บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด Advanced Cool Stunner ที่มีดีไซน์โดดเด่นรอบคัน ให้ความรู้สึกพรีเมียมตั้งแต่ไฟหน้าจรดไฟท้าย ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวางเหนือระดับ เปี่ยมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์ CVT ใหม่ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้การตอบสนองได้ดั่งใจ ช่วยให้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รองรับพลังงานทางเลือก E85 ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและมาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับ ฮอนด้า ซิตี้ใหม่ จึงเป็นอีกขั้นแห่งความสำเร็จที่สะท้อนตัวตน...ที่ไม่หยุดแค่คำว่าที่สุด (Be Your B-E-S-T) โดยมีจำหน่ายทั้งสิ้น 6 รุ่น พร้อมสีให้เลือกถึง 7 สี ราคาเริ่มต้น 550,000 บาท
คลิปทดลองขับ Honda City 2017
www.auto-thailand.com/TestDrive/New-Honda-City-2017-Review-VDO.html
ดีไซน์หรูหรา สะดวกสบายเกินคลาส
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Sleek Crossmotion” ผสานแนวคิด “Man-Maximum Machine-Minimum” จึงเป็นการออกแบบที่รวมเอาด้านหน้าที่มีความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวและด้านข้างที่ทรงพลังเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยดีไซน์ด้านหน้าให้ความโดดเด่นใน 3 จุด คือ มุมด้านหน้าที่ลาดลง ดีไซน์กันชนออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ กระจังหน้าและไฟหน้าแบบ Solid Wing ที่ให้ความหรูหรา ล้ำสมัย และยังให้อารมณ์แบบสปอร์ต
ติดตามบททดสอบฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่นี่
https://www.auto-thailand.com/TestDrive/All-New-Honda-City-2014-Testdrive-VDO.html



การออกแบบด้านข้างเน้นการใช้เส้นสายด้านข้างที่ลึกและคมชัด ส่วนด้านหลังจะเน้นลายเส้นที่ต่อเนื่อง เชื่อมต่อไฟคู่ท้ายด้วยคิ้วฝากระโปรงเพิ่มความหรูหราและให้รถดูกว้างขึ้น ส่วนไฟท้ายแบบ Brilliant cut ให้ความหรูหรา โดดเด่นแม้ในขณะจอดนิ่งและเจิดจรัสในขณะวิ่งบนท้องถนน
นอกจากนี้ยังเพิ่มความสปอร์ตด้วยการติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว (เฉพาะรุ่น SV และ SV+) ดีไซน์สปอร์ต สะท้อนตัวตนที่แตกต่างในทุกการขับเคลื่อน นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถจุได้ถึง 536 ลิตร





การออกแบบภายในห้องโดยสาร
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Layered Floating Cockpit” ซึ่งแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยและมีความสปอร์ต โดยมีการเลือกใช้วัสดุที่เปี่ยมคุณภาพ ทั้งยังให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน การออกแบบคอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับคอนโซลกลางแบบ T Zone ให้ความเรียบหรูของซีดานระดับพรีเมียม พร้อมดีไซน์พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังให้กว้างสบายยิ่งขึ้น ขยายความกว้างของพื้นที่บริเวณหัวไหล่ขึ้นอีก 40 มิลลิเมตร พื้นที่วางขาผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 60 มิลลิเมตร เบาะนั่งด้านหลังยังได้รับการออกแบบองศาให้เอนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับสรีระ และยังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่วางสัมภาระได้อย่างเต็มที่ (เฉพาะรุ่น SV และ SV+) นอกจากนี้ยังเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยลำโพงถึง 8 ตำแหน่ง ให้ความสุนทรีย์ตลอดการเดินทาง

ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อน
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เปี่ยมด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที ผสานกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ขยายอัตราทดเกียร์ให้กว้างขึ้น พร้อมระบบ G-Design Shift ช่วยให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมอัตราเร่งที่ตอบสนองได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการใช้พลังงานทางเลือก E85 ได้อีกด้วย
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบ ECO Coaching ช่วยควบคุมเครื่องยนต์ให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ ลิ้นปีกผีเสื้อ และระบบเกียร์ ให้ทำงานสัมพันธ์กันในขณะรถวิ่ง นอกจากนี้ระบบจะปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ
ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมกับโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง และเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ ด้วยระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยให้การบังคับพวงมาลัยเมื่อต้องการเบรกกะทันหัน พร้อมระบบกระจายแรงเบรกควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) เพิ่มการยึดเกาะถนน ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และ ISOFIX & Child Anchor จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยของรถระดับพรีเมียม อาทิ ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags (เฉพาะรุ่น SV+) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา, 180 องศา และมุมมองจากด้านบน
เทคโนโลยีการควบคุมอัจฉริยะ
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ติดตั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อันทันสมัย แสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และยังรองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eye Free Mode (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application(เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น) และระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัสที่หรูหรา ใช้งานง่าย (เฉพาะรุ่น V+, SV และ SV+) มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (เฉพาะรุ่น V, V+, SV และ SV+) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น V, V+, SV และ SV+) พร้อมความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกับพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ที่ให้การควบคุมทุกสิ่งได้ดั่งใจเพียงปลายนิ้วสัมผัส เช่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย (เฉพาะรุ่น SV และ SV+)

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่น ได้แก่ รุ่น S MT ราคา 550,000 บาท, รุ่น S AT ราคา 589,000 บาท, รุ่น V ราคา649,000 บาท, รุ่น V+ ราคา 689,000 บาท , รุ่น SV ราคา 734,000 บาท และรุ่น SV+ (เพิ่มเติมอุปกรณ์ความปลอดภัยระดับพรีเมียม อาทิ ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง) ราคา 749,000 บาท โดยมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีแดงคาร์เนเลียน (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) สีน้ำตาลโกลเด้น (เมทัลลิก) โดยสีเมทัลลิกเพิ่ม 2,000 บาท และสีมุกเพิ่ม 8,000 บาท ส่วนภายในห้องโดยสาร รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีเบจ และรุ่น SV และ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำ
สนใจฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ สามารถเยี่ยมชมและทดลองขับหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ