“แม้มอเตอร์ไซค์ จะเสียหลักบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรหนักหนา มันก็เหมือนกับฟุตบอลนั่นแหละ ที่บางครั้งต้องเจอกับอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ บ้าง แต่มันก็ไม่มากจนถึงขนาดที่ผมจะต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วทิ้งสโมสรไปเลยหรอก” นี่คือหนึ่งคำพูดที่โดนใจสุดๆ ของผู้ชายที่ชื่อ เนวิน ชิดชอบ ผู้ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวกับหลายสังเวียนชีวิตจนกลายเป็นแบบอย่างของนักธุรกิจรุ่นใหม่... และนักสร้างที่ทำให้ “บุรีรัมย์” เป็นเมืองที่หลายคนต้องอิจฉา... บิ๊กไบค์ ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ มีรูปลักษณ์ที่สะดุดตาด้วยโลโก้ของสโมสร และเลขทะเบียนที่โดดเด่น กับผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่ได้ใส่สูทมานานกว่าครึ่งทศวรรษ มีเพียงชุดยูนิฟอร์ม ที่เป็นแค่เสื้อโปโล กับกางเกงขาสั้นของสโมสรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น กลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของ เนวิน ชิดชอบ ที่เดินทางไปทุกหนแห่งจนคุ้นตาคนทั้งประเทศ “ผมเดินทางออกจากบุรีรัมย์ กับเพื่อนๆ และขึ้นเหนือไปเชียงราย ก่อนจะข้ามไปลาว แล้วจากนั้นก็ขึ้นไปยังจุดหมายสุดท้ายที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แม้มันจะใช้เวลานานกว่าสัปดาห์ และต้องเดินทาง 3,000 กว่ากิโลเมตร แต่มันก็เป็นโอกาสที่ทำให้ผมได้ลองตัดขาดจากฟุตบอลบ้าง” เขารำลึกถึงทริปดังกล่าว เวลาผ่านไปรวดเร็ว เขายังจำได้ดี เพราะมันเพิ่งผ่านไปแค่ 6 ปีเท่านั้นเอง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ตอนนั้นจนมาถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นไปอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว “ในตอนนั้นเราไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ไม่มีแม้กระทั่งสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีสต๊าฟฟ์ ไม่มีนักเตะ และไม่มีแม้กระทั่งวัฒนธรรมลูกหนัง” ฟังดูหดหู่ สำหรับคำพูดที่ตัดพ้อจากปากผู้ชายวัยกลางคนวัย 57 ปี ที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล “ผมอยากเป็นเจ้าของสโมสรมานานหลายปีแล้ว และหลังจากที่ล้มเหลวกับความพยายามหลายครั้งก่อนหน้านั้น ผมก็รู้สึกตื่นเต้นที่ในที่สุดก็ซื้อทีมได้เสียที และคิดว่าน่าจะย้ายสโมสรมาอยู่บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด และจะอยู่จนกระทั่งสิ้นลมหายใจ...” “แน่นอนว่ามันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่ผมไม่ชอบทำอะไรเล็กๆ อยู่แล้ว ผมจะไม่ซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรอก เพราะพวกเขามีแฟนบอล และทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว ผมต้องการจะสร้างขึ้นมาจากศูนย์ และถึงแม้ผมจะรู้ว่ามันยากในปีแรก แต่มันก็เป็นโอกาสที่จะหล่อหลอมทุกอย่างเข้าด้วยกัน” “จะทำยังไงกับการเริ่มต้นที่ไม่มีสนาม ไม่มีโค้ช ไม่มีแม้แต่การให้ความรู้กับคนดู ว่าจะต้องดูฟุตบอลอย่างไร” นี่คือโจทย์สุดหินที่ต้องทลายให้แตก วันแล้ว วันเล่า ความพยายามที่ไม่มีแรงสนับสนุนใดๆ มีเพียง “หัวใจ” ของเขาเท่านั้นที่ฮึดสู้ ฟันฝ่าอุปสรรค แต่เมื่อหลายๆอย่างไม่เป็นใจ “สโมสร” จะอยู่ได้อย่างไร การทิ้งสโมสรในวันนั้น นำมาสู่การเริ่มต้นใหม่ในบุรีรัมย์บ้านเกิด โดยทุกอย่างเริ่มต้นจากศูนย์ เริ่มต้นจากผู้ชายที่ชื่อ “เนวิน ชิดชอบ” “ตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็ก ผมต้องการจะเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล ผมใช้ชีวิต และหายใจเข้าออกเป็นทีมนี้ มันคือแรงปราถนาอันยิ่งใหญ่ของผม และผมแทบจะไม่มีเวลาผ่อนคลายเลย ตอนกลางคืน ผมก็มักจะนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่ตลอด เพราะมัวแต่คิดว่าทำไมเราถึงไม่ชนะ ทำไมเราถึงไม่คอนโทรลเกมให้ดีกว่านี้” มันเป็นคำถามที่อยู่ในใจผมมาตลอด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีแผนร้อยแปดพันเก้าที่จะทำให้สโมสรกลายเป็นหนึ่งใน 5 ทีมยักษ์ใหญ่ของเอเชีย และตั้งเป้าว่าจะคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้ภายในทศวรรษหน้า เจ้าตัวก็ยังอยากหาอะไรทำนอกสนามที่ทำให้ตัวเองหลุดกรอบไปจากที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันด้วย หลังจากหาเวลาว่าง ในช่วงปิดฤดูกาลที่พวกนักเตะ และสต๊าฟฟ์ไม่อยู่ และเริ่มจากการขี่บิ๊กไบค์คู่ใจ ออกผจญภัยในทริปดังกล่าว เมืองเล็กๆติดขอบชายแดนภาคอีสาน ที่เจริญเติบโตอย่างผิดหูผิดตา ถนนทุกสายมุ่งหน้าเข้า “บุรีรัมย์” หลังจากมีการแจ้งเกิดสนามแข่งขันรถยนต์ทางเรียบใหม่ มาตรฐานระดับโลก ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (BRIC) สนามแข่งขันระดับโลก ภายใต้ชื่อสนาม “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต“ (CIC) “ความสำเร็จไม่ได้มา เพราะโชคช่วย หรือใช้ต้นทุนฟรีๆ จากทรัพยากรที่มีอยู่” การเปลี่ยนเมืองบุรีรัมย์ และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปในอนาคต นี่หรือ “ชีวิตหลุดกรอบ” ของเจ้าของสโมสร ที่อยากหากิจกรรมอื่นทำ นอกเหนือจากทีมฟุตบอลที่มีอยู่ เขาก้าวขึ้นมาเพื่อพัฒนาบ้านเกิด จนสำเร็จโด่งดังไปทั่วโลก “ผมเดินทางไปเป็นแขก ต่างประเทศตอนรับราชการ เห็นพวกอาหรับสร้างเมือง ก็ไปว่าเขาโง่ เราคิดผิด เขาวิชั่นไกลกว่าเรา 50 ปี เขาคิดว่าในอนาคตเมื่อน้ำมันหมด แล้วลูกหลานจะอยู่อย่างไร เขาสร้างใหม่หมดเลย สร้างสกีโดม กลางทะเลทราย เอาไว้ให้คนไปเที่ยว มันแปลกไหม คุณไปเล่นเจ็ตสกีในทะเลทราย ครีเอทีฟมาก ดูจริงๆ เขาฉลาดกว่าเยอะ เพราะเอาเงินไปสร้างเพื่ออนาคต บ้านเราไม่มีการเตรียมการเพื่ออนาคต ยกตัวอย่าง จังหวัดเชียงใหม่ ถ้ารักษาทรัพยากรให้อากาศร่มรื่นเย็นสบายไม่ได้ ถ้ามีแต่ควันไฟ มลพิษคนก็ไม่ไป เพราะไม่มีทรัพยากรแล้ว เขาจะอยู่ได้อย่างไร เหมือนกับทะเล ถ้ารักษาสภาพแวดล้อมไม่ได้ น้ำทะเลสกปรก ชายหาดสกปรก ใครจะไปเที่ยว ลองดูที่อเมริกา รัฐแต่ละรัฐของเขา สร้างตัวของตัวเองไม่ต้องพึ่งพาใคร มีจุดขายของตัวเอง เป็นวิธีคิดรุ่นใหม่ บุรีรัมย์โมเดล คือทุกคนต้องดูว่าวิธีการพัฒนาเมือง หาโครงสร้างของตัวเอง” นายเนวิน กล่าว คำว่า “สแตนดาร์ด” มันสำคัญที่สุด สำคัญกว่าทุกเรื่องมันต้องปรับตัวเองไปทุกคนต้องเริ่มการแก้ปัญหาต้องให้เป็นมาตรฐานโลก ไม่ใช่เป็นไทยแลนด์ สแตนดาร์ด อย่างทุกวันนี้ซึ่งมันก็วนกลับมาปัญหาเดิมไม่ก้าวข้ามวังวนเสียทีสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต(CIC) เป็นเซอร์กิตเดียวที่อยู่กลางเมืองแล้วไม่มีปัญหาเรื่องท้องถิ่น “นอยซ์ พอลลูชั่น”(Noise Pollution)” ไม่มีปัญหา เพราะทุกคนรู้ว่าถ้าเมื่อไรเสียงดังทุกคนได้ตังค์ ยิ่งเสียงดังเท่าไรยิ่งมีคนเอาสตางค์มาใช้ที่นี่มากขึ้นเท่านั้น โอกาสที่ประชาชนชาวบุรีรัมย์จะหาสตางค์จากคนต่างถิ่นกับธุรกิจของเขาก็มากขึ้นเท่านั้น มันเป็นวิธีจูนความคิดของคนเมืองนี้ ที่ผ่านมาเราเป็นเมืองผ่านตลอดไม่เคยมีนักท่องเที่ยวมาใช้สตางค์ ไม่เคยค้าขายได้ดีแบบนี้มันต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้กับคนทั้งจังหวัด ผมจัดไบค์ปาร์ตี้ บิ๊กไบค์ มาจากทั่วประเทศใครๆก็คิดว่า ไบค์ปาร์ตี้ที่เคยจัดในประเทศไทย 1,000 กว่าคันก็เยอะแล้ว ผมจัดก็ตั้งเป้าว่า 3,000 คัน แต่มาจริงๆ5,000 คัน โรงแรมไม่มีที่พักร้านอาหารเต็มหมดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ 2 วัน แต่ทุกคนแฮปปี้ “เราก็รอฟังเสียงสะท้อนจากคนที่นี่ว่า หลังจัดไปแล้วจะมีเสียงบ่นไหมของคนในชุมชนนี้ไหมแต่ปรากฏว่า ทุกคนบอก เสียดาย เตรียมของขายไม่พอ มันเป็นความเสียดายไป” ผมสอนให้เขาได้รับรู้ว่านี่คือ “นอยซ์ มันนี่“(Noise Money) นี่คือทฤษฎีใหม่น่ะ ทุกคนก็โอเค เวลคัม สำหรับนอยซ์ทั้งหลายแหล่ ที่จะเอาตังค์มาใช้ที่นี่ มันก็เป็นแบบมิติทางความคิด “แต่ก่อนที่ดินที่นี่ไร่ละแสน เดี๋ยวนี้ตรงข้ามดูคาติ (ดูคาติ อยู่ระหว่างสร้างโชว์รูมใหม่ บนถนนหลักขาเข้าเมือง-กองกบ.) 2 ไร่ 24 ล้าน ตอนนี้ที่ดินแพงขึ้น รวยหมดแล้ว มูลค่าเพิ่มของทรัพสินที่มีเพิ่มขึ้นเป็น100 เปอร์เซนต์ สำหรับราคาประเมินของที่ดิน ราคาประเมินยังอยู่ที่ไร่ล่ะ 1-1.5 ล้านไม่เกิน 2 ล้าน แต่จริงๆราคาไปถึง 10 ล้านแล้ว ถนนบายพาสด้านหลังไร่ละ 8 ล้าน ทุกคน เดี๋ยวนี้ขายที่ไปส่วนหนึ่ง มีเงินเก็บ ธุรกิจรันได้ มันวินวินหมดทุกคนมันถึงไปได้อย่างเรื่องที่พักที่นี่ตอนนี้ เต็มหมดแล้ว ก็ต้องหาวิธีแก้ไขอาจทำเป็นเต้นท์ส่วนตัว จัดหาห้องน้ำให้ หรืออาจแก้ไขให้บ้านที่มีห้องว่าง รับคนเข้าไปพัก แบบโฮมสเตย์แค่สองวัน เท่านี้ก็ได้เงินกันบ้านละ500บาทแล้ว ก็เป็นการวินวิน ทั้งสองฝ่าย ทิศทางตรงนี้เรามีวิธีคิดกลับข้างกัน วันนี้ไม่มีใครมีปัญหา เพราะทุกคนในเมืองนี้ รวยกันหมดแล้ว เมื่อที่แล้ว จีดีพี ของบุรีรัมย์ขึ้น 32% แรงมากวันที่มอเตอร์สปอร์ตมา มันเกิน100% แน่นอน” ผมสอนเด็กๆ ทุกคนว่า “รีซอร์ส อีส ลิมิเต็ด Resource is Limited (ทรัพยากรมีจำกัด) แต่ ครีเอทีฟ อีส อันลิมิเต็ด Creativity is Unlimited (ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีขีดจำกัด) อย่ามองเรื่องมูลค่าทรัพย์สินให้มองว่าครีเอทีฟอะไรออกมาบ้างเป็นสูตรของโลกในยุคอนาคต ผมอาจหาญชาญชัยลงทุนขนาดนี้ทำไมกล้าทำเสี่ยงไหมวันนี้ผมต้องการให้ที่นี่เป็นเดสติเนชั่น (destination) หนึ่งของคนไทยเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาพัก เราตั้งเป้าทำฟุตบอล มอเตอร์สปอร์ต สนามยิงปืน เราจะทำสปอร์ตเอดเวนเจอร์ ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รองรับผู้ที่ชอบ เพราะไลฟ์สไตล์คนทุกวันนี้ ต้องการเอนเตอร์เทนตัวเอง ทำที่นี่ให้เป็นสปอร์ตซิตี้ ประเทศไทย มี 77 จังหวัด ที่ทะเลาะกันเรื่องจังหวัดที่ 78 ลองคิดว่าได้อะไรบ้างสำหรับคนที่นั่น วันนี้มันไม่เกี่ยวกับขอบเขตดินแดนแล้ว ไปหัวหิน มีใครไปประจวบคีรีขันธ์บ้าง ไม่มีใครนึกถึงไปเขาใหญ่ มีใครบอกมาโคราชไหม นี่คือเดสติเนชั่นของโลกปัจจุบัน และโลกอนาคต จากนี้ไปไม่เกิน 5 ปี เมืองไทยจะเหลือเพียง 10 เดสติเนชั่น ใครสร้างให้เป็นเมืองเดสติเนชั่นได้ คนนั้นรอดนี่คือสิ่งที่เราคิดและเราตัดสินใจทำและวันหนึ่ง ความเป็นเดสติเนชั่น พอประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC ) เปิด ลาว เวียดนาม กัมพูชา ต้องเสร็จผมเพราะ จากช่องสะงำ เดินทาง 1 ชั่วโมง ช่องบก ชั่วโมงเดียว จากเวียงจันทน์ หลวงพระบาง ข้ามทางอุบลราชธานี เดินทาง 3 ชม. ที่ลาวภาษีรถยนต์ถูกกว่าไทยครึ่งหนึ่ง ซูเปอร์ไบค์มีเยอะแต่ไม่มีสนามแข่ง ต้องยอมรับว่า 5 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยเปลี่ยนจากสังคมแฟมิลี่ เมื่อก่อนพวกเราอยู่เป็นแบบครอบครัว ไปไหนทีก็ต้องไปกันทั้งครอบครัว เดี๋ยวนี้ทุกคนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมอยู่คอนโด อพาตเมนท์ สังคมมันเปลี่ยนไป เหมือนกันในสังคมใหญ่ๆ ที่มันเปลี่ยนไป ทำให้ทุกคนมองแต่เรื่องของตัวเอง มองเรื่องเอนเตอร์เทนตัวเองช่วงวีคเอนด์ ว่าจะไปที่ไหน อย่างไรเราจึงย้อนกลับมาคิดว่า คนจะไปเที่ยวที่ไหน ผมคิดว่าคนเลือกไป 2 อย่าง คือ 1 ไปที่ๆ มี รีซอร์ส (Resort) ที่จะช่วยให้เราพักผ่อน “เนวิน ชิดชอบ” ไม่ใช่เจ้าของสโมสรตามแบบฉบับที่คุณเคยเห็นอีกต่อไป เพราะเขากุญแจสำคัญ ที่อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่อย่างทีม “ปราสาทสายฟ้า” รวมถึงสนามแข่งรถมาตรฐานโลก “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” จังหวัดบุรีรัมย์