สแกนเนีย รุกหนักตลาดรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ หลังบริษัทแม่จากสวีเดนไฟเขียวเดินหน้าขยายตลาดประเทศไทยและอาเซียนเต็มที่ ล่าสุดเลือกไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ตอกย้ำยุทธศาสตร์การใช้ไทยเป็นฐานรุก AEC พร้อมให้ไทยเป็นต้นแบบการให้บริการด้านสินเชื่อกับประเทศอื่นในภูมิภาค วางเป้าหมายในปีนี้ 1,000 ล้านบาท นายสถาพร กรรณพิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม ลิสซิ่ง จำกัด (Mr.Sthaporn Kanpiboon, Country Manager, Scania Siam Leasing Co., Ltd.) กล่าวถึงบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการขยายการบริการในด้านสินเชื่อของ สแกนเนีย เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในประเทศและเป็นบริษัทแรกของไทยที่มีการเปิดบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ในลักษณะนี้ โดยภายหลังจากที่ สแกนเนีย สวีเดน ได้ประกาศถึงความชัดเจนในการมุ่งที่จะขยายตลาดรถยนต์ขนส่งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างจริงจัง ทำให้แผนงานต่างๆ ที่มีการเตรียมความพร้อมไว้สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว โดยแผนงานที่ได้เตรียมการไว้นั้นมีทั้งเรื่องของการขยายศูนย์บริการ การพัฒนาบุคลากร และ บริการต่างๆ ทั้งในด้านการตลาดและด้านการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายการให้บริการด้านการเงินและสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์ (Finance & Leasing) ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของ สแกนเนีย ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่มีการเปิดให้บริการนี้ สำหรับการการเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อรถยนต์ขนาดใหญ่ในครั้งนี้ สแกนเนีย มองว่าต่อการเติบโตของตลาดรถขนส่งของไทยมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมากจากปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง ทั้งโครงการของภาครัฐ อาทิ โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเส้นทางการขนส่งที่จะต่อเชื่อมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 2 ล้านล้านบาท การเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งของ AEC รวมถึงการเติมโตและการลงทุนจากภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้มีประเทศไทยยังมีความต้องการรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก สำหรับแหล่งเงินทุนที่ สแกนเนีย นำมาเพื่อให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่นั้น เป็นเงินจากที่ได้รับการสนับสนุนจาก สแกนเนีย เทรเชอรี่ (Scania Treasury) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนด้านการเงินให้แก่การดำเนินงานของบริษัทในเครือของ สแกนเนีย ทั่วโลกอยู่แล้ว โดยข้อดีคือจะทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อกับ สแกนเนีย ได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายกว่าในเรื่องของการดำเนินการด้านเอกสารและการขอสินเชื่อ เพราะการให้บริการนี้เกิดขึ้นเพื่อต้องการให้การบริการของสแกนเนียเป็นไปในลักษณะที่ครบวงจร สำหรับเป้าหมายในการให้บริการในประเทศไทยนั้น ในปี 2556 วางเป้าหมายไว้ ประมาณ 55% ของยอดขายทั้งรถขนส่งและรถบรรทุก หรือ ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่หากได้รับการตอบรับดีมีความต้องการสูงและเติบโตกว่าที่ตั้งเป้าไว้ก็สามารถขยายเป้าหมายและวงเงินในการปล่อยสินเชื่อสำหรับการให้บริการในส่วนนี้ได้ ซึ่ง สแกนเนีย คาดว่าการให้บริการในส่วนนี้จะสามารถเติบโตได้ปีละประมาณ 10% ส่วนกลุ่มเป้าหมายของบริการสินเชื่อ จะเป็นกลุ่มลูกค้าและผู้ประกอบการที่ต้องการใช้รถขนส่งที่ต้องการซื้อรถยนต์ของ สแกนเนีย ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและในรูปแบบบริษัท โดยบริการด้านสินเชื่อนั้นจะมีการให้การสนับสนุนทางด้านการเงินทั้งประเภท บริการเช่าซื้อ (Hire Purchase) บริการเช่าแบบลิสซิ่ง (Finance Leasing) และกำลังศึกษาเพื่อเปิดให้บริการเช่าแบบดำเนินการ (Operation Lease) เพิ่มเติมอีกด้วย สำหรับจุดเด่นของบริการด้านสินเชื่อของสแกนเนียนอกจากจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้เคียงกับสถาบันการเงินในประเทศแล้ว ยังมีระยะเวลาการผ่อนยาว ทำให้ยอดชำระต่องวดไม่สูง ไม่ต้องมีหลักทรัพย์อื่นมาค้ำประกันเพราะสามารถใช้รถสแกนเนียที่เช่าซื้อเป็นหลักประกันได้ ทั้งยังสามารถนำค่าเช่าซื้อที่ผ่อนชำระมาเป็นค่าใช้จ่ายในด้านภาษีได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าการให้บริการนี้จะมีส่วนช่วยในการส่วนสนับสนุนทางด้านการตลาดและยอดขายของ สแกนเนีย เติบโตขึ้นอย่างมากแน่นอน ด้านการขยายการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ไปยังประเทศอื่นในอาเซียนนั้น นายสถาพร กรรณพิบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สแกนเนีย ได้วางให้ไทยเป็นต้นแบบในการให้บริการ ทั้งในส่วนของระบบการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อและการดำเนินงาน เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยมีระบบสินเชื่อที่แข็งแกร่ง มีตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีความต้องการใช้สินเชื่อสูง มีกฎระเบียบทางการเงินและการให้บริการทางการเงินที่มีความยืดหยุด คล่องตัว โดยประเทศในกลุ่มอาเซียนที่จะเปิดบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นต่อไป คือ ประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ รวมไปถึงประเทศนอกกลุ่มอาเซียน อย่าง ไต้หวัน และ ฮ่องกง อีกด้วย