หลังจากได้ทดลองขับ ฮอนด้า แอคคอร์ด 1.5 เทอร์โบ ไปเมื่อไม่นานมานี้ ในครั้งนี้ทีมงาน Auto-Thailand ก็ได้มีโอกาศไปร่วมกิจกรรมทดลองขับ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ที่จังหวัดกระบี่ กับการทดลองขับใช้งานบนถนนจริงระยะทางกว่า 153 กิโลเมตร และการทดลองใช้งานระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) ที่จะมีเฉพาะในรุ่น HYBRID TECH





ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ รูปโฉมภายนอกแทบไม่ได้ต่างกับรุ่น 1.5 เทอร์โบ แต่จะมีออพชั่นลูกเล่นที่ขาดหายไป นำมาใส่ในรุ่น HYBRID TECH ไม่ว่าจะเป็น ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED กันชนกับกระจังหน้าที่มีการติดตั้งกล้องส่องหน้ารถ และเรดาร์สำหรับใช้กับระบบ Honda Sensing หลังคาซันรูฟเปิดปิดด้วยไฟฟ้า สปอยเลอร์หลังเพิ่มความสปอร์ต และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/45 R18

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มีมิติตัวรถด้วยความยาว 4,894 มม. กว้าง 1,862 มม. สูง 1,450 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,830 มม. ในรุ่น Hybrid TECH ตัวนี้จะมีน้ำหนัก 1,568 กก. ซึ่งจะมากกว่ารุ่น 1.5 เทอร์โบ อยู่ 104 กก. และเมื่อเทียบกับคู่แข่งโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ขนาดมิติตัวถังของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ จะกว้างใหญ่กว่าเล็กน้อย และมีน้ำหนักเบากว่า




     

     

     




Honda Accord ใหม่ ใช้เทคโนโลยี Laser Blaze ในการออกแบบตัวถัง เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคารถและตัวถังที่ให้ความสวยงามเรียบร้อยพร้อมความแข็งแรงของตัวถังมากขึ้น และยังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ น้ำหนักตัวถังเบาลง รวมถึงการออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทที่มีปีกนกด้านหน้าใหม่จากเดิมแบบรูปทรงตัว A เปลี่ยนเป็นรูปทรง L และปรับช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลงใหม่ด้วย

ภายในห้องโดยสารของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ เมื่อเข้าไปนั่งจะรู้สึกถึงความกว้างขวาง สำหรับเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมความจำ 2 ตำแหน่ง แต่ไม่ได้จำตำแหน่งของกระจกมองหลังและกระจกมองข้างแบบในโตโยต้า คัมรี่ แต่เบาะผู้ขับขี่จะสามารถเลื่อนถอยหลังให้เราเมื่อดับเครื่องช่วยให้การเข้าออกรถทำได้สะดวกมากขึ้น ส่วนเบาะนั่งด้านหลังกว้างขวางนั่งสบาย ตำแหน่งการนั่งและองศาเบาะหลังเอนกำลังดี แต่ไม่มีระบบปรับไฟฟ้าแบบในโตโยต้า คัมรี่ 





ในส่วนด้านหน้าของผู้ขับขี่นั้น พวงมาลัยจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆได้แบบครบถ้วน โดยชุดปุ่มฝั่งซ้ายจะคุมระบบเครื่องเสียง ส่วนฝั่งขวาจะควมคุมระบบช่วยขับขี่ต่างๆ รวมถึงปรับฟังก์ชั่นในการแสดงผลของหน้าปัดที่โซนซ้ายจะเป็นแบบดิจิตอลที่จะไม่มีวัดรอบมาให้เพราะเป็นระบบไฮบริด แต่จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าแทน ส่วนโซนขวาจะเป็นเข็มไมล์แสดงความเร็วรถ และในรุ่นนี้ยังมีระบบ Head Up Display แสดงข้อมูลยิงขึ้นที่กระจกหน้าที่สามารถปรับตำแหน่งสูงต่ำได้ชัดเจน

อีกจุดที่สังเกตได้จากการที่ทีมงานเราเคยมีโอกาศไปร่วมทดสอบแอคคอร์ด ใหม่ ที่สหรัฐอเมริกาจะพบว่าในรุ่นไฮบริดที่อเมริกาจะไม่มีคันเกียร์ แต่จะเป็นปุ่มกดเหมือนในฮอนด้า ซีอาร์วี ดีเซล ในบ้านเรา แต่สำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ สเปกบ้านเราจะเป็นคันเกียร์แบบที่เราคุ้นเคยในรถยนต์ทั่วไป

และอีกลูกเล่นหนึ่งที่มีมาให้ในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ก็คือ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมทที่เพิ่มความสะดวกสบายก่อนที่จะขึ้นรถได้ โดยตัวรถยังล็อคอยู่ และจะต้องมากดปุ่มสตาร์ทก่อนโดยผู้ที่มีกุญแจถึงจะขับขี่ใช้งานได้





ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 175 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที พร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร โดยมีกำลังรวมทั้งระบบ 215 แรงม้า  พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนที่ติดตั้งไว้ใต้เบาะหลัง


     


และที่ด้านหลังพวงมาลัยจะมีแป้นเหมือน แป้น Paddle Shift ที่เราคุ้นเคย แต่สำหรับในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ จะมีหน้าที่ในการหน่วงความเร็วที่สามารถปรับ +- ความหน่วงได้ ซึ่งก็มีส่วนในการช่วยชาร์จพลังงานกลับไปยังแบตเตอรี่ได้อีกทางด้วย แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดชลอความเร็วได้เหมือนเราเชนปรับลดเกียร์ในแบบเดิม




     

     


นอกจากนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ยังมีโหมดการขับขี่ของระบบไฮบริดมาให้ใช้งานดังนี้

โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
หรือเข้าใจง่ายๆ เลยก็คือการใช้ไฟฟ้าล้วนนั้นเอง

การทำงานมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดจากการลดความเร็วให้กลับเป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งในระบบนี้จะให้สมรรถนะการขับขี่แบบรถไฟฟ้าที่พร้อมตอบสนองทันที และยังให้ความเงียบ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โดยแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้ไกลขึ้นและทำความเร็วได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถกดสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Mode) เพื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่ที่ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยจะมีสัญลักษณ์ EV สีเขียวปรากฏขึ้นบนแผงหน้าปัด ให้การขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันและเงียบสนิท ซึ่งระบบจะทำงานและตัดเข้าสู่การทำงานในโหมดอื่นตามสภาพการขับขี่ที่เปลี่ยนไป

โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) 

เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว และมีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็วที่ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง

โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) 

พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่





โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์สปอร์ตตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างเร้าใจยิ่งขึ้น เพียงกดปุ่ม SPORT ที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ โดยสัญลักษณ์ SPORT จะแสดงขึ้นบนมาตรวัดในขณะที่ใช้ระบบ อีกทั้ง ECON Mode ระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน นอกจากนั้น ระบบจะปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ





ช่วงทดสอบฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่
กับทีมงาน Auto-Thailand

เริ่มต้นช่วงเช้าของการทดลองขับฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ด้วยการทดลองใช้งานระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น HYBRID TECH เท่านั้น โดยระบบนี้จะช่วยควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่เพียงแค่ควบคุมเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังตามคำแนะนำบนหน้าจอกลาง และเคลื่อนไปตามตำแหน่งที่ระบุบนหน้าจอ ระบบนี้สามารถเลือกรูปแบบการจอดได้ทั้งเข้าซองและแบบแนวขนานที่หน้าจอ



     

     




จากการได้ทดลองใช้จริง ในรอบแรกจะยังไม่ค่อยคุ้นกับระบบ ถ้าเราเผลอไปจับพวงมาลัย ระบบจะยกเลิกการทำงานทันที ซึ่งถ้ารถถอยอยู่ในที่แคบอาจจะต้องใช้ความสามารถในการขับส่วนตัวนำรถออกจากช่องดังกล่าว อีกจุดหนึ่งที่พบก็คือ ต้องพยายามเคลื่อนรถไปตามตำแหน่งที่ระบุบนหน้าจอให้พอดี (จะมีเส้นไกด์สีน้ำเงิน) จะเกินบวกลบได้นิดหน่อย ถ้าตัวรถจอดเกินเส้นไกด์สีน้ำเงินมาก ระบบก็จะยกเลิกอีกเช่นกัน และระหว่างใช้งานระบบนี้ ถ้าเราถอยเพลินและเข้าใกล้วัตถุที่ขวางรถเราอยู่ก็จะมีระบบเบรกฉุกเฉินหยุดรถได้ในทันที

ถึงตรงนี้ก็ต้องบอกเลยว่าระบบนี้เราจะต้องใช้งานให้คล่องแล้วมันจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจอดรถได้ ก็ถือเป็นจุดเด่นของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ถ้านำไปเทียบกับกลุ่มรถญี่ปุ่นด้วยกัน แต่สำหรับในกลุ่มรถยุโรปบางรุ่นนั้น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะแบบนี้ แค่กดปุ่มสั่งการทำงาน แล้วไม่ต้องควบคุมทั้งพวงมาลัยและเบรกเลย ระบบจะถอยเข้าจอดโดยอัตโนมัติในช่องจอดที่เราเลือกเอาไว้ และยังมีระบบนำรถออกจากช่องจอดให้อีกด้วย เพราะถ้าเราเข้าจอดด้วยระบบ เซ็นเซอร์จะคำนวนพื้นที่จอดค่อนข้างพอดี ทำให้การนำรถออกเองด้วยไม่พึ่งระบบจะค่อนยากเช่นกัน




     




เสร็จจากการทดลองระบบช่วยจอดในช่วงเช้า หลังจากพักเที่ยงแล้ว กลุ่มเราก็จะได้ไปทดลองขับฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ กับเส้นทางถนนจริงกับรวมระยะทาง 153 กิโลเมตร โดยวิ่งไปถึงจุดพักที่ร้านกาแฟแล้วสลับผู้ขับขี่มุ่งหน้ากลับมาที่โรงแรมที่พัก

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ในตำแหน่งผู้ขับขี่ เบาะนั่งนั่งสบายปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมเลื่อนถอยหลังเวลาออกจากรถ ตำแหน่งการนั่งในรุ่นนี้จะออกแบบมาให้ค่อนข้างต่ำเพื่อเน้นความสปอร์ตในการขับขี่ ถ้าเป็นคนตัวเล็กอาจต้องปรับเบาะให้สูงขึ้นไปอีกให้มองเห็นด้านหน้าชัดเจนเวลาขับรถ

ด้วยฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่คันนี้เป็นตัว TOP ออพชั่นทุกอย่างจึงมากันแบบจัดเต็มในสไตล์ของค่ายฮอนด้า แต่ก็มีเรื่องของสีเบาะที่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกับสีนี้นัก และตัวหนังที่มาหุ้มเบาะยังดูไม่เนียนเท่าที่ควร ส่วนที่เบาะนั่งหลังนั้น ถือเป็นจุดเน้นในเรื่องความกว้างขวางนั่งสบาย พนักพิงหลังเอนทำองศากำลังดี นั่งไกลๆไม่เมื่อยสำหรับคนตัวไม่ใหญ่ แต่ถ้าเป็นคนรูปร่างใหญ่สักหน่อย ก็อาจจะนั่งไม่ค่อยสบายนัก เพราะเบาะนั่งหลังของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ไม่สามารถปรับได้ ในขณะที่คู่แข่งอย่างโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริดจะเป็นแบบปรับไฟฟ้า รวมถึงที่พักแขนก็จะมีปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆมาให้ แต่ในแอคคอร์ด ไฮบริด ไม่มี และระบบปรับอากาศในรุ่นนี้ก็เป็นแบบแยก 2 โซน ซ้ายขวาที่ด้านหน้า ไม่มีปรับอุณหภูมิแยกที่โซนผู้โดยสารด้านหลังแบบคัมรี่ ไฮบริด รวมถึงม่านหลังในแอคคอร์ด ไฮบริดก็ไม่มีเช่นกัน ในขณะที่คู่แข่งมีมาให้ แต่ก็ต้องบอกว่าพื้นที่ด้านหลังของแอคคอร์ด ไฮบริด นั้นจะกว้างกว่าในคัมรี่ ไฮบริดแบบพอรู้สึกได้เช่นกัน  


     



     


มาถึงช่วงที่ทดลองขับฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ เริ่มออกตัวก็ถือว่าให้อัตราเร่งที่ติดเท้าเลยที่เดียว รู้สึกปรูดปร้าดกว่า รุ่น 1.5 เทอร์โบนิดๆ คือช่วงต้นช่วงกลางขับได้สนุก แต่พอช่วงความเร็วสูงจะต้องแช่คันเร่งหน่อยความเร็วถึงจะเพิ่มขึ้น ซึ่งในรุ่น 1.5 เทอร์โบในช่วงความเร็วสูงจะให้อัตราเร่งลื่นกว่า

การขับขี่ในทางโค้งขึ้นเนินลงเนินสามารถควบคุมง่ายๆ พวงมาลัยของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ค่อนข้างแม่นยำ และมีน้ำหนักตึงมือดีเมื่อขับขี่ทำความเร็วสูง รวมถึงในช่วงชลอความเร็วก็สามารถใช้งานแป้น +- ที่หลังพวงมาลัยช่วยในการหน่วงความเร็วช่วยคล้ายๆแรงเอนจินเบรก พร้อมกับการนำพลังงานช่วงเบรกไปชาร์จไฟเก็บในแบตเตอรี่ได้อีกด้วย

ส่วนเมื่อต้องการอัตราเร่งที่ขับขี่สนุกและการตอบสนองที่ทันใจมากขึ้น ก็สามารถกดปุ่มใช้งานโหมด SPORT น้ำหนักพวงมาลัยก็จะรู้สึกตึงมือขึ้นทำให้ขับขี่ความเร็วสูงได้มั่นใจ แต่ก็ต้องบอกกันตรงนี้ว่า ช่วงล่างของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ถูกปรับมาให้นุ่มหนึบขับสนุกในช่วงความเร็วประมาณหนึ่ง แต่ถ้าขับด้วยความเร็วสูงมากก็จะรู้สึกบ้างว่าช่วงล่างอาจจะนุ่มไปนิด แต่ก็ต้องบอกว่าอาจจะรู้สึกกับผู้ที่ชอบขับรถใช้ความเร็ว และจากการสอบถามทีมวิศวกรฮอนด้าได้รับข้อมูลว่าการเชตช่วงล่างในส่วนของโช้กอัพและสปริงจะใช้พาร์ทอะไหล่คนละตัวกันเลย

อีกเรื่องที่สังเกตได้ในช่วงที่ขับขี่ ก็คือ เรื่องความเงียบของห้องโดยสารที่ได้รับการปรับพัฒนามาในรุ่นนี้ ด้วยการเพิ่มวัสดุซับเสียงในจุดต่างๆ ทั้งห้องโดยสาร รวมถึงที่ด้านในล้อแมกซ์ด้วย และยังมีการฉีดโฟมอุดช่องว่างของชิ้นส่วนตัวถัง และการใช้คลื่นเสียงช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งต้องบอกว่าทำได้ดีเลยทีเดียว

จากการที่ได้ขับขี่ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ในระยะทาง 153 กิโลเมตร กับเส้นทางถนนจริงที่ต้องผ่านเส้นทางในหลายรูปแบบ ก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความคล่องตัวของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ทั้งๆที่มีตัวถังรถทั้งยาวและใหญ่ แต่ในการขับขี่เมื่อคุ้นชินกับตัวรถแล้ว กลับรู้สึกว่าขนาดตัวรถไม่ได้มีปัญหากับการใช้งานเลย

ส่วนในเรื่องของอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้น ในการทดลองขับครั้งนี้เดินทางกึ่งเป็นขบวน และคันของเราอยู่คันสุดท้ายคันที่ 4 จึงใช้ความเร็วตลอดการเดินทาง เรียกว่าเหมือนขับใช้งานจริงๆ โดยตัวเลขที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 13 กิโลลิตร กับการขับใช้ความเร็วตลอดก็ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง ถึงแม้บางช่วงจะลองใช้งานขับขี่ในโหมด EV แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้เพราะแบตเตอรี่ต่ำกว่าระดับที่ระบบจะทำงานในโหมดนี้





ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ด้วยรูปโฉมและแนวทางการออกแบบมาเน้นให้มีความสปอร์ตในการขับขี่มากกว่ารุ่นเดิม จุดเด่นอยู่ที่อัตราเร่งช่วงต้นช่วงกลาง แต่ถ้าช่วงความปลายหรือขับทำความเร็วสูงยังชอบอารมณ์ในรุ่น 1.5 เทอร์โบมากกว่า ความกว้างขวางสะดวกสบายก็มีมาให้ไม่น้อย ติดตรงเรื่องออพชั่นบางตัวที่ยังสู่คู่แข่งอย่างโตโยต้า คัมรี่ไม่ได้ กับราคาค่าตัวที่เท่ากันที่ 1,799,000 บาท ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยว่าจะให้น้ำหนักความคุ้มค่าไปที่รูปร่างหน้าตา หรือออพชั่นที่ใส่มา ซึ่งก็ต้องบอกแบบนี้ว่า ถ้าถามความเห็นส่วนตัวถ้าต้องเลือกฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่มาใช้สักคัน ผมคงเลือกรุ่น 1.5 เทอร์โบมากกว่า เหตุผลเพราะราคาค่าตัวที่ถูกกว่า ออพชั่นบางตัวสำหรับผมอาจไม่จำเป็น และจุดสำคัญของคนชอบแต่งรถ เครื่องยนต์ฮอนด้า 1.5 เทอร์โบสามารถนำมาต่อยอดเล่นสนุกได้อีกเยอะกว่าแน่นอนครับ...