บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกตลาดรถหรูส่งท้ายปี เปิดตัวยนตรกรรมใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ The new CLS Shooting Brake ต้นแบบของยานยนต์รูปลักษณ์ใหม่แบบไร้ขีดจำกัดที่เปี่ยมไปด้วยดีไซน์อันน่าหลงใหล และยังคงความหรูหรา ปราดเปรียวเข้าไว้ด้วยกัน CLS 250 CDI ความเหนือระดับในสไตล์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตูที่ผสานรวมกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว E 300 BlueTEC HYBRID ครั้งแรกในไทยสำหรับรถยนต์พรีเมี่ยมเครื่องยนต์ไฮบริดดีเซลที่สะอาดและประหยัดมากที่สุด
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบันการคัดสรรยนตรกรรมนอกจากจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ อีกทั้งยังต้องสามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เราจึงได้นำเสนอยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น The new CLS Shooting Brake ยนตรกรรมที่สะท้อนความโดดเด่นของรูปลักษณ์ที่มีดีไซน์อันน่าหลงใหล ซึ่งสามารถผสานคุณสมบัติการใช้งานได้อย่างลงตัว CLS 250 CDI รถยนต์คูเป้ 4 ประตูโฉมใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้ดูปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวมากขึ้น และ E 300 BlueTEC HYBRID ครั้งแรกในประเทศไทยกับยานยนต์หรูที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดดีเซลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ข้อมูลพร้อมคลิปวิดีโอ
https://www.auto-thailand.com/CarGallory/The-new-CLS-Shoothing-Brake-CLS-250-CDI-E300-BlueTEC-HYBRID-2012.html
The new CLS Shooting Brake มีชุดแต่งให้เลือกถึง 2 แบบด้วยกัน ได้แก่
• The new CLS 250 CDI Shooting Brake Exclusive ราคา 4,990,000 บาท
• The new CLS 250 CDI Shooting Brake AMG Premium ราคา 5,390,000 บาท
CLS 250 CDI มีชุดแต่งให้เลือกถึง 2 แบบด้วยกัน ได้แก่
• CLS 250 CDI AMG Dynamic ราคา 4,990,000 บาท
• CLS 250 CDI AMG Premium ราคา 5,290,000 บาท
ดร. เพาฟเลอร์ กล่าวสรุปว่า “การนำรถโมเดลใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทย บริษัทฯ จะคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับโครงสร้างของประเทศ รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมทีมช่างเทคนิคให้มีทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญในรายละเอียดผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะทางจากกลุ่มบริษัทเดมเลอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์ที่มาจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าเล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องข้อได้เปรียบสำคัญที่จะได้รับจากการซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยตรง นั่นก็คือ “ความคุ้มค่า” ตลอดอายุการใช้งานในระยะยาว และความได้เปรียบในเรื่องราคาขายต่อเมื่อเทียบกับคู่แข่ง นอกจากนั้นลูกค้ายังให้ความไว้วางใจในการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการรับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทางและสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งลูกค้าจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรงจากโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ 30 แห่งทั่วประเทศ”