หลังจากที่กลุ่มบริษัทธนบุรีฯ ผู้ผูกขาดแบรนด์ MB ในบ้านเราตั้งแต่แรกเริ่ม นำรถขนาดกะทัดรัดอย่างMB 190E บอดี้ W201 หรือที่เรียกว่า เบบี้เบนซ์ เข้ามาในแบบรถ CBU ขายดีถล่มทลาย จนทั่วโลกตีข่าวไปทั่วว่า คนไทยโคตรรวย วันเดียวจองรถเบนซ์เป็นพันคัน ในขณะที่บ้านเรากำลังฮือฮากับ 190E แต่ในต่างประเทศกลับกำลังจะปลดประจำการรถรุ่นนี้ เพื่อรอรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดกลางปี 1993 ในยุโรปเปิดตัว C-Class รถเล็กระดับเดียวกับ 190E ในรูปทรงใหม่หมดตั้งแต่หัวจดท้าย กับรหัสบอดี้  W202  ซึ่งบ้านเราเปิดตัวหลังจากนั้นเกือบ ๆ 1 ปีทีเดียว และนั่นก็คือ C-Class โฉมแรกที่เรากำลังแนะนำในครั้งนี้     







Mercedes-Benz C180 จัดเป็น Version ประหยัดสุดของ C-Class โฉมแรกนี้ ด้วยการใช้งานแบบง่าย ๆ ขนาดกะทัดรัดไม่ต่างไปจาก 190E เครื่องยนต์ขนาดประหยัด 1.8 ลิตร เพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไป แต่ได้ความเท่มีระดับภายใต้โลโก้ดาวสามแฉก ทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่สนใจอย่างมากในตอนที่ยังเป็นรถป้ายแดง หรือแม้แต่จะเป็นรถมือสองตกรุ่นไปแล้วอย่างในปัจจุบัน ก็ยังมีคนให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยสนนราคาค่าตัวไม่สูงมาก อะไหล่ราคาถูกกว่ารถยุโรปอีกหลาย ๆ ยี่ห้อ เครื่องยนต์ประหยัด และยกระดับเจ้าของโดยอัตโนมัติด้วยแบรนด์ Mercedes-Benz

Mercedes-Benz C180 เป็น C-Class โฉมแรกที่ทางทีมออกแบบของค่าย MB พยายามจะสร้างความใหม่ให้แตกต่างไปจาก 190E อย่างสิ้นเชิง จึงทำให้รูปลักษณ์ของ Mercedes-Benz C180 ออกมาทันสมัยกว่า 190E มาก มีความโค้งมนมากกว่า ด้านหน้าและหลังปรับเปลี่ยนใหม่หมด ดูล้ำยุคขึ้น สันเหลี่ยมในด้านข้างที่เคยปรากฏใน 190E ถูกขัดเกลาออกจนหมด ไม่มีให้เห็นใน Mercedes-Benz C180  ที่ดูโดดเด่นสุด น่าจะเป็นแผงไฟท้ายทรงสามเหลี่ยมเกาะมุม ที่เคยยอดฮิตในอดีตกว่า 40 กว่าปีที่ผ่านมาของรถยุโรปหลาย ๆ รุ่น ก็ถูกนำปัดฝุ่นใช้กับ C-Class โฉมแรกนี้  







ภายในห้องโดยสารของ Mercedes-Benz C180 นั้นกว้างขวางพอสมควร เหมาะสำหรับเจ้าของขับเองมากกว่า ขนาดห้องโดยสารสามารถจุได้ไม่เกิน 5 คนแบบสบาย ๆ การจัดสรรเนื้อที่ห้องโดยสาร ทำได้ค่อนข้างดีไม่น้อย เนื้อที่ทั้งตอนหน้าและหลังมีมาให้สมน้ำสมเนื้อ โดยเฉพาะที่นั่งตอนหลัง ช่วงวางขาและเข่ามีมาให้มากพอสำหรับคนช่วงเขายาว แม้จะไม่เท่า E-Class ก็ตาม เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุ 2 ประเภท ขึ้นอยู่กับว่าผู้ครอบครองเดิมนั้น เลือก Option แบบไหนมาใช้ ถ้าเป็นแบบ Classic เบาะนั่งจะหุ้มด้วยผ้าสักหลาดชั้นดี แต่ถ้าเป็นแบบ Elegance เบาะนั่งจะหุ้มด้วยหนังแท้เกรดดี ซึ่งหลาย ๆ คันยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่มาก แต่หลายคันก็อาจจะมีการหลุดล่อน หรือแตกลายงาของตัวหนังบ้างเช่นกัน จึงควรตรวจสอบในจุดนี้ด้วย เพราะค่าซ่อมเบาะหนังแท้นั้น ราคาไม่ถูกเหมือนเบาะที่หุ้มด้วยผ้าหรือหนังเทียมครับ      

ส่วนเรื่องการตกแต่งห้องโดยสาร จัดอยู่ในระดับหรูหราแบบกลาง ๆ เพราะความหรูหราแบบสุด ๆ ถูกนำไปใส่ไว้ในรุ่นที่เหนือกว่าอย่าง C200, C220 หรือ C280 ซึ่งถือเป็นตัวท็อปสุดของโฉมนี้ในช่วงเวลานั้น และก็มีราคาค่าตัวที่สูงกว่ามาก แต่ถึงอย่างไร  Mercedes-Benz C180 ก็ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ครบครัน อย่างเช่น ระบบปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แยกเป็นอิสระจากกันทั้งฝั่งซ้ายและขวา ใช้งานได้ง่ายและสะดวก กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อก พร้อมติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านคนขับมาให้ 1 จุด  

ด้านเครื่องยนต์ของ Mercedes-Benz C180 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ที่ค่อนข้างทันสมัยกว่าในตัว 190E เพราะเป็นเครื่องยนต์แบบ MULTI-VALVE และใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ เป็นแบบเบนซินบล็อก 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แบบ MPI ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 171 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ AUTO 4 สปีด เครื่องยนต์ของค่ายดาวสามแฉกนั้นเป็นเครื่องสไตล์ที่เน้นให้ใช้งานได้ทนทานปี และดูแลรักษาง่าย ซ่อมบำรุงไม่ยาก และอะไหล่มักใช้แทนกันได้หลายรุ่น จึงไม่มีปัญหาเรื่องอะไหล่หายาก      







สำหรับด้านสมรรถนะนั้น  Mercedes-Benz C180 เป็นรถซีดานหรู ที่ไม่เน้นความโดดเด่นเรื่องสมรรถนะมากมายนัก แต่ก็ขับได้แบบสบาย ๆ คล่องตัวทั้งในเมืองและเดินทางไกล หากสภาพตัวรถ ช่วงล่าง และเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์พอ ก็สามารถทำตีนปลายได้เกิน 165 กม./ชม. แต่หากเป็นรถในสภาพป้ายแดงนั้น สามารถทำความเร็วตีนปลายได้เกิน 190 กม./ชม. ทีเดียว เรื่องความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ใช้งานในเมืองเฉลี่ยที่ 7.8-8.5 กม./ลิตร เดินทางไกลอยู่ที่ 11.5-12.5 กม./ลิตร ในระดับความเร็ว 90-110 กม./ชม. 

ระบบรองรับช่วงล่างและเบรกของ Mercedes-Benz เกือบทุกรุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องเกาะถนนเป็นเยี่ยม นั่งโดยสารได้นุ่มนวล และทนทาน น้อง ๆ รถจากเมืองน้ำหอม ที่สำคัญไม่ด้อยไปกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง BMW 318i บอดี้ E36 ซึ่ง Mercedes-Benz C180 นั้นใช้ช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าใช้แบบปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง ช็อกแอบฯ และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้แบบมัลติลิงค์ คอยล์สปริง ช็อกแอบฯ และเหล็กกันโคลง เรื่องประสิทธิภาพของช่วงล่างโดยรวม วิ่งบนทางเรียบได้ดี จับโค้งแน่น สามารถลุยทางขรุขระมากได้เป็นครั้งคราวแต่ไม่ควรบ่อยนัก เพราะไม่อึดเท่าช่วงล่างของ  W201      

ในส่วนของระบบเบรกนั้น Mercedes-Benz C180 ใช้เบรกแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อตามสไตล์ของรถนั่งราคาแพง ล้อหน้าเป็นดิสก์แบบมีช่องระบายความร้อน ส่วนล้อหลังเป็นดิสก์ธรรมดา ติดตั้งระบบเบรก ABS มาให้ด้วย เรื่องประสิทธิภาพการเบรกอยู่ในขั้นมั่นใจได้ในทุกระดับความเร็ว ทั้งถนนแห้งและเปียก  

รายละเอียดทางเทคนิค Mercedes-Benz C180 W202
แบบรถ	ซีดาน 4 ประตู 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง
เครื่องยนต์	เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว
ปริมาตรความจุรวม	1799 ซี.ซี.
ความกว้างกระบอกสูบ	85.0 มม.
ความยาวช่วงชัก	79.0 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด	9.8:1
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง	หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์
กำลังสูงสุด	122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด	171 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง	ธรรมดา 5 สปีด/AUTO 4 สปีด
ระบบรองรับหน้า	อิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
หลัง	อิสระ มัลติลิงค์ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
ระบบเบรก	นิรภัย 2 วงจร ติดตั้งระบบ ABS
หน้า/หลัง	ดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน/ดิสก์เบรก
ระบบบังคับเลี้ยว	แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมระบบพาวเวอร์ผ่อนแรง
ขนาดยาง	195/65 R 15
มิติตัวรถ (ยาวxกว้างxสูง)	4,490x1,720x1,420 มม.
ถังน้ำมันบรรจุ	63 ลิตร