ฟอร์ดเดินหน้าแผนการนำเทคโนโลยีที่ใช้ในรถฟอร์ดมาสู่สนามแข่ง ด้วยการประกาศนำเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตรสำหรับรถแข่งมาติดตั้งในรถสปอร์ตเพื่อลงแข่งขันในรายการ 2014 TUDOR United SportsCar Championship ในประเทศสหรัฐ
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ของฟอร์ดจะเปิดตัวครั้งแรกในสนามแข่งขัน 2014 Rolex 24 at Daytona ในวันที่ 25-26 มกราคม 2557 และจะลงแข่งขันทั้ง 12 สนามตลอดฤดูกาลหน้า โดยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะติดตั้งมาในรถแข่ง Daytona Prototype โฉมใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นตามทิศทางการออกแบบของฟอร์ด ซึ่งทีมไมเคิล แชงค์ เรสซิ่ง เป็นทีมนักแข่งทีมแรกที่สนใจเลือกใช้เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ในรถ Daytona Prototype
“สำหรับทีมฟอร์ด เรสซิ่ง เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการนำรถยนต์รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ที่เราผลิตเพื่อวางจำหน่ายทั่วไปมาใช้ในสนามแข่ง” มร. เจมี่ อัลลิสัน ผู้อำนวยการทีมฟอร์ด เรสซิ่ง กล่าว “เราภูมิใจที่ได้นำเทคโนโลยีไดเร็กอินเจ็กชั่นและทวินเทอร์โบในเครื่องยนตีโคบู๊สต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร มาใช้ในการแข่งขัน United SportsCar Championship โดยลงสนามเดียวกับเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังเทียบเท่ากับเครื่อง V8 เพราะเราอยากแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเครื่องยนต์ฟอร์ด อีโคบู๊ตส์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ให้กำลังแรงและประหยัดน้ำมัน ไม่ว่าจะขับในหรือนอกสนามแข่ง”
“เครื่องยนต์นี้คือตัวแทนของอนาคต” มร. ดั๊ก เยตส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ เราช์ เยตส์ เรสซิ่ง เอนจิ้น กล่าว “เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ของฟอร์ดเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดมากมาย ทั้งระบบไดเร็กอินเจ็กชั่น เทอร์โบชาร์จ และระบบการทำงานประสิทธิภาพสูง เราจึงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความเหนือชั้นยิ่งขึ้นให้แก่เครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ผ่านความร่วมมือกันภายใต้โครงการพัฒนาเพื่อใช้สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้”
สำหรับรถแข่ง Riley Technologies Daytona Prototype รุ่นใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทีมฟอร์ดเพื่อใช้ในสนามแข่งเดย์โทน่า จะติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ขณะที่ตัวถังสะท้อนทิศทางการออกแบบรถยนต์ของฟอร์ดที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมร. กาเรน นิโคโกเชียน หนึ่งในนักออกแบบของฟอร์ด และยังได้รับความช่วยเหลือด้านการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์โดยมร. เบอร์นี่ มาร์คัส หัวหน้าทีมด้านอากาศพลศาสตร์ของฟอร์ดอีกด้วย
“ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี นำเอารถ Daytona Prototype ที่มีอยู่แล้วมาเติมองค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ฟอร์ดลงไป และสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างในสไตล์ฟอร์ดขึ้นมา” มร. อัลลิสัน กล่าว “รถแข่งที่ติดตั้งเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์คันนี้ผ่านการปรับแต่งให้เหมาะกับสนามแข่งด้วยการใช้อุปกรณ์ควบคุมต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการแข่งขัน แต่นอกเหนือจากนั้น ทุกสิ่งที่เราส่งลงสนามในครั้งนี้คือสิ่งเดียวกับที่เราวางจำหน่ายอยู่ในโชว์รูมฟอร์ดทั้งหมด”

แม้ว่าเครื่องยนต์ใหม่ของฟอร์ดจะเปิดตัวในการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่สนาม 2014 Rolex 24 at Daytona ในช่วงต้นปีหน้า แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น เครื่องยนต์รุ่นนี้จะได้สัมผัสกับพื้นสนามแข่งเดย์โทน่าเป็นครั้งแรกในวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา
ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างทีมไมเคิล แชงค์ เรสซิ่ง ทีมฟอร์ด เรสซิ่ง และคอนติเนนทัล ไทร์ ทีมนักแข่งที่จะลงสนาม 2012 Rolex 24 at Daytona วางเป้าหมายที่จะสร้างสถิติใหม่ในสนามแข่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางด้านความเร็วของโลก หรือ ‘World Center of Speed’ ด้วยการทำลายสถิติเดิมที่ 210.364 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งบิล เอลเลียต แชมป์การแข่งขัน Nascar ทำเอาไว้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2530 จากการขับรถฟอร์ด ธันเดอร์เบิร์ด เข้าสู่เส้นชัยด้วยความเร็วสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบคัดเลือกสำหรับผู้เข้าแข่งขัน Daytona 500 ในปีดังกล่าว
“การได้มีชื่ออยู่ในหน้าประวัติศาสตร์นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเรา” มร. ไมค์ แชงค์ เจ้าของทีม กล่าว “แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าสถิติเดิมที่ทำเอาไว้จะยืนหยัดมาได้ยาวนานถึงทุกวันนี้ การได้พยายามทำลายสถิติในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่พิเศษมากๆ เราร่วมงานและพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีกับฟอร์ดมาอย่างยาวนานเพื่อจะได้มีโอกาสทำงานในโปรเจ็กต์แบบนี้ เมื่อใดก็ตามที่เราทำลายสถิติได้สำเร็จ นั่นคือโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เราได้พยายามมาโดยตลอด”
“ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนียืนหยัดในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ดังนั้น การมีโอกาสได้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ของเรามาเปิดตัวในสนามแข่งที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในการพยายามทำลายสถิติในครั้งนี้ รวมทั้งการได้เข้าร่วมการแข่งขัน 2014 United SportsCar Championship ตลอดฤดูกาลหน้าจึงเป็นสิ่งที่เยี่ยมมากๆ” มร. อัลลิสัน กล่าว
และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงสนามครั้งแรกและเพื่อความพร้อมในการแข่งขันตลอดฤดูกาลหน้า ทีมงานจึงได้นำเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์เข้าทดสอบความทนทานในห้องทดลองวัดพลังงาน (Dynamometer Lab) ของฟอร์ดในเมืองมิชิแกน ประเทศสหรัฐ โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวได้รับการพัฒนาภายใต้ความร่วมมือของทีมวิศวกรทั้งด้านการผลิตและวิศวกรที่ดูแลทีมรถแข่งของฟอร์ด รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากเราช์ เยตส์ เรสซิ่ง เอนจิ้น ที่ช่วยตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมสำหรับการลงสนามในฤดูกาลหน้า

“ความพิเศษของห้องทดลองวัดพลังงานแห่งนี้ก็คือ นี่เป็นพื้นที่สำหรับการทดสอบรถแข่งเพื่อใช้ในกีฬามอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ โดยยังคงตั้งอยู่ในพื้นที่ทดลองรถยนต์ของฟอร์ด” มร. เดวิด ไซมอน วิศวกรยานยนต์ประจำทีมฟอร์ด เรสซิ่ง กล่าว “เราสามารถจำลองการทำงานของรถยนต์ทั้งคันขณะวิ่งอยู่บนสนามแข่งได้ ซึ่งเป็นสภาวะการทำงานที่ห้องทดลองอื่นๆ อาจทำไม่ได้ถ้าไม่ใช่ห้องที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบรถแข่งโดยเฉพาะ การพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นนี้จึงนับว่าเป็นการทำงานที่มุ่งสร้างสรรค์เครื่องยนต์ที่ทรงประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการแข่งขันอย่างแท้จริง”
สำหรับแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ต้องการติดตามความเคลื่อนไหวในการพยายามทำลายสถิติของสนามแข่งเดย์โทน่าของทีมฟอร์ด เรสซิ่ง สามารถติดตามได้ทางทวิตเตอร์ (@FordRacing) และบนหน้าเฟสบุคได้ตลอดทั้งวัน