เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศยอดขายปี 2564 โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 14,659 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 31 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว (11,206 คัน) ในปี 2563 ความสำเร็จแบบก้าวกระโดดครั้งนี้เป็นผลมาจากการเปิดตัวอัครยนตรกรรมรุ่นใหม่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ และความต้องการอัครยนตรกรรมไฮบริดรุ่นใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ‘Beyond100’ เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบภายในปี 2573
ความสำเร็จของรุ่นไฮบริดใหม่นี้ ทำให้อัครยนตรกรรม Bentayga ยังคงเป็นอัครยนตรกรรมที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของเบนท์ลีย์ ซึ่งนับเป็นปีที่ 5 และเป็นปีที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงที่สุดในฐานะอัครยนตรกรรมแบบเอสยูวีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยอดขายตลอดทั้งปีของ Flying Spur จากทั่วโลก และการเปิดตัวของ Continental GT Speed และรุ่นย่อยอื่นๆ อีก 11 รุ่น ยังผลให้ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จของเบนท์ลีย์
ภูมิภาคอเมริกายังคงรักษาตำแหน่งการเป็นตลาดที่มียอดขายมากที่สุดของโลก โดยทำสถิติยอดขายสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตามติดมาด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเกือบครองตำแหน่งการเป็นตลาดที่มียอดขายมากที่สุดของโลกเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ โดยยอดขายในตลาดของภูมิภาคอเมริกาและจีนมีสัดส่วนรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่ง (56 เปอร์เซ็นต์) ของยอดขายจากทั่วโลก
นอกเหนือจากสัดส่วนยอดขายกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของ Bentayga แล้ว อัครยนตรกรรมแกรนด์ ทัวเรอร์ 2 ประตู Continental GT ยังมียอดขายเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งเป็นรถยนต์ประเภทคูเป้ 60 เปอร์เซ็นต์และรถยนต์ประเภทเปิดประทุนอีก 40 เปอร์เซ็นต์ และด้วยการเปิดตัวของอัครยนตรกรรมไฮบริด ทำให้มีการคาดการณ์ว่ายอดขายของ Flying Spur กว่า 27 เปอร์เซ็นต์จะเติบโตขึ้นอีกในปี 2565
Adrian Hallmark ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวถึงยอดขายทั่วโลกว่า “ปี 2564 เป็นอีกปีที่เราไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ผมก็ยังดีใจที่เราสามารถเอาชนะความท้าทายครั้งสำคัญนี้ได้ และประสบความสำเร็จในด้านยอดขายสองปีติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในความแข็งแกร่งของแบรนด์ ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน ความต้องการจากทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น และการยึดมั่นในการจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเรา
“สำหรับการเปิดตัว Bentayga Hybrid และ Flying Spur Hybrid สู่ตลาด แสดงให้เห็นถึงเส้นทางที่ชัดเจนและตำแหน่งในระดับแถวหน้าที่มั่นคงของเรา ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่าเราไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในด้านการขายและส่วนแบ่งการตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูรายแรกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบและมีความเป็นกลางทางคาร์บอน”
ยอดขายในแต่ละภูมิภาค
ภูมิภาคอเมริกาส่งมอบรถยนต์ 4,212 คัน เพิ่มขึ้น 39 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายปี 2563 ที่ 3,035 คัน ทำให้ภูมิภาคนี้เป็นตลาดอันดับหนึ่งของเบนท์ลีย์ โดยผลประกอบการที่โด่ดเด่นนี้เป็นผลมาจากการเปิดตัว Continental GT Speed และยอดขายของ Flying Spur ตลอดทั้งปี
เบนท์ลีย์เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์กว่า 4,033 คัน เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มียอด 2,880 คัน ซึ่งมีผลมาจากความแข็งแกร่งของตลาดรถยนต์แบบสี่ประตูที่ยังคงรักษายอดขายของ Flying Spur และ Bentayga ไว้
ภูมิภาคยุโรปส่งท้ายปีด้วยยอดการส่งมอบรถยนต์จำนวนทั้งสิ้น 2,520 คัน จากจำนวน 2,193 คัน ในปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 15 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายของแต่ละรุ่น
ตลาดบ้านเกิดของเบนท์ลีย์ในสหราชอาณาจักรยังคงมีผลประกอบการที่โด่ดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดส่งมอบรถยนต์ถึง 1,328 คัน ด้วยอัตราการเติบโตคิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า
เบนท์ลีย์ส่งมอบรถยนต์ 915 คันไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางในปี 2564 จากจำนวนทั้งหมด 735 คันในปีที่แล้ว
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตขึ้นกว่า 37 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยสามารถส่งมอบรถยนต์ได้ 1,651 คัน เทียบกับยอด 1,203 คันในปี 2563