มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ ครึ่งแรกของปี 2560 พร้อมปรับประมาณการตลาดรถยนต์ไทยปี 2560 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ   

มร.ซึงาตะ กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณภาครัฐที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย จนทำให้ตลาดรถยนต์ในครึ่งปีแรกเริ่มฟื้นตัวและเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว โดยตลาดรถยนต์ในครึ่งปีแรกของปี พ.ศ.2560 มียอดขายรวมอยู่ที่ 409,980 คัน เพิ่มขึ้น 11.2%” 
สถิติการขายรถยนต์ ครึ่งแรกของปี 2560
    
        
            |   |  ปริมาณการขาย (คัน) | เปลี่ยนแปลง    เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของ 2559 | 
        
            |        ปริมาณการขายรวม | 409,980 คัน | +11.2% | 
        
            |        รถยนต์นั่ง | 161,483 คัน | +25.0% | 
        
            |        รถเพื่อการพาณิชย์ | 248,497คัน | +3.8% | 
        
            |        รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 201,019 คัน | +4.4% | 
        
            |        รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 172,482 คัน | +7.5% | 
    
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ครึ่งแรกของปี 2560
โดยโตโยต้ามียอดขาย 112,488 คัน เพิ่มขึ้น 3.1% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 45,167 คัน เพิ่มขึ้น 26.5% รถเพื่อการพาณิชย์ 67,321 คัน ลดลง 8.3% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 63,105 คัน ลดลง 9.4% 
     ปริมาณการขายโตโยต้า              112,488 คัน     เพิ่มขึ้น     3.1%  ส่วนแบ่งตลาด 27.4%
     รถยนต์นั่ง                                    45,167 คัน     เพิ่มขึ้น   26.5%  ส่วนแบ่งตลาด 28.0%
     รถเพื่อการพาณิชย์                     67,321 คัน     ลดลง      8.3 %  ส่วนแบ่งตลาด 27.1%
     รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)     63,105 คัน     ลดลง      9.4 %  ส่วนแบ่งตลาด 31.4%
      รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)   52,167 คัน      ลดลง      4.9%  ส่วนแบ่งตลาด 30.2%

สำหรับการส่งออกในครึ่งปีแรก โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 135,332 คัน ลดลง 19% จากปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 72,750 ล้านบาท และมีการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 33,823 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่ 106,573 ล้านบาท” 
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2560 มร.ซึงาตะ คาดการณ์ว่า “สำหรับตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง มีปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งการเติบโตของ GDP มาตรการกระตุ้นการลงทุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐเพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้น รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายจากค่ายรถยนต์ ทำให้เรามองว่าตลาดรถยนต์ในประเทศจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์รวมในครึ่งปีแรกเติบโตมากกว่าที่คาดไว้อยู่ที่ 11.2% ทำให้เราคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศ ปี พ.ศ.2560 จะอยู่ในระดับ 830,000คัน เพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว”
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2560
     ปริมาณการขายรวม                                         830,000 คัน                 เพิ่มขึ้น    8.0%
     รถยนต์นั่ง                                                        339,000 คัน                 เพิ่มขึ้น  21.1%
     รถเพื่อการพาณิชย์                                           491,000 คัน                 เพิ่มขึ้น    0.4%
     รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)            394,000 คัน                 คงที่         0.0%
      รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)       336,000 คัน                 เพิ่มขึ้น    0.8
มร.ซึงาตะ กล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม ยอดขายโตโยต้าในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 3% นั้น ยังถือว่าต่ำกว่าอัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์รวม ทั้งนี้มีปัจจัยหลักมาจากการที่ค่ายรถยนต์อื่นๆ ต่างทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายรุ่นเข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีแรก แต่เรายังคงยืนยันที่จะยึดเป้าหมายการขายสำหรับตลาดในประเทศในปีนี้ไว้ที่ 265,000คัน เพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว โดยโตโยต้าจะแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้สามารถรองรับกับตลาดที่เติบโตขึ้น” 
“ในส่วนของเป้าหมายการส่งออกนั้น เราคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกของโตโยต้าจะอยู่ที่ 291,000 คัน ลดลง 9% จากปีที่แล้ว โดยเป็นผลกระทบจากตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงตลาดในกลุ่มประเทศอเมริกากลาง และอเมริกาใต้” 
ประมาณยอดขายรถยนต์ในประเทศของโตโยต้า ปี 2560
     ปริมาณการขายรวม                                         265,000 คัน                 ส่วนแบ่งตลาด 31.9%
     รถยนต์นั่ง                                                        110,000 คัน                 ส่วนแบ่งตลาด 32.4%
     รถเพื่อการพาณิชย์                                           155,000 คัน                 ส่วนแบ่งตลาด 31.6%
     รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)             147,000 คัน                 ส่วนแบ่งตลาด 37.3%
      รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)          122,000 คัน                 ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
มร.ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โตโยต้าขอแสดงความขอบคุณจากใจจริงต่อรัฐบาลไทย สำหรับการให้ความสนับสนุนต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเป็นอย่างดี และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาล เรายังคงมุ่งมั่นในการมีส่วนช่วยส่งเสริมและตอบสนองต่อนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านแผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งโตโยต้ายังคงมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถของวิศกรไทยในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านพันธกิจของบริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) ในแผนการดำเนินการและสนับสนุนการพัฒนารถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็กในตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง พร้อมทั้งขยายโครงการความร่วมมือด้านการถ่ายทอดความรู้แก่ภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย นอกจากนี้ เราขอยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความสุขให้กับสังคมไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”
“และปีนี้ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 55 ของโตโยต้าที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เรามีความภูมิใจและขอยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนไทย ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าที่ว่า “เราจะเติบโตคู่ไปกับสังคม” ดังนั้นโตโยต้าจึงมุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลายรอบตัวเรา โดยผสมผสานการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยียานยนต์ระดับสูง ให้สอดคล้องกับแนวโน้มแห่งอนาคตเพื่อเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี ผมจึงอยากขอเชิญชวนทุกท่านไปพบกับงาน “Toyota Expo” ที่เรากำลังจะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 3 – 13 สิงหาคม นี้ และจะมีการขยายการจัดงานสู่ต่างจังหวัดต่อไป ซึ่งภายในงานนี้ทุกท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งความสุขจากโตโยต้า ที่เรามีความมุ่งมั่นที่จะมอบให้แก่ลูกค้าทุกคน” มร.ซึงาตะกล่าวในที่สุด        
ประมาณการปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2560
1.)	ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 69,798คัน เพิ่มขึ้น 5.7%                               
อันดับที่ 1 โตโยต้า	17,959 คัน	ลดลง       15.9%	ส่วนแบ่งตลาด 25.7%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 	12,878 คัน	เพิ่มขึ้น     28.7%	ส่วนแบ่งตลาด 18.5%
อันดับที่ 3 อีซูซุ		11,139 คัน	ลดลง	     0.3%	ส่วนแบ่งตลาด 16.0%
2.)	ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 29,424 คัน เพิ่มขึ้น 15.6%                                 
อันดับที่ 1 ฮอนด้า		9,021 คัน	เพิ่มขึ้น    21.3%	ส่วนแบ่งตลาด 30.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า	7,464 คัน	ลดลง      4.9%		ส่วนแบ่งตลาด 25.4%
อันดับที่ 3 นิสสัน		2,973 คัน	เพิ่มขึ้น   78.5%		ส่วนแบ่งตลาด 10.1%
3.)	ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 31,044 คัน ลดลง 3.2%
อันดับที่ 1 อีซูซุ		 10,030 คัน	เพิ่มขึ้น     0.3%		ส่วนแบ่งตลาด 32.3% 
อันดับที่ 2 โตโยต้า	  9,812 คัน	ลดลง     23.6%		ส่วนแบ่งตลาด 31.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด	  	4,132 คัน	เพิ่มขึ้น   24.9%		ส่วนแบ่งตลาด 13.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 4,837 คัน
โตโยต้า 1,748 คัน – มิตซูบิชิ 1,157 คัน – อีซูซุ 1,078 คัน – ฟอร์ด 744 คัน –  เชฟโรเลต 110 คัน
 
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 26,207 คัน ลดลง 3.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ		   8,952 คัน	ลดลง       2.2%	ส่วนแบ่งตลาด 34.2% 
อันดับที่ 2 โตโยต้า	   8,064 คัน 	ลดลง     24.1%		ส่วนแบ่งตลาด 30.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด	   	3,388 คัน	เพิ่มขึ้น   41.0%		ส่วนแบ่งตลาด 12.9%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 40,374 คัน ลดลง 0.5%                  
อันดับที่ 1 อีซูซุ		11,139 คัน	ลดลง      0.3%		ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า	10,495 คัน	ลดลง    22.3%		ส่วนแบ่งตลาด 26.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด	 	4,442 คัน	เพิ่มขึ้น  24.3%		ส่วนแบ่งตลาด 11.0%