แม้ว่า Concept ปีนี้ จะเน้นไปที่รถยนต์ประหยัดพลังงาน แต่งาน MOTOR EXPO ก็ยังมีกองทัพฝูงม้าพยศมาให้ได้ชม และเลือกซื้อกันเหมือนเช่นเคย ซึ่งเราได้ทำการรวมบรรดารถ Super Car ตัวแรงพร้อมรายละเอียดคร่าวๆ มาให้ได้ชมกัน พร้อมอัลบัมภาพรวม มาดูกันเลยว่าปีนี้มีอะไรบ้าง
Lamborghini Aventador LP700-4

เราเริ่มกันที่รถที่แรงที่สุด และแพงที่สุดจากค่ายกระทิงดุ คือ Lamborghini Aventador LP700-4 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตขับเคลื่อน 4 ล้อ รูปทรงภายนอกดูเฉียบคม น่าเกรมขามสุดๆ หน้าตาที่ดุดันสะท้อนสมรรถนะสุดโหด เพราะรถคันนี้ติดตั้งขุมพลัง V12 สูบ ขนาด 6.5 ลิตรแบบวางกลางลำ ให้พละกำลังมหาศาลถึง 700 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 690 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ถูกเคลมไว้ที่ 3 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 350 กม./ชม. !! โครงสร้างตัวถังส่วนใหญ่ เป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และอลูมิเนียม พร้อมสปอยเลอร์หลังยกขึ้นอัตโนมัติเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง ราคาตัวรถ ไม่รวม Option เสริม อยู่ที่ 36.5 ล้านบาทเท่านั้น
Lamborghini Huracan LP610-4 Spyder

กระทิงดุรุ่นน้อง แต่แรงไม่แพ้รุ่นพี่ เปิดตัวเวอร์ชั่นเปิดประทุนเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน MOTOREXPO 2015 งานออกแบบภายนอก ยังคงใช้เส้นสายที่เฉียบคม ดุดัน การเลือกใช้โทนสี ทั้งภายนอกและภายใน จะดู Soft ลงจากรุ่น Coupe เพื่อให้ดูหรูหรา เหมาะกับรถเปิดประทุนขึ้นมาอีกนิด เครื่องยนต์และเกียร์ ยังคงใช้แบบเดียวกับ Huracan LP610-4 คือเครื่องยนต์ V10 สูบ 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ ภายในเวลา 3.4 วินาที ช้ากว่ารุ่นพี่ของมันอยู่เพียงเสี้ยววินาที ความเร็วสูงสุด 324 กม./ชม. ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 26.8 ล้านบาท
Lamborghini Huracan LP580-2

Huracan รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ รถ Entry Level ของค่ายกระทิงดุ ที่เปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกที่นี่เช่นกัน ถ้าคุณคิดจะซื้อรุ่นนี้ แสดงว่า Lamborghini รุ่นอื่นๆ อาจจะดูแพงไปนิด หรือไม่ก็คุณเป็นคนที่มีฝีมือในการควบคุมรถที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว รูปลักษณ์ภายนอก ดูเผินๆ แทบไม่มีอะไรต่างจาก Huracan LP610-4 แต่มีจุดสังเกตที่สัญลักษณ์ LP580-2 บนตัวรถ เครื่องยนต์ยังคงเป็น V10 สูบ 5.2 ลิตร เช่นเดียวกับ Huracan คันอื่นๆ แต่พละกำลังถูกลดลงเหลือ 580 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที อย่างไรก็ตาม มันก็ยังสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ภายในเวลา 3.4 วินาทีเช่นกัน และยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 320 กม./ชม. ที่สำคัญคือ มันเป็นรถที่มีราคาเป็นมิตรที่สุดของค่าย คือ 22.5 ล้านบาทเท่านั้น
McLaren 650s

รถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษ McLaren 650s ตัวแรงประจำ Super Series ของค่าย แรงม้าอาจไม่เยอะที่สุด แต่สมรรถนะแทบจะไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากระทิงดุคันด้านบนเลย รูปทรงภายนอกมาในแนวโค้งมนแบบเป็นมิตร แต่ก็ยังดูดุดันด้วยช่องอากาศขนาดใหญ่ด้านหน้า และด้านข้างตัวรถ ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 สูบ 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 650 แรงม้า ที่ 7,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 678 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะแบบคลัทช์คู่ สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3 วินาที ความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. แรงอย่างเดียวไม่พอ ยังมีระบบ Active Airbrake สปอยเลอร์หลังสำหรับช่วยหยุดรถ ที่ทำงานอัตโนมัติ ราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 26 ล้านบาท
McLaren 570s

รุ่นน้องของ McLaren 650s ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยก่อนที่งานจะเริ่มเพียงไม่กี่วัน ก่อนจะนำมาแสดงที่งานเป็นที่แรก งานออกแบบด้านนอก ไฟหน้ามีรูปทรงคล้ายกับรุ่นพี่ แต่ด้วยมิติตัวถังที่เล็กกว่าและรายละเอียดการออกแบบที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ 570s เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ติดตั้งขุมพลัง V8 สูบ 3.8 ลิตร กำลังสูงสุด 570 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะแบบคลัทช์คู่ เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 328 กม./ชม. และเนื่องจากเป็น SportSeries ของค่าย มันจึงเป็นรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายกว่า 650s และมาด้วยค่าตัวที่ย่อมเยากว่าคือ 21.8 ล้านบาท
Mercedes-AMG GT S

จริงอยู่ที่รถคันนี้ ควรจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Sport Cars แต่ด้วยความร้ายกาจของมัน เราจึงจัดให้มันมารวมอยู่ด้วย งานออกแบบภายนอก ดูจะเรียบง่ายกว่ารถ Super Car รุ่นอื่นๆ แต่แฝงความดุดัน และมีกลิ่นอายย้อนยุคแบบรถสปอร์ตค่ายดาวสามแฉกรุ่นเก๋าเจือปนอยู่เล็กน้อย ตัวถังด้านหน้ายาวเหยียด มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับเครื่องยนต์ V8 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 510 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาทีแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,750-4,750 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังด้วยเกียรํอัตโนมัติ 7 จังหวะ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.8 วินาที และมันมาพร้อมกับค่าตัว 14.9 ล้านบาท
Porsche 911 GT3 RS

มันอาจไม่ใช่รถที่ตัวเลขแรงม้าเยอะที่สุดของสายพันธุ์ 911 แต่มันเป็นรถที่ถูกสร้างมาเพื่อวิ่งในสนามแข่งโดยเฉพาะ เป็นรถอีกหนึ่งคันที่พูดได้ว่า มีเงินอย่างเดียวก็ซื้อไม่ได้ งานออกแบบ ดูเผินๆ เหมือนจะเรียบง่าย แต่มีการเพิ่มรายละเอียดที่ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ ช่วยให้รถดูดุดันยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ขนาด 4.0 ลิตร ถูกติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของตัวรถ ให้กำลังสูงสุด 500 แรงม้า ที่ 8,250 นิวตันเมตร แรงบิดสูงสุด 460 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลัง มีให้เลือกทั้งอัตโนมัติ 7 จังหวะ และ สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถคันนี้ เพราะเป็นการนำมาแสดงตัวเท่านั้น