หลังจาก Mazda CX-3 ใหม่ เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีการปรับโฉมใหม่ทั้งภายในและภายนอก เพิ่มออพชั่นด้านความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ในรุ่น Top ยังมีซันรูฟไฟฟ้ามาให้ด้วย โดยมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ทั้งดีเซลและเบนซิน เปิดราคาในรุ่นดีเซลปรับลงจากเดิมเล็กน้อย ส่วนรุ่น Top เบนซินราคาคงเดิม รุ่นไหนน่าใช้กว่ากัน...ติดตามได้ครับ
VIDEO
Mazda CX-3 ใหม่ รูปโฉมภายนอกปรับโฉมใหม่ ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าใหม่ กรอบไฟตัดหมอกและวัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกแบบสีดำเงา ไฟท้ายแบบ LED ยกมาจาก CX-5 คิ้วโครเมียมด้านข้างปรับใหม่ให้ลงตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงสมรรถนะด้าน NVH ลดเสียงรบกวนจากกระแสลมปะทะ และเสียงจากพื้นถนนได้ลดลงโดยการเพิ่มความหนาของวัสดุประตูคู่หน้า-หลัง และกระจกของประตูท้าย รวมถึงการเพิ่มวัสดุซับเสียงบริเวณประตู ภายในห้องโดยสารนั้นได้เพิ่มวัสดุซับเสียงและลดเสียงสะท้อนบริเวณหลังคา และปรับให้เสียงปิดประตูมีความนุ่มนวลมากขึ้น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่พร้อมยางรุ่นใหม่ขนาด 215/50R18 ที่ได้พัฒนาให้ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนจากพื้นถนนที่ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารของ Mazda CX-3 ใหม่ ในรุ่น Top ทั้ง 2 เครื่องยนต์ติดตั้งซันรูฟไฟฟ้า คอนโซลหน้าได้รับการปรับใหม่ คอนโซลเกียร์ออกแบบใหม่พร้อมพนักวางแขน และเปลี่ยนมาใช้ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Brake Hold ส่วนปุ่ม CENTER COMMANDER ได้ถูกย้ายตำแหน่งไปข้างหน้า ที่วางแก้วถูกย้ายตำแหน่งเพื่อการใช้งานที่สะดวก ภายในห้องโดยสารหุ้มหนัง ตกแต่งคอนโซล/แผงข้างประตูด้วยหนังกลับ Grand Luxe Suede และวงแหวนช่องแอร์เป็นสีแดงเข้มซึ่งเป็นสีแดงใหม่
ระบบช่วงล่างของ Mazda CX-3 ใหม่ได้รับการปรับแต่งให้มีความนุ่มนวลกว่าเดิม ด้วยการปรับคอยล์สปริงและโช้กอัพ รวมถึงใช้เหล็กกันโคลงด้านหน้าให้มีขนาดเล็กลง โดยด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านเป็นแบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม และระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
Mazda CX-3 ใหม่ ยังมาพร้อมเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ไม่ว่าจะเป็นระบบ Advanced Blind Spot Monitoring - ABSM เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน และระบบ Rear Cross Traffic Alert - RCTA เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย รวมไปถึงในรุ่น Top ทั้ง 2 เครื่องยนต์ยังติดตั้งระบบ 360 View Monitor แสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง ที่ทำให้การมองเห็นของผู้ขับนั้นมีความชัดเจนในมุมมองแบบมุมสูง หรือ Bird’s eye view ระบบ Lane Departure Warning System เตือนเมื่อตัวรถออกนอกเลน
ระบบ Adaptive LED Headlamps (ALH) ปรับการทำงานของไฟหน้าที่ส่องไปยังพื้นถนนเพื่อช่วยในเรื่องการขับขี่ที่ปลอดภัย ระบบ Driver Attention Alert (DAA) ลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ โดยการแนะนำให้หยุดพัก เมื่อตรวจพบพฤติกรรมความเหนื่อยล้าและการสูญเสียสมาธิของผู้ขับขี่ ระบบ Mazda Radar Cruise Control (MRCC) ช่วยปรับและรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
ระบบ Smart City Brake Support (SCBS) & Smart City Brake Support – Reverse (SCBS-R) ระบบที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนโดยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถ ระบบ Smart Brake Support (SBS) ระบบที่ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากการชนในความเร็วกลางไปจนถึงความเร็วสูง
Mazda CX-3 ใหม่ ยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์บล็อกเดิมจากรุ่นที่แล้ว ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic และแป้น Paddle Shift สำหรับปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย รองรับน้ำมันได้ถึง E85
เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection เทอร์โบแปรผัน ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic และแป้น Paddle Shift สำหรับปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ช่วงทดสอบ Mazda CX-3 ใหม่
กับทีมงาน Auto-Thailand
กิจกรรมครั้งนี้เริ่มต้นที่โชว์รูมมาสด้าเลียบด่วนรามอินทรา หลังจากรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลตัวรถ Mazda CX-3 ใหม่ เรียบร้อย ทางมาสด้าได้เตรียมรถทดสอบทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล พร้อมมีผู้ร่วมทดสอบอีก 3 ท่าน เดินทางมุ่งหน้าสู่หัวหิน
ทีมงาน Auto-Thailand เริ่มออกเดินทางด้วย Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นเบนซิน ก้าวเข้าสู้ห้องโดยสารในตำแหน่งผู้ขับขี่ ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือ ภายในเน้นความสปอร์ต เบาะนั่งผู้ขับขี่นั่งกระชับดี การปรับเปลี่ยนภายในให้ความลงตัว คุณภาพงานประกอบ วัสดุที่ใช้ถือว่าเป็นอันดับต้นๆในกลุ่ม แต่บรรยากาศภายในค่อนข้างแคบ และเมื่อต้องโดยสารกันแบบเต็มคัน 4 ที่นั่ง กับผู้ชายรูปร่างไม่สูงนักก็พอรู้สึกได้เลยว่า ถ้าต้องการเน้นใช้งานโดยสารเต็มคันน่าจะไม่สะดวกนัก แต่ถ้าเน้นขับชิลๆ 2 คน หรือด้านหลังเป็นเด็กนั่งก็สามารถใช้ได้สบาย และนี่ยังไม่รวมกับห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีมาให้ค่อนข้างจำกัด อาจไม่สะดวกนักถ้ามีของเดินทางเยอะ
ความรู้สึกในการทดลองขับ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นเบนซิน เริ่มเคลื่อนตัวก็ถือว่าทำได้น่าพอใจกับการโดยสารเต็มคัน พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กับเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด สามารถส่งกำลังได้อย่างนุ่มนวล อัตราเร่งทำได้ทันใจต่อเนื่อง ตรงนี้นอกจากพละกำลังจากเครื่องยนต์แล้ว จุดเด่นก็คือระบบเกียร์ที่ไม่ใช่แบบ CVT จึงให้การส่งกำลังที่ดีกว่า ขับสนุกกว่า เมื่อต้องการเร่งแซงเพียงคลิกดาวน์ก็สามารถได้อัตราเร่งได้รวดเร็ว หรือจะใช้แป้น Paddle Shift มาช่วยในการปรับเปลี่ยนเกียร์ก็ให้ความสะดวกและขับสนุกเหมือนกัน และใน Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นเบนซิน จะมีโหมด Sport ให้เลือกใช้ โดยปุ่มจะอยู่ที่บริเวณคอนโซลเกียร์ที่จะช่วยให้ขับขี่ลากรอบได้ยาวขึ้น
ในการขับขี่นั้นพวงมาลัยของ Mazda CX-3 ใหม่ ให้ความแม่นยำ คล่องตัวดี ทั้งยังปรับเพิ่มความหนืดขึ้นเล็กน้อยในช่วงที่ขับด้วยความเร็วสูง ระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับมาใหม่ รวมถึงยางรุ่นใหม่ TOYO ขนาด 215/50/18 ที่เน้นความนุ่มเงียบ ที่เดิมอาจมีคนบ่นว่ากระด้างไปบ้าง มาในรุ่นนี้ปรับให้มีความนุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะการขับขี่ที่ความเร็วเดินทางไม่เกิน 120 กม./ชม. แต่ถ้ามีการใช้ความเร็วที่สูงกว่านี้ก็ต้องบอกว่าช่วงล่างแบบรุ่นเดิมจะมั่นใจกว่า ห้องโดยสารที่เพิ่มวัสดุบุกันเสียงทำได้เงียบขึ้นกว่าเดิมแบบรู้สึกได้
ส่วนในช่วงที่ได้ลองมานั่งเป็นผู้โดยสารตอนหลังนั้น รู้สึกได้ถึงความแคบของห้องโดยสารซึ่งอาจจะต้องให้ผู้โดยสารตอนหน้าช่วยเลื่อนเบาะไปด้านหน้าบ้าง เพื่อให้ด้านหลังนั่งได้สบายมากขึ้น ตัวเบาะนั่งหลังช่วงขาค่อนขาสั้นทำให้นั่งไม่ค่อยสบาย สำหรับพื้นที่เหนือศีรษะนั้นถ้าไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่เกินไปก็ไม่ใช้ปัญหา และจากการที่เป็นรถที่ไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสงทำให้รู้สึกว่าความเย็นที่เบาะโดยสารด้านหลังนั้นไม่เพียงพอ ต้องใช้การเร่งความแรงพัดลมจากด้านหน้ามากกว่าปกติถึงจะได้รับความเย็นทั่วถึง ตรงนี้ถ้ามีการเพิ่มช่องแอร์ที่หลังเพิ่มก็จะช่วยในเรื่องนี้ได้
ในระหว่างทดลองขับ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นเบนซิน ได้สังเกตรอบการทำงานของเครื่องยนต์ในโหมด D ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,750 รอบ ความเร็ว 90 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,950 รอบ ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 2,100 รอบ ความเร็ว 110 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 2,250 รอบ และความเร็ว 120 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 2,500 รอบ เรื่องอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ประมาณ 13-14 กิโลลิตร กับความเร็วใช้งาน 100-120 กม./ชม.ผู้โดยสาร 4 คน
นอกจากนี้ยังได้ทดลองใช้อุปกรณ์ PerformanceBox วัดอัตราเร่งของ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นเบนซิน (นั่ง 3 คน) ได้ข้อมูลดังนี้
โหมด D
0-40 กม./ชม. ทำได้ 3.0 วินาที
0-50 กม./ชม. ทำได้ 3.9 วินาที
0-60 กม./ชม. ทำได้ 5.1 วินาที
50-70 กม./ชม. ทำได้ 2.4 วินาที
80-120 กม./ชม. ทำได้ 7.7 วินาที
0-100 กม./ชม. ทำได้ 11.0 วินาที
โหมด S
0-40 กม./ชม. ทำได้ 3.0 วินาที
0-50 กม./ชม. ทำได้ 4.0 วินาที
0-60 กม./ชม. ทำได้ 5.1 วินาที
50-70 กม./ชม. ทำได้ 2.4 วินาที
80-120 กม./ชม. ทำได้ 7.8 วินาที
0-100 กม./ชม. ทำได้ 11.0 วินาที
สำหรับในเที่ยวกลับ ทีมงาน Auto-Thailand ได้เปลี่ยนมาทดลองขับ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นดีเซล เช่นเดิมกับผู้โดยสารรวม 4 ท่าน โดยรูปโฉมทั้งภายนอก-ภายในของทั้งสองรุ่นแทบไม่ต่างกันเลย ในรุ่นดีเซล ไม่มีปุ่มโหมด Sport ที่คอนโซลเกียร์ นอกนั้นมีมาครบเหมือนกัน
สำหรับความรู้สึกในการทดลองขับ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นดีเซล ในรุ่นนี้ตัวรถจะหนักกว่ารุ่นเบนซิน 32 กิโลจากน้ำหนักเครื่องยนต์ดีเซล ระบบเกียร์ใช้ลูกเดียวกัน อัตราทดเกียร์ 1-6 เท่ากันทุกเกียร์ อัตราเร่งในช่วงขับจะรู้สึกถึงแรงดึงมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ไปได้เร็วกว่ารุ่นเบนซิน พละกำลังมากันแบบต่อเนื่อง ด้วยแรงบิดเยอะกว่าทำให้รู้สึกถึงแรงดึงมากกว่านิด เรียกว่าอัตราเร่งช่วงต้นช่วงกลางใช้งานสบาย ถ้าต้องการเร่งแซงก็สามารถเรียกพละกำลังด้วยการคลิกดาวน์หรือใช้แป้น Paddle Shift ก็ได้
การขับขี่นั้นให้ความรู้สึกคล้ายกันกับรุ่นเบนซิน แต่จะมีที่พอสังเกตได้เรื่องเสียงเครื่องในช่วงเร่งทำความเร็วนั้นค่อนข้างเบากว่าในรุ่นเบนซิน ที่จะมีเสียงดังเข้ามามากกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่ลากรอบสูง อีกเรื่องคือ ระบบช่วงล่างของ Mazda CX-3 ใหม่ ที่ปรับมาให้นุ่มนวลกว่ารุ่นเดิมนั้น ในรุ่นดีเซลเท่าที่รู้สึกกับการขับทำความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ก็ให้ความนุ่มนวลดี แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงกว่าก็จะเริ่มรู้สึกว่าช่วงล่างมีความนุ่มเกินไปกว่ารุ่นเบนซินแบบรู้สึกได้ ซึ่งน่าจะมาจากน้ำหนักเครื่องยนต์ที่มากกว่า
แต่จุดเด่นของ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นดีเซล ก็คือ พละกำลังที่เพียงพอเรียกใช้ได้ตลอด การทำงานของเครื่องยนต์รอบไม่สูง ทำให้มีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำ เท่าที่สังเกตจากการขับมาอยู่ที่ 16-17 กิโลลิตร กับความเร็วใช้งานที่ 120 กม./ชม. และมีการเร่งแซงทำความเร็วตลอดเส้นทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กับผู้โดยสารรวม 4 คน ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ถ้าขับขี่ที่ความเร็วลดลงมาก็สามารถให้ตัวเลขที่ดีกว่านี้แน่นนอน
ในระหว่างทดลองขับ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นดีเซล ได้สังเกตรอบการทำงานของเครื่องยนต์ในโหมด D ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,450 รอบ ความเร็ว 90 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,600 รอบ ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,850 รอบ ความเร็ว 110 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 1,950 รอบ และความเร็ว 120 กม./ชม. ใช้รอบเครื่อง 2,150 รอบ
นอกจากนี้ยังได้ทดลองใช้อุปกรณ์ PerformanceBox วัดอัตราเร่งของ Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นดีเซล (นั่ง 3 คน) ได้ข้อมูลดังนี้
โหมด D
0-40 กม./ชม. ทำได้ 3.3 วินาที
0-50 กม./ชม. ทำได้ 4.6 วินาที
0-60 กม./ชม. ทำได้ 5.8 วินาที
50-70 กม./ชม. ทำได้ 2.8 วินาที
80-120 กม./ชม. ทำได้ 10.6 วินาที
0-100 กม./ชม. ทำได้ 13.5 วินาที
ทีมงาน Auto-Thailand ขอสรุปแบบนี้ Mazda CX-3 ใหม่ รูปโฉมภายนอกนั้นทำได้โดนใจหลายๆคน เรื่องความสะดวกสบายในห้องโดยสารนั้นอาจจะไม่ใช่จุดเด่นถ้าต้องโดยสารเต็มทุกที่นั่ง แต่ถ้าใช้งานชิลๆนั่ง 2-3 คน ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดี การขับขี่ ระบบช่วงล่าง มาในแบบนุ่มนวลกว่ารุ่นเดิม ถ้าชอบความปรูดปร้าดต้องเลือกรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่ขับขี่ได้สนุก ออพชั่นก็จัดเต็มกว่ารุ่นเดิมในราคาเท่าเดิม ส่วนถ้าเน้นใช้งานเดินทางและอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำก็ต้องเลือกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่ราคาปรับลงขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ได้ออพชั่นเพิ่มมา ถึงตรงนี้ถ้าถามว่าจากการที่ทดลองขับ Mazda CX-3 ใหม่ ทั้งสองรุ่นมาแล้วนั้น ถ้าต้องเลือกจับจองเป็นเจ้าของ ส่วนตัวจะเลือก Mazda CX-3 ใหม่ รุ่นเบนซิน ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน...สบายใจในระยะยาว...กับค่าตัวที่ถูกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลหลักแสนบาท Mazda CX-3 ใหม่ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่มีสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นอีกรุ่นที่น่าสนใจเหมือนกันครับ...