ ได้  ติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์  โทร. 02-522-6703 หรือ 02-610-9911 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com