
บริษัท 3 มงกุฎ เรซซิ่ง โปรเจ็ค จํากัด จัดหนักความมันส์ระดับ 5 ดาว ในศึกดวลอึด 12 ชั่วโมง รายการ Idemitsu Super Endurance Thailand 2025 ท่ามกลางรถแข่งชั้นนำ 77 คัน ชิงชัยดุเดือดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในสังเวียนระดับโลกอย่าง สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ผลปรากฏว่ารถแข่ง LAMBORGHINI จาก PSC MOTORSPORT ออกนำม้วนเดียวจบผงาดคว้าชัยชนะสมัยแรกอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีผู้บริหารระดับสูงอย่าง มร.ยูสุเกะ ชิโรตะ รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จำกัด ให้เกียรติโบกธงตาหมากรุก ให้ผู้พิชิตการแข่งขันที่เต็มไปด้วยสปิริต ความแข็งแกร่ง และการต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบมาราธอน 12 ชั่วโมง รายการ Idemitsu Super Endurance Thailand 2025 ดวลความเร็วอย่างสุดมันส์เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเริ่มต้นออกสตาร์ตในช่วงเที่ยงวัน ก่อนจะยิงยาวสู่ไนท์เรซและจบการแข่งขันในเวลาเที่ยงคืน

โดยในปีนี้มียอดทีมแข่งไทยและต่างชาติ จาก 14 ประเทศร่วมลงไล่ล่าแชมป์มากถึง 77 คัน จากทั้งหมด 8 รุ่น การแข่งขัน ได้แก่ SP จำนวน 3 คัน, D2 จำนวน 10 คัน, D3 จำนวน 13 คัน, D4 จำนวน 17 คัน, D5 จำนวน 15 คัน, SUPER NZ จำนวน 9 คัน, SUPER NZ LADY จำนวน 4 คัน และ YARIS OMR จำนวน 6 คัน

กริดสตาร์ตในเรซนี้มี รถแข่ง LAMBORGHINI หมายเลข 55 ในคลาส SP จาก PSC MOTORSPORT ซึ่งขับโดย สรัญ เสรีธรณกุล, นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์ และ อเล็กซ์ โกรคอทท์ เป็นเจ้าของโพล โดยรถแข่งคันนี้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ด้วยเครื่องยนต์ Honda Civic FL5 และสร้างศักยภาพได้อย่างลงตัว
หลังเปิดเกมชั่วโมงแรกพวกเขาออกตัวจากตำแหน่งโพลและนักขับทั้ง 3 คน อย่าง สรัญ, นราศักดิ์ และ อเล็กซ์ ออกไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าเป็นการขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม ทว่าในการแข่งขันยาว 12 ชั่วโมง ก็มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นโดยเฉพาะช่วงที่มี “เซฟตี้คาร์” ออกมาเคลียร์แทร็กจากอุบัติเหตุหลายครั้ง

นอกจากนี้ ยังมีการสลับอันดับในบางช่วงกับการเข้ามาทำ “พิตสต็อป” ส่งผลให้การลุ้นแชมป์ในแต่ละคลาสเต็มไปด้วยความเข้มข้น รวมถึงการแข่งขันที่ต้องวิ่งกลางวัน เข้าสู่ช่วงพลบค่ำ และปิดท้ายด้วยไนท์เรซเต็มรูปแบบ จึงเป็นความท้าทายอย่างมากของทุกทีม
อย่างไรก็ดี นักขับทั้ง 3 คน อย่าง สรัญ, นราศักดิ์ และ อเล็กซ์ ยังรักษาฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงว่า ก่อนจะพารถแข่ง LAMBORGHINI หมายเลข 55 ในคลาส SP จาก PSC MOTORSPORT นำม้วนเดียวจบเมื่อครบ 12 ชั่วโมง วิ่งไปทั้งสิ้น 358 รอบสนาม ผงาดคว้าชัยชนะสมัยแรกให้กับตัวเองได้อย่างยิ่งใหญ่ กับรถแข่งที่พัฒนาเพื่อการแข่งขันรายการนี้มาตลอดทั้งปี

อันดับ 2 โอเวอร์ออลล์ตกเป็นของ TOYOTA ALTIS หมายเลข 220 จากทีม Arto ซึ่งขับโดย กรัณฑ์ ศุภพงษ์, อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ และ กฤษฎิ์ วสุรัตน์ ตามหลังผู้นำ 7 รอบสนาม แต่พวกเขาก็สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ในรุ่น D2 ไปครอง โดยวิ่งไปทั้งสิ้น 351 รอบสนาม

อันดับ 3 โอเวอร์ออลล์ตกเป็นของ Wing Hin Motorsports ทีมแข่งจากประเทศมาเลเซีย ภายใต้รถแข่ง Toyota Yaris หมายเลข 438 ในคลาส D4 ด้วยการขับของ DANNIES NG, BOY WONG และ JWAN HII ตามหลังผู้นำ 13 รอบสนาม และเพียงพอให้คว้าแชมป์ในคลาส D3 ไปครองได้เช่นกัน โดยวิ่งไปทั้งสิ้น 338 รอบสนาม
อันดับ 4 โอเวอร์ออลล์ ได้แก่ รถแข่ง Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซล หมายเลข 356 ในคลาส D3 จาก ZIC FEELIQ INNOVATION MOTORSPORT จากการขับของ ณัฐชนนท์ เอกสาร, มานะ พรศิริเชิด, ไมเคิล ฟรีแมน และโรจน์วัฒน์ อักษรโกวิท ตามผู้นำ 22 รอบสนาม ผงาดคว้าชัยชนะในรุ่น D3 ไปครองได้สำเร็จ โดยวิ่งไปทั้งสิ้น 336 รอบสนาม

ขณะที่อันดับ 5 ตกเป็นของ รถแข่ง HONDA CRZ หมายเลข 499 จาก YK Motorsport ในคลาส D4 ซึ่งขับโดย 3 นักแข่งต่างชาติอย่าง KHAIRULANWAR BIN ISMAIL, LUO ZHENYU LOUIS, ONG WAI KWONG DARREN และ TANG CHEE WEI ตามหลังผู้ชนะ 27 รอบสนาม
ส่วนแชมป์ในรุ่น SUPER TURBO D5 ตกเป็นของ HONDA CRZ หมายเลข 590 จาก PT MAXNITRON WISE BY RONGPO POWER ขับโดย อานนท์ รอดประเสริฐ, นฤนนท์ภัทร รัตน์ชเลสินธร, ชินวิช รมยานนท์, ภรัณเมศร์ พรอัครรัศมิ์ และ รังสรรค์ รมยานนท์ ขับไปทั้งสิ้น 312 รอบสนาม

ด้านแชมป์ในรุ่น SUPER NZ ได้แก่ รถแข่ง TOYOTA VIOS หมายเลข 35 จาก NEXZTER HGR RACING TEAM BY VG ขับโดย ชาวิช บวรศรีการ, ชิษณุพงศ์ โพธิ์เจริญธรรม, บุญโชค ถิรธารากร, ธนธัส ล้อมวงษ์ และ กัญจน์ ตั้งพจน์ทวีพร วิ่งไปทั้งสิ้น 308 รอบสนาม
โดยแชมป์ในรุ่น SUPER NZ LADY ได้แก่ รถแข่ง TOYOTA VIOS หมายเลข 28 จาก RE DREAM TEAM ขับโดย 3 นักแข่งสาวอย่าง อริญรดา ฮอร์น, กมลชนก บุญคร่ำ และ ใบแก้ว ธนสินชัย วิ่งไปทั้งสิ้น 286 รอบสนาม

สำหรับแชมป์ในรุ่น YARIS OMR ตกเป็นของ รถแข่งหมายเลข 22 จาก RUK TEAM ขับโดย MOHANJIT SINGH, MOHAMMAD ANAQI, HAKIMI BIN MOHD KAMIL และ กิตติณัฐ เหลืองอรุณชัย วิ่งไปทั้งสิ้น 295 รอบสนาม

ทั้งนี้ ศึกการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบมาราธอน 12 ชั่วโมง รายการ Idemitsu Super Endurance Thailand 2025 นับเป็นอีกครั้งที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีรถแข่งเข้าร่วมมากถึง 77 คัน และมีการขับเคี่ยวสุดเข้มข้นตลอดทั้งเรซ รวมถึงการติดตามของแฟนมอเตอร์สปอร์ตอย่างล้นหลาม