กรมศุลกากรจับมือสหการประมูลร่วมขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางประจำปีงบประมาณ 2556-2557 เริ่มประมูลครั้งแรก 17 กรกฎาคม เผยมีรถหรูเช่น แลมโบกินี่ เฟอร์รารี่ เบนท์ลีย์ ปอร์ช และยี่ห้ออื่น ๆ ขายราคาถูกกว่า 300 คันย้ำเป็นการซื้อรถยึดที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และเป็นครั้งแรกในโลกที่เปิดโอกาสให้ประมูลผ่านสมาร์ทโฟน
นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีกรมศุลกากรเปิดเผยถึงการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางประจำปีงบประมาณ 2556-2557 ว่า ที่ผ่านมาทางกรมศุลกากรได้ประมูลขายรถยนต์ที่ยึดมาทุกปี เพราะถ้าเก็บไว้ราคาจะลดลงตามสภาพ โดยการประมูลขายในช่วง 2 ปีจากนี้ไป คณะกรรมการได้พิจารณาเลือกบริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ด้านการประมูลมากว่า 20 ปี ที่สำคัญเป็นบริษัทเอกชนที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือต่อสาธารณะชน โดยคาดหวังว่าจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของสหการประมูลจะทำให้การขายรถยนต์ของกลางในครั้งนี้ได้มูลค่าเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับระเบียบของทางราชการ รวมทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้กับภาครัฐและดึงดูดให้ประชาชนเข้ามาประมูลซื้อรถของกลางที่ถูกยึดในครั้งนี้ สหการประมูลได้ลดค่าดำเนินการต่าง ๆ ลงกว่า 50% จึงคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์หรูเป็นอย่างดี ทั้งนี้การประมูลครั้งแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 ณ ลานประมูลกรมศุลกากร โดยจะมีรถยนต์ของกลางมากกว่า 300 คัน และส่วนใหญ่เป็นรถยนต์หรูคุณภาพดี เช่น รถแลมโบกินี่ เฟอร์รารี่ เบนท์ลีย์ และรถปอร์ชจำนวนมาก สำหรับราคารถยนต์นั้นตั้งไว้ถูกและคาดว่าราคาขายจะเป็นไปตามราคาตลาด
“อยากจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า การซื้อรถยนต์จากการประมูลกับกรมศุลากรในครั้งนี้เป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผู้ซื้อจะได้รับสิทธิคุ้มครองตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดย หลังจากประมูลซื้อไปแล้วทางราชการจะไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่ลิดรอนสิทธิจากผู้ซื้อได้ ทั้งนี้ ที่มาของรถยนต์ที่ยึดมานั้นได้อาศัยช่องว่างของกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงและลักลอบเข้ามาทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี โดยกรมศุลกากรพยายามแก้ไขและกวาดล้างหากตรวจพบว่ารถคันไหนนำเข้ามาไม่ถูกต้องตามระเบียบราชการก็จับกุมทันที และไม่ต้องการให้ประชาชนหลงผิดไปซื้อรถที่ผ่านกระบวนการผิดกฎหมายเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม รถยนต์ส่วนหนึ่งเข้ามาทางแนวชายแดนเพราะเราต้องอำนวยความสะดวกเรื่องการท่องเที่ยว ทำให้ผู้ที่ตั้งใจจะลักลอบนำเข้าอาศัยช่องว่างนี้ แต่หากพบความผิดปกติทางเจ้าหน้าที่ก็ติดตามจับแต่มีจำนวนน้อยเพียง 0.001% หรือประมาณ 10 คันในจำนวนรถที่เข้ามาท่องเที่ยวปีละหลายล้านคัน” นายราฆพกล่าว
นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สหการประมูล จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติมากที่สหการประมูลมีโอกาสได้เข้ามาทำงานให้กับกรมศุลกากร และการเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการประมูลขายทอดตลาดรถยึดในครั้งนี้ เพราะเป็นบริษัทคนไทยอันดับหนึ่งของธุรกิจการประมูลในประเทศไทย และเป็นบริษัทมหาชนที่ทำธุรกิจประมูลรถยนต์รายเดียวในอาเซียนโดยเรายึดมั่นในความโปร่งใส่ เนื่องจากใช้องค์กรภายนอกตรวจสอบคุณภาพของรถยนต์ทุกคันก่อนเข้าประมูล ดังนั้น ทุกขั้นตอนของการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางในครั้งนี้ รวมทั้งการประมูลให้กับองค์กรอื่น ๆ เป็นการทำด้วยความโปร่งใส่ โดยไม่ได้คาดหวังเรื่องผลกำไรแต่เน้นความสำคัญในเรื่องความเป็นกลาง โปร่งใส และชื่อเสียงของกรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่สร้างรายได้ให้กับภาครัฐบาล
สำหรับการประมูลขายทอตลาดรถยนต์ของกลางให้กับกรมศุลกากรในปีนี้น่าจะทำได้เพียงครั้งเดียว เนื่องจากใกล้จะสิ้นปีงบประมาณ แต่สหการประมูลยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการประมูลในปี 2557 ซึ่งคาดว่าจะมีความถี่มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม การประมูลในวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 นี้สหการประมูลนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นการประมูลแบบเปิดที่กรมศุลกากรแล้ว ยังมีบริการประมูลออนไลน์ หรือ e-Auction ที่มีทั้งภาพและเสียงจริง ทำให้ผู้ที่สนใจสามารถร่วมประมูลผ่านระบบดังกล่าวในเว็บไซต์ของสหการประมูล และยังสามารถประมูลผ่านสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย โดยการโหลดแอ๊พพลิเคชั่นเพิ่งพัฒนาระบบเสร็จและนำมาใช้เป็นครั้งแรกในโลก แต่ต้องลงทะเบียนตามระบบกับกรมศุลกากรและสหการประมูลเท่านั้นท่านก็สามารถประมูลซื้อรถยนต์ผ่านมือถือได้เช่นเดียวกัน จึงทำให้การปะมูลในครั้งนี้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับเงื่อนไขการประมูลกับกรมศุลกากรนั้น ประชาชนและผู้ที่สนใจจะต้องลงทะเบียนและวางหลักประกันจำนวน 5 หมื่นบาท จึงจะได้ป้ายเพื่อมีสิทธิเข้าร่วมประมูล ส่วนประมูลผ่านระบบออนไลน์ก็จะมีเงื่อนไขคล้าย ๆ กัน คือผู้ซื้อจะต้องลงทะเบียนก่อนเช่นกันสำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2934-7344