“YOKOHAMA” ปลื้มกลยุทธ์ Sport Market ตอบโจทย์ตรงจุด ตอกย้ำและสะท้อนความเป็นยางสมรรถนะสูง High Performance จากสนามแข่งสู่ท้องถนน กระตุ้นการรับรู้ผู้บริโภคและช่วยเพิ่มยอดขายปี 2555 ได้ตามเป้าที่ 320,000 เส้น ประกาศสานต่อความสำเร็จ หนุนทีมแข่ง-นักขับ รถยนต์ทางเรียบระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าขายปี 2556 เติบโตเพิ่มขึ้นจากเดิม 15% ที่จำนวน 370,000 เส้น พร้อมเร่งเปิดศูนย์บริการยางต้นแบบ Yokohama Club Network (YCN ) ให้ครบ 11 แห่ง และขยายดีลเลอร์จาก 260 แห่งเป็น 300 แห่ง มั่นใจตลาดยางรถยนต์เมืองไทยจากนี้ 2 ปี แข่งเดือด! โดยค่ายผู้ผลิตยุโรป-อเมริกาหนีวิกฤตหันมาทุ่มสู้ตลาดเอเชียและไทยหลายราย คาดปี 2556 ตลาดรวมยางรถยนต์แบรนด์ต่างๆ ในประเทศไทยจะมียอดขายรวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านเส้น แบ่งเป็นยางรถเก๋ง-รถปิกอัพ 8 ล้านเส้น ที่เหลือเป็นยางรถบรรทุก
มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา (Mr.Yutaka Furukawa) กรรมการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงความสำเร็จในการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Super Car Thailand Bangsaen Festival ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2012 ที่จัดการแข่งขันไปเมื่อวันที่ 19-23 ธันวาคมที่ผ่านมา สามารถตอกย้ำการรับรู้แบรนด์ “YOKOHAMA” ว่า เป็นยางรถยนต์ High Performance ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพสูง สะท้อนถึงปรัชญาบริษัทและความโดดเด่นของยางรถยนต์ YOKOHAMA จากสนามแข่งสู่ท้องถนน โดยมีทีมแข่งชื่อดังและนักขับรถฝีมือระดับพระกาฬของเมืองไทย อาทิ โตโยต้า อาร์โต้, ทีมโยโกฮามา เดอะพิซซ่า เรซซิ่งทีม, ทีมเอ มอเตอร์, คุณสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ทีมเดอะ ไทด์ รีสอร์ท และคุณพีท ทองเจือ พีทีที เพอร์ฟอร์มา เรซซิ่งทีม และเรซซิง เว็บทีม โดยส่งยางรุ่น A005 และ A006 ยางสลิคที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ให้การบังคับควบคุมที่ดีในสนามแข่ง
นอกจากนี้ยางรถยนต์โยโกฮามายังสนับสนุนกีฬาการขับรถประเภทดริฟท์ โดยส่งยางรุ่น ADVAN NEOVA AD08 (แอดแวน นีโอวา เอดี08) ให้ทีม Yokohama Overdrive นำโดย แชมป์ดริฟท์ คุณสรานนท์ ฉายา Drift God เมืองไทย และสนับสนุนยางรถยนต์ในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการต่างๆ ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา อาทิ โปร.เรซซิ่ง ซีรี่ส์ โดยใช้ยางโยโกฮามา แอดแวน นีโอวา เอดี08 (Advan Neova AD08) และไทยแลนด์ ครอสคันทรี ซึ่งใช้ยางจีโอแลนด้า เอ็มที (Geolandar M/T) โดยยางทุกรุ่นที่กล่าวมาล้วนแต่มีวางจำหน่ายในร้านตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ YOKOHAMA ทั่วประเทศ
“เราให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ Sport Marketing มากเป็นพิเศษ จึงทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และปี 2556 ยังเน้นกลยุทธ์นี้ให้กับนักขับ-ทีมแข่งและรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับประเทศต่อไป ด้วยงบประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพราะสามารถตอกย้ำและสะท้อนจุดเด่นผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ช่วยให้ยางรถยนต์ YOKOHAMA ประสบความสำเร็จในตลาดยางรถยนต์เมืองไทยได้รวดเร็ว”
สำหรับภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยไตรมาสสุดท้ายปี 2555 ซึ่งเป็นช่วง High seasons นั้น มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวว่า มีการแข่งขันสูง โดยค่ายยางรถยนต์ทุกแบรนด์ต่างใช้กลยุทธ์ราคามาเป็นเครื่องมือแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดอย่างดุเดือด ทั้งจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและลดราคายางลงจากปกติ ขณะที่ YOKOHAMA ไม่สามารถลดราคาผลิตภัณฑ์ลงมาแข่งขันได้ โดยพยายามรักษาจุดแข็งพร้อมทั้งสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ความเป็นยางสมรรถนะสูงที่ให้ความคุ้มค่าและคุ้มราคากว่า รวมทั้งใช้กลยุทธ์รักษาความสัมพันธ์กับร้านค้าผู้แทนจำหน่าย และจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เช่น ซื้อยาง 4 เส้นรับเสื้อพรีเมียมที่จัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ ทำให้ผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากนี้มาได้ โดยจบปี 2555 ทำยอดขายบรรลุเป้าที่ตั้งไว้ที่ 320,000 เส้นต่อปี ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากยางรุ่นใหม่ “จีโอแลนด้า เอสยูวี”(Geolandar SUV) ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์การตลาดต่างๆ อย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ขณะที่ตลาดรวมยางรถยนต์แบรนด์ต่างๆ ในเมืองไทยปี 2555 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป จะมียอดขายรวมกว่า 9 ล้านเส้น
“ปี 2556 YOKOHAMA เป้าขายไว้ที่ 370,000 เส้น หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ 15% โดยมีปัจจัยมาจากยางรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวช่วงไตรมาสสองปี 2556 คือยางรุ่น V105 ADVAN SPORT (แอดแวนสปอร์ต) ยางพรีเมียมที่เหมาะกับรถสปอร์ตสมรรถนะสูง เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส เอเอ็มจี, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 เป็นต้น นอกจากนี้จะมีเปิดตัวยางรุ่น AE01 ที่เหมาะกับซัพคอมแพ็คคาร์และอีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เช่น ฮอนด้า ซิตี้, ฮอนด้า แจ๊ส, ฮอนด้า บริโอ้, ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ, มิตซูบิชิ มิราจ, นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า เป็นต้น ส่วนภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยปี 2556 น่าจะมียอดขายรวมทั้งตลาดไม่น้อยกว่า 10 ล้านเส้น แบ่งเป็นยางรถยนต์นั่งและรถปิกอัพจำนวน 8 ล้านเส้น ที่เหลือเป็นยางรถบรรทุกขนาดใหญ่”
จากวิกฤติการเงินและเศรษฐกิจถดถอยในยุโรปและสหรัฐอเมริกา หากดูผิวเผินอาจไม่ส่งผลกระทบต่อ YOKOHAMA แต่มีสิ่งที่น่ากังวลใจคือ วิกฤติของสองภูมิภาคนี้ส่งผลให้ค่ายผู้ผลิตยางรถยนต์หลายแบรนด์ที่เป็นคู่แข่ง มีแผนจะเข้ามาทำตลาดในภูมิภาคเอเชียและอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคู่แข่งต่างๆ ทำให้การแข่งขันตลาดยางรถยนต์เมืองไทยจากนี้ไปจะทวีความรุนแรง เนื่องจากมีผู้เล่นมากขึ้น
“ปี 2557 จะมีสิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่า เพราะผลพวงมาจากการเติบโตตลาดรถยนต์เมืองไทยปี 2555 ที่มียอดจำหน่ายรถยนต์สูงกว่า 1.2-1.3 ล้านคัน คาดว่าปี 2557 ตลาดยางรถยนต์เมืองไทยจะมีปริมาณขายสูงกว่า 1.2 ล้านเส้น ขณะที่การเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ (AEC) จะส่งผลให้ตลาดยางรถยนต์เมืองไทยแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้เล่นหลายรายจะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด โดย YOKOHAMA เฝ้าติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาทางรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น”
ส่วนนโยบายการตลาดปี 2556 จะเร่งเปิดศูนย์ YOKOHAMA Club Network (YCN) ให้ครบ 11 แห่งทั่วทุกภูมิภาคของไทย รวมทั้งการขยายเครือข่ายร้านค้าผู้แทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 40 แห่งจากที่มีอยู่แล้ว 260 แห่ง ภายใต้แนวคิด “Quality Over Quantity” หรือเน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์และการให้การบริการมากกว่าปริมาณการขาย และเพิ่มจำนวนร้านผู้แทนจำหน่าย
มร.ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวในท้ายสุดว่า YOKOHAMA มีแผนรุกตลาด OEM อย่างจริงจัง โดยเฉพาะกับสองค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยอดนิยมเมืองไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของ YOKOHAMA ที่เตรียมจะแนะนำรถยนต์กลุ่มซัพคอมแพ็คคาร์และอีโคคาร์ช่วงกลางปี 2556 คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มในตลาด OEM อีกกว่า 50,000 เส้นเมื่อนับรวมกับยอดขายอีกราว 370,000 เส้นที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้ YOKOHAMA มียอดขายรวมทั้งหมดกว่า 420,000 เส้นในปี 2556