การแข่งขันรถยนต์มาราธอนชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ IDEMITSU RAAT THAILAND ENDURANCE CHAMPIONSHIP 2025 ดวลความเร็วสนาม 2 และ 3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางการขับเคี่ยวสุดโหด และเกมสุดดราม่า ที่มีความพลิกผันตลอดทั้งเกม

สนามที่ 2 ดวลความเร็วทั้งสิ้น 4 ชั่วโมงในวันเสาร์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ออกสตาร์ตในเวลา 13.00 น. เรซนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อการลุ้นแชมป์ประจำปี โดยก่อนเข้าสู่สุดสัปดาห์นี้ที่ บุรีรัมย์ เป็นรถแข่ง Toyota Altis หมายเลข 20 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ที่นำเป็นจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสม ภายใต้การขับของ กรัณฑ์ ศุภพงษ์, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ
กริดสตาร์ตในเรซนี้มีรถแข่งเข้าร่วมทั้งสิ้น 40 คัน จากสุดยอดทีมแข่งชั้นนำของเมืองไทย โดยตำแหน่งโพลจากการควอลิฟายเป็นของรถแข่ง HONDA S2000 หมายเลข 14 จาก YK MOTORSPORTS ของ ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ และ ณัฐนิช ลีวัฒนาวรากุล ขนาบข้างด้วยรถแข่ง TOYOTA GR COROLLA หมายเลข 4 จาก OR - V.C.MEAT - BUONO - NEXZTER - WISE RACING TEAM ขับโดย 3 นักแข่งมากประสบการณ์อย่าง ขจรศักดิ์ ณ สงขลา, อัครเดช เตชะสัตยา และ ประพจน์ ชื่นวิจิตร ในกริดที่ 2

เกมเรซนี้มีหลายเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อกลุ่มหน้า โดยท้ายที่สุดเจ้าของโพลอย่าง รถแข่ง HONDA S2000 หมายเลข 14 จาก YK MOTORSPORTS ขับโดย ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ และ ณัฐนิช ลีวัฒนาวรากุล ที่แม้จะโชคร้ายยางแตกช่วงกลางชั่วโมงที่ 3 และออกไปตามหลังในอันดับ 2 แต่ก็กลับมาคว้าชัยชนะได้สำเร็จ ด้วยเวลารวม 4 ชั่วโมง 1 นาที 14.392 วินาที (จำนวน 117 รอบ) เก็บชัยครั้งแรกของปีนี้ให้กับตนเองได้สำเร็จทั้ง โอเวอร์ออลล์ และในรุ่น D2 Touring Car
อันดับ 2 เป็นของ รถแข่ง Toyota Altis หมายเลข 19 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ที่แม้จะหลุ่นลงไปอยู่กลุ่มกลางในช่วงต้นเรซ แต่จากการประสานงานที่ยอดเยี่ยมของ สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ มานัต กุละปาลานนท์ ก็ช่วยกันไล่แซงขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ได้สำเร็จ โดยตามหลังผู้ชนะ 1 นาที 42.585 วินาที

ขณะที่อันดับ 3 โอเวอร์ออลล์เป็นของรถแข่ง HONDA CRZ หมายเลข 18 จาก YK MOTORSPORTS ใน D3 Compact ซึ่งสร้างผลงานสุดร้อนแรงจากการขับของ เดชาธร ภู่อัครวุฒิ และ ธนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ ที่ช่วยกันไล่อันดับขึ้นมาจบเรซในท็อป 3 โอเวอร์ออลล์ และคว้าชัยชนะในคลาส D3 Compact ไปครอง ตามหลังผู้ชนะ 1 รอบสนาม
อันดับ 4 เป็นรถแข่ง Toyota Altis หมายเลข 20 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ภายใต้การขับของ กรัณฑ์ ศุภพงษ์, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ ที่แม้จะต้องนำรถเข้าแก้ไขในการาจหลังผ่านชั่วโมงแรก แต่ยังสามารถออกมาคว้าแต้มสำคัญได้ โดยตามหลังผู้ชนะ 1 รอบสนาม

ตามด้วยรถแข่ง TOYOTA YARIS หมายเลข 39 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ในคลาส D3 Compact ที่ขับโดย กฤษฎิ์ วสุรัตน์, ณดล วัฒนธรรม และ เคนทาโร ชิบะ เข้าเส้นชัยอันดับ 5 โอเวอร์ออลล์ ตามหลังผู้ชนะ 2 รอบสนาม
ส่วนผู้ชนะในรุ่น D4 Production เป็นของรถแข่ง HONDA JAZZ หมายเลข 79 ขับโดย สราวุธ ทองกลาง, ปฐวี รัศมีกฤตภาส, บุญญาฤทธิ์ สุภาศิริ และ ธนวรรณ สุภาศิริ ดวยเวลารวม 4 ชั่วโมง 1 นาที 48.181 วินาที ด้านผู้ชนะในรุ่น D5 Eco Car ได้แก่รถแข่ง Honda Brio หมายเลข 26 จาก B-Quik Racing ขับโดย อดิศักดิ์ ตั้งพูลเจริญ และ อัฐพล แก้วอาษา ด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 1 นาที 41.489 วินาที

ผลในรุ่น Toyota Yaris OMR ปรากฏว่า B-Quik Racing ภายใต้รถแข่ง TOYOTA YARIS หมายเลข 27 ขับโดย 3 นักแข่งฝีมือดีของทีมอย่าง เอกชัย อินทรจินดา, ปัญจะ ไหวพริบ และ สถาพร วีระเชื้อ คว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 2 นาที 1.598 วินาที
โดยในรุ่น Super NZ ชัยชนะตกเป็นของ TOYOTA VIOS หมายเลข 25 ขับโดย เกรียงศักดิ์ เจริญสุข, ปารีณา ศุภธาดารัตน์ และ ณัฐ นิมมานวุฒิพงษ์ ด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 1 นาที 34.195 วินาที ส่วนผู้ชนะในรุ่น Super NZ Lady ได้แก่ TOYOTA VIOS หมายเลข 89 จาก TOYOTA GAZOO RACING THAILAND ขับโดย กิติยา สมิตชาติ และ ศิริภากรณ์ แยบยนต์ ด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 1 นาที 55.085 วินาที

เข้าสู่สนาม 3 ซึ่งมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา นักแข่ง, ทีมแข่ง และรถแข่งมีเวลาเพรียมตัวแค่ชั่วข้ามคืน นี่จึงเป็นงานที่ท้าทายความสามารถอย่างมาก ขณะที่การแข่งขันเพิ่มระยะทางเป็น 5 ชั่วโมง
หลังจากที่คว้าชัยชนะเรซที่ 2 รถแข่ง HONDA S2000 หมายเลข 14 จาก YK MOTORSPORTS ขับโดย ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ และ ณัฐนิช ลีวัฒนาวรากุล ถือว่าอยู่ในสนามรายการที่ยอดเยี่ยมสุด และพวกเขาก็ได้ออกสตาร์ตจากตำแหน่งโพลเช่นเคย
ขณะที่กริดที่ 2 อย่าง รถแข่ง TOYOTA GR COROLLA หมายเลข 4 จาก OR - V.C.MEAT - BUONO - NEXZTER - WISE RACING TEAM ขับโดย 3 นักแข่งมากประสบการณ์อย่าง ขจรศักดิ์ ณ สงขลา, อัครเดช เตชะสัตยา และ ประพจน์ ชื่นวิจิตร รถแข่งขัดข้อง ต้องเริ่มต้นเรซจาก “พิตเลน”

สถานการณ์พลิกไปมา โดย HONDA S2000 หมายเลข 14 จาก YK MOTORSPORTS ขับโดย ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ และ ณัฐนิช ลีวัฒนาวรากุล ที่เปิดโหมดล่าอันดับช่วงปลายชั่วโมงที่ 4 ต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด รถแข่งปีนขอบ “เคิร์บ” ที่โค้ง 1 กระแทกเข้าไปเต็มๆ จนล้อหลังซ้ายบิด และต้องเข้าพิตเพื่อแก้ไข โยนโอกาสคว้าชัยชนะใส่มือคู่แข่งอย่างน่าเสียดาย
จากนั้น Toyota Altis หมายเลข 20 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ภายใต้การขับของ กรัณฑ์ ศุภพงษ์, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพกลับมาเป็นหัวแถวอีกครั้ง ด้วยแผนอันเดอร์คัตสุดโหด
แต่ดราม่าทำงานอีกครั้ง... เมื่อผู้นำเจอปัญหาระบบเกียร์บ็อกซ์เล่นงาน จนต้องเข้าพิตเพื่อแก้ไข อันดับรูดลงไป

จากนั้นเพื่อนร่วมทีมอย่าง Toyota Altis หมายเลข 19 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ซึ่งขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ มานัต กุละปาลานนท์ ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงแทน โดยมี รถแข่ง Mercedes Benz C180 หมายเลข 44 จาก AIM MOTORSPORTS ขับโดย พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์, สุพจน์ กสิกรรม และ อลิสา ขุนแขวง ไล่บี้อย่างหนักในชั่วโมงสุดท้าย
ท้ายที่สุดจากเซฟตี้คาร์ที่ออกมาวิ่งเคลียร์แทร็ก ช่วยบีบระยะจากผู้ตามเข้าไปหาผู้นำเหลือต่ำกว่า 1 วินาที จากนั้น พฤฒิรัตน์ ก็ไล่แซงขึ้นมาเป็นหัวแถวก่อนพารถแข่ง Mercedes Benz C180 หมายเลข 44 จาก AIM MOTORSPORTS ร่วมกับ สุพจน์ และ “มะปราง” อลิสา เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลารวม 5 ชั่วโมง 26.580 วินาที (จำนวน 145 รอบ) คว้าชัยชนะครั้งแรกให้กับตนเองได้สำเร็จในฤดูกาลนี้
อันดับ 2 เป็นของ Toyota Altis หมายเลข 19 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ซึ่งขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ มานัต กุละปาลานนท์ ตามหลัง 12.640 วินาที
อันดับ 3 ได้แก่ Toyota Altis หมายเลข 20 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand ภายใต้การขับของ กรัณฑ์ ศุภพงษ์, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ อัครพงศ์ อัคนีนิโรธ ตามหลัง 2 รอบสนาม
อันดับ 4 โอเวอร์ออลล์ และผู้ชนะคลาส D3 Compact เป็นของรถแข่ง Mazda2 Diesel จาก ZIC FEELIQ INNOVATION MOTORSPORT ขับโดย ไมเคิล ฟรีแมน, ณัฐชนนท์ เอกสาร และ โรจน์วัฒน์ อักษรโกวิท ตามหลังผู้ชนะ 3 รอบสนาม
อันดับ 5 โอเวอร์ออลล์ได้แก่ รถแข่ง TOYOTA YARIS หมายเลข 39 จาก TOYOTA GAZOO RACING THAILAND ขับโดย 3 นักแข่งอย่าง กฤษฎิ์ วสุรัตน์, ณดล วัฒนธรรม และ เคนทาโร ชิบะ ตามหลังผู้ชนะ 3 รอบสนาม
ส่วนผู้ชนะในรุ่น D4 Production เป็นของรถแข่ง HONDA JAZZ หมายเลข 79 ขับโดย สราวุธ ทองกลาง, ปฐวี รัศมีกฤตภาส, บุญญาฤทธิ์ สุภาศิริ และ ธนวรรณ สุภาศิริ ดวยเวลารวม 5 ชั่วโมง 1 นาที 50.210 วินาที
ด้านผู้ชนะในรุ่น D5 Eco Car ได้แก่รถแข่ง Honda Brio หมายเลข 26 จาก B-Quik Racing ขับโดย อดิศักดิ์ ตั้งพูลเจริญ และ อัฐพล แก้วอาษา ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 2 นาที 8.306 วินาที
ขยับมาดูผลในรุ่น Toyota Yaris OMR ปรากฏว่า B-Quik Racing ภายใต้รถแข่ง TOYOTA YARIS หมายเลข 27 ขับโดย 3 นักแข่งฝีมือดีของทีมอย่าง เอกชัย อินทรจินดา, ปัญจะ ไหวพริบ และ สถาพร วีระเชื้อ คว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 41.761 วินาที
โดยในรุ่น Super NZ ชัยชนะตกเป็นของ TOYOTA VIOS หมายเลข 25 ขับโดย เกรียงศักดิ์ เจริญสุข, ปารีณา ศุภธาดารัตน์ และ ณัฐ นิมมานวุฒิพงษ์ ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 55.379 วินาที ส่วนผู้ชนะในรุ่น Super NZ Lady ได้แก่ TOYOTA VIOS หมายเลข 89 จาก TOYOTA GAZOO RACING THAILAND ขับโดย กิติยา สมิตชาติ, ฉัตรนภา เขียวขำ และ ศิริภากรณ์ แยบยนต์ ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 2 นาที 44.180 วินาที
ผ่านการแข่งขัน 3 สนามแรกของปีสถานการณ์ลุ้นแชมป์ประเทศไทยยังคงเข้มข้น โดยกลุ่มโอเวอร์ออลล์ Toyota Altis หมายเลข 20 จาก Toyota Gazoo Racing Thailand รั้งจ่าฝูงโดยมีทั้งสิ้น 60 คะแนน เหนือเพื่อนร่วมทีมหมายเลข 19 อันดับ 2 เพียง 2.4 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถแข่ง TOYOTA YARIS หมายเลข 39 ในคลาส D3 จากทีมเดียวกัน ตามหลัง 23.6 คะแนน
ทั้งนี้ ศึก IDEMITSU RAAT THAILAND ENDURANCE CHAMPIONSHIP 2025 สนามสุดท้าย จะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 11-12 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยจะดวลกันทั้งสิ้น 8 ชั่วโมงเต็ม ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก Super Turbo Thailand / Super Endurance Thailand