ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางไปอีกขั้น ด้วยประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้นทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด ผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และห้องโดยสารที่หรูหราและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) เปิดรับจองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดทั่วประเทศ และพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 เป็นต้นไป
“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) สานต่อความโดดเด่นจากฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบัน ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยการนำความคิดเห็นจากผู้บริโภคที่มีต่อเอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบัน มาพัฒนาประสิทธิภาพ สมรรถนะ และความสะดวกสบาย ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างดียิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมตอกย้ำความเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุดในตลาด” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวในปี 2558 ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Thailand Car of the Year 2015) จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท) ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่เราเปิดตัวในวันนี้ จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคอย่างแน่นอน” นางสาวยุคนธร กล่าวเสริม
เหนือชั้นด้วยประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความแข็งแกร่งของรถยนต์อเนกประสงค์ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ คุณภาพของอุปกรณ์อันยอดเยี่ยม และสมรรถนะที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อมอบประสิทธิภาพและความคล่องตัวเมื่อขับขี่ในเมือง แต่ยังคงความแข็งแกร่งสมบุกสมบันอย่างเหนือชั้นเมื่อขับขี่ออฟโรด

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนของฟอร์ด ซึ่งผสานระบบเบรกแบบ Autonomous Emergency Braking (AEB) เข้ากับระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pedestrian Detection) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) บริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถ และช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) พร้อมมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย เช่น ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี กุญแจรีโมทอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ

ระบบตรวจจับลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ซึ่งได้รับการติดตั้งในรถระดับนี้เป็นครั้งแรก จะคอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่จะได้รับความสะดวกสบายจากระบบประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี เพียงยื่นเท้าไปที่ใต้กันชนท้าย ประตูท้ายจะเปิดโดยอัตโนมัติ
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ทุกรุ่น ยังมาพร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทรถได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และขึ้นลงรถได้สะดวกสบายกว่าเดิม
.jpg)
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ทุกรุ่น ได้รับการติดตั้งระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ซึ่งรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถ เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์อีกด้วย
ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถ เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์อีกด้วย โดยระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น
ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) คือ ระบบ SYNC? ที่ได้รับการพัฒนามาขึ้นอีกขั้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธด้วยระบบ SYNC? และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน
.jpg)
.jpg)
.jpg)
นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ ให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ได้แก่
• ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
• ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control)
• ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist)
• ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIS – Blind Spot Information System) ที่มาพร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert)
• กล้องมองหลังขณะถอยจอดและสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (Rear View Camera and Sensors)
(1).jpg)
ดีไซน์เพื่อการใช้งาน
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) โดดเด่นสะดุดตาด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ และไฟหน้า HID ที่ส่องสว่างกว่าไฟหน้าทั่วไป พร้อมล้อแมกซ์อัลลอยแบบก้านคู่ (Split-Spoke) ขนาด 20 นิ้ว ที่ช่วยเสริมให้รถดูดุดันและหรูหราอย่างมีระดับ
ห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ตกแต่งด้วยโทนสีดำ มอบความหรูหราให้แก่ห้องโดยสาร และยังเสริมความโดดเด่นด้วยเส้นสายรอบคัน อีกทั้งเพิ่มความนุ่มนวลของจุดสัมผัสต่างๆ ในห้องโดยสาร เพื่อความรู้สึกหรูหราและสะดวกสบายในการใช้งาน
.jpg)
ขุมพลังที่เหนือกว่า
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ (Bi-turbo Diesel Engine) และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า (157 กิโลวัตต์) ที่ 3750 รอบต่อนาที เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งขึ้น พร้อมลดเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ไปในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ เครื่องยนต์ไบเทอร์โบยังสามารถกระจายแรงบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1750-2000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลังและเร่งความเร็ว ช่วยให้การขับรถบนทางลาด เช่น การขับรถขึ้นภูเขาที่ลื่นและลาดชันง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุดถึง 180 แรงม้า ที่ 3500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดถึง 420 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1750-2500 รอบต่อนาที
.jpg)
.jpg)
ต้นแบบแห่งความเหนือชั้น
ศักยภาพในการขับขี่แบบออฟโรดอย่างเหนือชั้นของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมความคล่องตัวในการขับขี่บนทางเรียบและความสะดวกสบาย ปราศจากเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกรุ่น ได้รับการพัฒนาระบบกันสะเทือน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างง่ายดายและมั่นใจยิ่งขึ้นในทุกสภาพถนน
ระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Active Noise Cancellation) มอบห้องโดยสารที่ปราศจากเสียงรบกวน ในขณะที่กระบวนการวิศวกรรมออกแบบให้ความสำคัญกับการลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์และระบบเกียร์ พร้อมพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) วางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น รวมถึงรุ่นเทรนด์ ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น ตามราคาดังต่อไปนี้:

รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,799,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ)
• เครื่องยนต์ดีเซล 2.0L Bi-Turbo (เทอร์โบคู่)
• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management
• เฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน
รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,599,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่นไทเทเนี่ยม) ได้แก่
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน
• เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ
• ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
• ระบบแจ้งเตือนการขับขี่
• หลังคา Panoramic Moonroof
• อัลลอย 20" พร้อมยางขนาด 265/50 R20
• เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
• ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
• ระบบแผนที่นำทาง
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ได้แก่
• ระบบตรวจจับลมยาง
• ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
• ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด

รุ่นไทเทเนี่ยม เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,439,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน (เพิ่มเติมจากรุ่นเทรนด์) ได้แก่
• ไฟหน้าแบบ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
• ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
• ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
• ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
• ไฟท้าย LED
• ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าแบบแฮนฟรี
• อัลลอย 18" พร้อมยางขนาด 265/60 R18
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

รุ่นเทรนด์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,299,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่
• เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ
• ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา
• ระบบกันสะเทือนหน้า: อิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
• ระบบกันสะเทือนหลัง: คอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์และเหล็กกัน
• ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
• ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์
• ราวหลังคาและบันไดข้าง
• ล้ออัลลอย 17” พร้อมยางขนาด 265/65 R17
• กุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
• ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
• เบาะหนังสีดำ
• ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ภาษาไทย หน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อม Bluetooth และ Wi-Fi
• ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟลายเออร์
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ได้แก่
• ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
• ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ / และม่านถุงลมนิรภัย
• กล้องมองหลังขณะถอยจอด
.jpg)
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี รวมถึงสีใหม่ Diffused Silver Metallic และสีมาตรฐาน ได้แก่ Aluminum Metallic, Absolute Black Metallic, Arctic White, Sunset Metallic และ Blue Reflex Metallic
นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ (New Ford Everest 2018) จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี