ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ กับเครื่องยนต์ที่หลายคนเฝ้ารอด้วยขุมพลังและเทคโนโลยีอัจฉริยะ 1.5L EcoBoost Turbo เครื่องยนต์ที่มีความจุน้อยแต่สามารถให้พละกำลังได้ดีเทียบเท่าเครื่องบล็อกใหญ่กว่า ที่สำคัญยังมาพร้อมการปรับเปลี่ยนรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวขึ้นจากเดิม กับค่าตัว 1,099,000 บาท สมรรถนะจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้เลยครับ





ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระโปรงหน้าแบบใหม่ที่ครอบคลุมต่อกับกระจังหน้ารถแบบสี่เหลี่ยมคางหมู  ไฟหน้าออกแบบให้ทรงแคบและยาวขึ้นเชื่อมต่อกับส่วนหน้ารถ ไฟตัดหมอกหน้าทรงสี่เหลี่ยม พร้อมไฟเดย์ไทม์  ด้านข้างดูโฉบเฉี่ยวจากเส้นสายที่ลงตัวยาวถึงกระจกหลัง ล้ออัลลอยด์ลายใหม่ ส่วนกระโปรงท้ายก็ได้รับการปรับใหม่ พร้อมไฟท้ายที่ถูกออกแบบให้บางลง

ภายในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ได้รับการออกแบบเน้นความเรียบง่ายและปราณีต ลดปุ่มควบคุมลง เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น ในด้านความเงียบของห้องโดยสารนั้นได้ใช้วัสดุป้องกันเสียงคุณภาพสูง รวมถึงกระจกหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน กระจกด้านข้างที่มีความหนาขึ้น พรมปูพื้น และแผงประตูเก็บเสียงที่หนาขึ้น พร้อมฉนวนป้องกันเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนา เพื่อให้ห้องโดยสารเงียบยิ่งขึ้น

ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ติดตั้งระบบการสั่งงานด้วยเสียงรุ่นล่าสุด SYNC 3 ที่สามารถเชื่อมต่อระบบความบันเทิงภายในรถ และการใช้งานโทรศัพท์มือถือ ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง แสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนแบบสมาร์ทโฟนขนาด 8 นิ้ว ให้การแสดงผลที่อ่านและใช้งานง่าย และยังสามารถรองรับแอพพลิเคชั่น Apple Car Play และ Siri Eyes Free สำหรับไอโฟน รวมถึง Android Auto ในมือถือระบบ Android ให้สามารถเชื่อมต่อได้หลายช่องทาง

ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Enhanced  Active Park Assist) ที่ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้น ด้วย ระบบช่วยจอดอัจฉริยะแบบถอยเข้าซอง (Perpendicular Park Assist) ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมจาก ระบบช่วยจอดอัจฉริยะแบบเทียบข้าง (Parallel Park Assist) ใน ฟอร์ด โฟกัส รุ่นก่อนหน้า โดยระบบทำงานด้วยเซ็นเซอร์แบบอัลตราโซนิคอันล้ำสมัยสองจุดที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านท้ายของตัวรถ ซึ่งทำหน้าที่สแกนหาที่ว่างรอบๆ ตัวรถสำหรับจอด และช่วยควบคุมการหมุนพวงมาลัยเพื่อนำรถเข้าจอดในที่ว่างนั้นๆ โดยผู้ขับขี่เพียงควบคุมการเข้าเกียร์และเหยียบเบรค โดยไม่ต้องใช้มือบังคับพวงมาลัย และยังมีระบบช่วยนำรถออกจากช่องจอด (Park Out Assist) โดยระบบจะควบคุมการหมุนของพวงมาลัย เพื่อช่วยนำรถออกจากช่องจอด ในขณะที่ผู้ขับขี่ควบคุมเพียงเบรกและคันเร่งเท่านั้น

ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ยังมีระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) เพื่อช่วยชะลอการชน สำหรับการขับขี่ในสภาวะการจราจรที่เคลื่อนตัวที่ความเร็วต่ำ ระบบได้รับการปรับปรุงให้ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่บริเวณกระจกหน้ารถจะช่วยตรวจจับรถด้านหน้า ในกรณีที่รถเข้าใกล้รถคันหน้าเร็วเกินไป โดยผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้ทันท่วงที ระบบจะลดแรงบิดของเครื่องยนต์และทำการเบรคอัตโนมัติเพื่อชะลอการชน

นอกจากนี้ โครงสร้างตัวถังนิรภัยของ ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ได้รับการออกแบบโดยระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยตัวถังที่ขึ้นรูปด้วยเหล็กกล้าโบรอน ที่มีความแข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้ามาตรฐานถึง 4 เท่า แต่น้ำหนักเบากว่า พร้อมระบบถุงลมนิรภัยรวม 6 จุด ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 จุด ถุงลมนิรภัยด้านข้างตอนหน้า 2 ข้าง และม่านถุงลมนิรภัย 2 ข้าง

ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ เทอร์โบ 1.5L EcoBoost Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,600-5,000 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รุ่นใหม่ โดยสามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้อีกด้วย




     



     




ช่วงทดสอบฟอร์ด โฟกัส ใหม่ 1.5L EcoBoost Turbo
กับทีมงาน Auto-Thailand

สำหรับการทดสอบฟอร์ด โฟกัส ใหม่ 1.5L EcoBoost Turbo ครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามแข่งพีระ เซอร์กิต โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 4 สถานี ได้แก่ สถานีแรก ขับทดสอบในสนาม สถานีที่สอง ทดสอบระบบช่วยจอดอัจฉริยะ และระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ สถานีที่สาม ทดลองใช้งานระบบ SYNC 3 และสถานีสุดท้ายการทดสอบขับขี่บนถนนจริง

เริ่มต้นสถานีแรกกับการขับขี่ทดสอบฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ในสนามแข่งพีระ เซอร์กิต โดยขับขี่เต็มรอบสนาม ออกตัวไปก็จะเจอกับโค้งขึ้นเขาที่สามารถสัมผัสพละกำลังอัตราเร่งจากเครื่องยนต์ 1.5L EcoBoost Turbo ที่เรียกใช้งานได้อย่างทันใจ และยังสามารถรู้สึกถึงการควบคุมที่ง่ายในช่วงเวลาที่ใช้ความเร็วในการเข้าโค้งจาก ระบบ Torque Vectoring Control ทำให้ขับขี่ได้มั่นใจขึ้น

หลังจากนั้นก็จะมาเจอเส้นทางช่วงทางตรงที่มีการวางไพล่อนไว้ให้ขับขี่หลบหลีกแบบสลาลอมให้ได้สัมผัสความคล่องตัวจากระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPAS ที่ให้ความแม่นย่ำและควบคุมง่าย น้ำหนักในการควบคุมกำลังดี ตรงนี้อยากบอกว่าให้ความรู้สึกที่มั่นใจเหมือนขับขี่รถยุโรปราคาแพง และที่รู้สึกได้อีกอย่างก็คือ ระบบช่วงล่างที่ปรับเซตมาค่อนข้างลงตัวให้ความหนึบนุ่มไม่ถึงกับแข็งกระด้าง แต่ถ้าชอบการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสักหน่อยอาจจะรู้สึกว่าอยากให้เพิ่มความแข็งหนึบมากกว่านี้

ส่วนในช่วงทางตรงยาวของสนามเราก็พอได้สัมผัสอัตราเร่งของเครื่องยนต์ 1.5L EcoBoost Turbo เครื่องเล็กแต่มีแรงม้ามาให้ใช้งานกว่า 180 ตัว พร้อมกับแรงดึงระดับ240 นิวตันเมตร เรียกว่าสามารถตอบสนองอัตราเร่งได้ทันใจตามการเหยียบคันเร่งกันเลยทีเดียว และอีกข้อเด่นที่มาคู่กันก็คือ เรื่องของระบบเบรกนั้นก็สามารถชลอหยุดความเร็วได้อย่างมั่นใจ




     


สถานีที่สอง ทดสอบระบบช่วยจอดอัจฉริยะ และระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ โดยจะใช้รถยนต์ฟอร์ดมาจอดจำลองสถานการณ์ว่ามีพื้นที่วางทั้งแบบเทียบข้าง และถอยเข้าซอง ซึ่งระบบพวกนี้ถือว่าฟอร์ดก็เป็นเจ้าแรกๆที่นำมาติดตั้งให้ได้ใช้งานกันในรถยนต์แบบนี้ การใช้งานก็สะดวกสบายเพียงแค่กดปุ่มเปิดการทำงานและเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อสั่งให้ระบบเลือกที่จอดที่เหมาะสมให้ และเมื่อระบบเจอพื้นที่ที่เพียงพอกับตัวรถ เราเพียงคอยทำตามขั้นตอนที่ระบบสั่ง โดยมีหน้าที่แค่เข้าเกียร์และเหยียบเบรก ส่วนการหมุนพวงมาลัยระบบจะจัดการให้จนเข้าจอดเรียบร้อย ซึ่งก็ถือว่าให้ความสะดวกกับการใช้งานโดยเฉพาะพื้นที่ว่างที่ค่อนข้างจำกัด บางทีเรากะด้วยสายตาจะไม่แม่นย่ำเท่ากับระบบจัดการให้ ซึ่งตรงนี้ในการใช้งานก็ต้องใช้ความคุ้นชินและเชื่อใจระบบด้วย เพราะถ้ามือเราไปจับโดนพวงมาลัยขณะระบบกำลังทำงาน ระบบจะยกเลิกการทำงาน ซึ่งตอนนั้นล่ะครับจะยุ่งยากกว่าเดิมในการถอยจอด และเมื่อเข้าจอดด้วยระบบอัตโนมัติแล้ว การออกจากที่จอดก็มีระบบช่วยออกจากช่องจอดอัตโนมัติมาให้ใช้งานกันอีกด้วย (แต่ตรงนี้ปัจจุบันรถยนต์ยุโรปบางรุ่นสามารถถอยจอดได้แบบอัตโนมัติ โดยเราแค่กดปุ่มสั่งงาน ที่เหลือระบบจะจัดการถอยจอดให้เรียบร้อยทั้งการเข้าเกียร์ เบรก หมุนพวงมาลัย และรวมถึงการออกจากที่จอดอัตโนมัติได้อีกด้วย)  และอีกระบบที่มีให้ได้ทดลองในสถานีนี้ก็คือ  ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) ที่ได้รับการปรับปรุงให้ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของอุบัติเหตุได้โดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง

สถานีที่สาม ทดลองใช้งานระบบ SYNC 3 ซึ่งฟอร์ดได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยในเวอร์ชั่นนี้ถือว่ามีการใช้งานที่ง่ายและน่าจะสร้างคุ้นเคยกับการใช้งานได้ไม่ยากจากแอพพลิเคชั่น Apple Car Play และ Siri Eyes Free สำหรับไอโฟน รวมถึง Android Auto ในมือถือระบบ Android ที่ให้ความสะดวกสบายกับจอแสดงผลทัชสกรีนขนาดใหญ่




     




ส่วนในสถานีสุดท้ายจะเป็นการทดสอบขับขี่บนถนนจริงที่จะมีระยะทางประมาณ 95 กม. สภาพเส้นทางในการทดสอบมีทั้งเส้นทางตรง ทางโค้ง รวมถึงทางชัน เรียกว่า ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ 1.5L EcoBoost Turbo ให้การขับขี่ที่น่าพอใจสามารถเรียกพละกำลังออกมาให้ใช้งานได้ตามสั่ง การขับขี่ในเส้นทางถนนจริงที่มีรถร่วมใช้เส้นทางค่อนข้างเยอะก็ให้ความคล่องตัวอัตราเร่งในช่วงเร่งแซงถือว่าทำได้อย่างมั่นใจ

ระบบเกียร์เป็นอีกเรื่องที่หลายคนจ้องจับผิดกับฟอร์ด โฟกัส ใหม่ 1.5L EcoBoost Turbo ที่เปลี่ยนมาใช้งานระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รุ่นใหม่แบบธรรมดาไม่ใช่ระบบดูอัลคลัตช์แบบที่เคยเจอปัญหาในรุ่นก่อนๆ แต่สำหรับในรุ่นนี้เรียกว่าสบายใจได้ และจากการขับขี่หลายคนที่ไม่กลัวปัญหาเกียร์ก็จะคิดว่าระบบเกียร์ตัวนี้จะทำงานสู้ระบบดูอัลคลัตช์ไม่ได้ แต่เท่าที่ได้ทดลองขับขี่มาถือว่าฟอร์ดได้ปรับเซตเกียร์ตัวนี้ให้ทำงานได้อย่างราบรื่นตอบสนองการส่งกำลังได้ค่อนข้างรวดเร็ว ตรงนี้ถ้ายังรู้สึกไม่ทันใจฟอร์ด โฟกัส ใหม่ก็ยังมีระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยมาให้ใช้งานเปลี่ยนเกียร์ได้ตามรอบที่ต้องการ เอาเป็นว่าโดยรวมถือว่าให้การใช้งานได้น่าพอใจและให้รู้สึกในการขับขี่ที่ดีกว่าระบบเกียร์ CVT ที่ใช้กันอยู่ในรถอื่นๆในปัจจุบัน

ความสะดวกสบายในห้องโดยสารนั้นจุดเด่นอยู่ที่ความเงียบที่สามารถเก็บเสียงจากภายนอกได้ดีกว่าเดิมแบบชัดเจน การนั่งโดยสารก็ยังให้ความนุ่มนวลกับช่วงล่างแบบหนึบๆ ถึงตรงนี้อยากบอกว่า ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ 1.5L EcoBoost Turbo ให้สมรรถนะการขับขี่ใช้งานโดยรวมที่ถือว่าเป็นรถอีกรุ่นมีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด แต่จะมีข้อด้อยอยู่ที่อัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างจะมากไปสักหน่อย โดยเฉพาะถ้าสนุกกับการขับขี่เรียกรอบเล่นเกียร์กันจนเพลิน 

ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ 1.5L EcoBoost Turbo ด้วยขุมพลังและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เครื่องยนต์ที่มีความจุน้อยแต่สามารถให้พละกำลังได้ดีเทียบเท่าเครื่องบล็อกใหญ่กว่า สมรรถนะการขับขี่ที่น่าพอใจในระดับต้นๆ ระบบช่วยการขับขี่และระบบความปลอดภัยมากันแบบจัดเต็ม กับอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากไปนิด ต้องถือว่า ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ 1.5L EcoBoost Turbo ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการใช้งานที่เน้นเรื่องสมรรถนะการขับขี่ และถ้าได้ทดลองขับขี่เองรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ...