ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย วางแผนต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมใหม่มากมาย นำทัพโดยรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i โฉมใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Sedan ใหม่, และรถยนต์มินิ Resolute Edition ที่มีให้เลือกถึงสามรุ่นย่อย รวมไปถึงมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R และ R 1250 GS ในตัวเลือกสีใหม่
ดีไซน์ที่สง่างามของบีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport ใหม่ ได้รับการถ่ายทอดผ่านปรัชญาการออกแบบที่ล้ำสมัยและเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมเสริมรูปลักษณ์สปอร์ตทรงพลังด้วยชุดแต่ง M Sport ขณะที่ระบบท่อไอเสียในสไตล์ M Sport มอบเสียงเครื่องยนต์กังวานสอดประสานกับพละกำลังและความสง่างามของตัวรถ และเติมบุคลิกความแรงอย่างลงตัวด้วยคาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport และพวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M
รูปลักษณ์ภาพนอกประกาศถึงความทรงพลังบนท้องถนนด้วยกระจังหน้า BMW Kidney ‘Iconic Glow’ และระบบไฟหน้า Adaptive LED ดีไซน์บนตัวถังขนาดใหญ่สะท้อนถึงความปราดเปรียวด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายเฉียบคม พื้นผิวตัวถังที่โดดเด่น และการออกแบบสไตล์สปอร์ต เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบา BMW Individual ขนาด 23 นิ้ว ลาย V-spoke แบบสลับสี
บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport ใหม่ มอบความล้ำสมัยและความปลอดภัยยิ่งกว่าด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Professional ระบบช่วยการขับขี่่ รุ่น Professional และระบบความบันเทิงและสื่อสารรุ่นล่าสุดอย่าง BMW Live Cockpit Professional พร้อมจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ BMW ConnectedDrive และระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งสามารถควบคุมผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงได้อย่างง่ายดาย มอบความสะดวกสบายตามความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง นอกจากนั้น ระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond ยังช่วยมอบสุนทรียศาสตร์แห่งเสียงคุณภาพระดับสตูดิโออีกด้วย
อุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบเตือนสถานะของยาง เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง หรือ Park Distance Control (PDC) ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) นอกจากนี้ยังมีระบบ Anti-lock Braking System (ABS) ป้องกันไม่ให้ล้อล็อกหรือหยุดหมุนขณะเบรก และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ช่วยให้รถสามารถยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดีในทุกสภาวะการขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport ใหม่ มาให้เลือกในสามสี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire Metallic, สีขาว Mineral White Metallic, และสีเทา Brooklyn Grey Metallic พร้อมตัวเลือกสีห้องโดยสารภายในแบบ Tartufo/Black (สีน้ำตาล/ดำ) และ Black/Black (สีดำ/ดำ)
บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 6,999,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยูพร้อมกำหนดนิยามใหม่ของรถยนต์ในเซกเมนต์พรีเมียม ด้วยมาตรฐานใหม่ของการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ความยั่งยืน และระบบดิจิทัล รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริดสุดหรู สร้างอีกย่างก้าวสำคัญของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 อันเลื่องชื่อ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นซึ่งถูกสร้างสรรค์มาเพื่อมอบที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่ ความสะดวกสบายของการขับขี่ทางไกล และประสบการณ์ดิจิทัลที่ล้ำสมัย
บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบปรับองศาเมื่อเข้าโค้ง ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน กระจังหน้าและชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ 'Iconic Glow' หรูหรา มอบเอฟเฟกต์ไฟระยิบระยับสวยงาม ด้านบนเป็นไฟรูปตัว 'L' ในรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก เสริมให้ไฟท้ายดูโดดเด่นยิ่งขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว แบบสลับสี ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดําเงาและสปอยเลอร์หลังดีไซน์ M พร้อมชุดตกแต่ง M Sport ตอกย้ำถึงคุณภาพระดับพรีเมียม ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดประตูรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องสัมผัสกุญแจ นอกจากนี้ ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตูยังช่วยให้สามารถปิดประตูได้โดยอัตโนมัติอย่างนุ่มนวลและเงียบเชียบ
รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับหลากหลายระบบความบันเทิงทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น BMW ConnectedDrive ระบบเครื่องเสียงแบบสเตอริโอ จอแสดงผลแบบโค้งความชัดสูง และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i โฉมใหม่ มีให้เลือกใน 3 สีตัวถัง ได้แก่ สีขาว Alpine White Solid, สีดำ Black Sapphire Metallic และสีเงิน Space Silver Metallic พร้อมการตกแต่งภายในบุด้วยหนังเบาะที่นั่งแบบ Sensatec Perforated สีน้ำตาลเข้ม Mocha
บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,099,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 2,759,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 หนึ่งในรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในทัพยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู สร้างความตื่นตาตื่นใจอีกครั้งด้วย บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Sedan รุ่นฐานล้อยาว บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ ยังคงลุคสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะที่เฉียบคมไว้เช่นเคย แต่เสริมความโอ่อ่าสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นปกติถึง 114 มิลลิเมตร โดยตัวถังของบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นฐานล้อยาวนี้มีมิติความยาวรวม 4,823 มิลลิเมตร ความกว้างยังคงเดิมที่ 1,827 มิลลิเมตร ขณะที่ความสูงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1,441 มิลลิเมตร ความยาว 110 มิลลิเมตรที่เพิ่มขึ้นบริเวณประตูหลัง ช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลังเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังสบายกว่าขณะเดินทางด้วยพื้นที่ห้องโดยสารแถวหลังที่ยาวขึ้นอีก 43 มิลลิเมตร
ดีไซน์ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ ยังคงสื่อถึงความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม หรือ “Ultimate Driving Machine” ด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะที่ปราดเปรียว ประสิทธิภาพการขับขี่เหนือระดับ รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ล้ำยุค ซึ่งรวมเป็นเอกลักษณ์แก่นแท้ของบีเอ็มดับเบิลยู และยังมาพร้อมองค์ประกอบเฉพาะตัวที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว รับกับระบบไฟหน้าที่เรียวยาวขึ้น โดยบีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบไฟหน้าแบบ LED ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ใหม่ มากับระบบไฟหน้าแบบ Adaptive LED พร้อมโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำ (M Light Shadowline) ด้านข้างของตัวรถโดดเด่นด้วยกรอบหน้าต่างดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูที่ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar มอบมิติไร้ขอบหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมด้วยกรอบไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่เพรียวบางยิ่งกว่าเคย นอกจากนี้ ไฟ LED ทรงตัว L และท่อไอเสียแบบคู่ ล้วนเสริมให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ตกว่าเดิม
โดยทั้งสองรุ่นทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ และรองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด COMFORT, SPORT และ ECO PRO นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ มาพร้อม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย V-spoke แบบสลับสี สอดรับกับขอบหน้าต่าง ช่องดักอากาศ และซี่บริเวณกระจังหน้าไตคู่สีดำเงา ภายในโฉบเฉี่ยวด้วยพวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec และตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบอลูมิเนียม พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยหลังคาภายในดีไซน์ M สี Anthracite ในบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ใหม่ และวัสดุลายไม้แบบ Fine-wood Trim Oak Grain Open-pored สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยนำเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง และระบบ BMW Head-up display พร้อมระบบการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบผ่านระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.0 ซึ่งเสริมประสิทธิภาพให้แก่ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant และ Live Cockpit Professional นอกจากนี้ ยังมีระบบเครื่องเสียง HiFi Loudspeaker ติดตั้งภายในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ ส่วนระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ในบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ใหม่ ด้วยเช่นกัน ด้าน BMW ConnectedDrive ยังมอบทางเลือกมากมายในการเชื่อมต่อและควบคุมระบบในตัวรถ รวมถึงการใช้ BMW Gesture Control ระบบสั่งงานด้วยเสียง ปุ่ม iDrive และจอแสดงผล Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 320Li M Sport ใหม่ มาให้เลือกใน 3 สีตัวถังคือ สีดำ Carbon Black Metallic, สีขาว Mineral White Metallic, และสีเทา Skyscraper Grey Metallic
บีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ (สี Blackstorm metallic / M Motorsport)
ราคาจำหน่าย: 1,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R มอเตอร์ไซค์รุ่นล่าสุดจากตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู M สืบทอดอัตลักษณ์ที่โดดเด่นจากบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง บีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดโดยคำนึงถึงความต้องการเฉพาะของผู้ที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์สปอร์ตโรดสเตอร์เป็นหลัก และยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการผลักดันสิ่งที่เป็นไปได้ในการออกแบบมอเตอร์ไซค์ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งของที่สุดแห่งสปอร์ตโรดสเตอร์
ระบบกันสะเทือนล้อหน้าเป็นโช้คหัวกลับ ขนาด 45 มม. พร้อมปรับตั้งค่า Dynamic Damping Control (DDC) และ Preload ในขณะที่ระบบกันสะเทือนล้อหลังเป็นสวิงอาร์มคู่อลูมิเนียม พร้อมปรับตั้งค่า Dynamic Damping Control (DDC) โดยมีระยะยุบตัวโช้คหน้า 120 มิลลิเมตร และระยะยุบตัวโช้คหลัง 117 มิลลิเมตร ระบบเบรกของบีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า และดิสก์เบรคเดี่ยวคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยวที่ล้อหลัง
หัวใจสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ คือชุดแต่ง M Competition ด้วยคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยกระดับสมรรถนะตัวรถให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งรวมถึงชุดสี Blackstorm metallic / M Motorsport ที่นั่ง M สปอร์ต ล้อ M คาร์บอนไฟเบอร์ ที่พักเท้าแบบ M และชิ้นส่วน M คาร์บอนไฟเบอร์ต่าง ๆ บริเวณฝาครอบล้อหลัง การ์ดโซ่ ฝาครอบล้อหน้า ฝาครอบถังน้ำมัน ฝาครอบแอร์บ็อกซ์ และแผ่นเบนทางลม ระบบเบรก M ในบีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ ได้รับการพัฒนาจากประสบการณ์ที่ได้จากระบบเบรกของรถแข่งบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในการแข่งขัน Superbike World Championship ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นที่สองที่ติดตั้งเทคโนโลยีนี้
บีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Pro และระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้เกือบทุกช่วงน้ำหนักบรรทุกและช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์โดยไม่ต้องควบคุมคลัตช์ ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (RDC) ไฟหน้าปรับองศาตามการเข้าโค้งแบบ LED สปอยเลอร์เครื่องยนต์ และระบบทำความร้อนที่แฮนด์ยังติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่และระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ ฟังก์ชัน Brake Slide Assist ในบีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R ใหม่ ยังเป็นนวัตกรรมที่สำคัญและมีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่ในสนามแข่งซึ่งช่วยให้เบรกดริฟต์เข้ามุมด้วยการไถลได้อย่างต่อเนื่อง