เมอร์เซเดส-เบนซ์ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับวงการรถหรูอีกครั้ง ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์รวมตลอดปี 2557 พุ่งสูงถึง 11,328 คัน นับเป็นสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ พร้อมเผยทิศทางการดำเนินงานในปี 2558 ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากสุดในประวัติการณ์กว่า 15 รุ่น ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่งในด้านบริการหลังการขาย เตรียมขยายโชว์รูมเพิ่มอีก 6 แห่ง ภายในปี 2559 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2557 นับเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับการสร้างยอดขายโดยรวมตลอดทั้งปีอยู่ที่ 11,328 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าคิดเป็น 12% (2556: 10,144 คัน) นับได้ว่าเป็นยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทในประเทศไทย และยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดรถหรูเป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน ซึ่งรถยนต์ในกลุ่ม Contemporary Luxury เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด”
“ปัจจัยความสำเร็จของยอดขายในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการทำกิจกรรมการตลาดที่โดดเด่น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ายังก์เจเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น การเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ อย่างชมพู่-อารยา เอ. ฮาร์เก็ตต์ เพื่อเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการเปิดตัว Mercedes Experience Store เพื่อจัดแสดงยนตรกรรมในกลุ่ม New Generation Compact Car (NGCC) ณ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เป็นต้น นอกจากนั้น ในด้านของผลิตภัณฑ์ เราได้มีการนำเสนอยนตรกรรมหรูกว่า 12 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่ม NGCC, Contemporary Luxury และ Dream Car อย่าง The new GLA-Class, The new C-Class และ The new generation CLS เป็นต้น รวมถึงการเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ด้วยการเปิดตัว The new C-Class BlueTEC HYBRID เมื่อช่วงปลายปี ทำให้ในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มีจำนวนยนตรกรรมที่สามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากว่า 21 รุ่น บวกกับการสานต่อบริการหลังการขายที่มุ่งเน้นการให้บริการตามความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดภายใต้โปรแกรม “My Service” และการเปิดตัวบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “Genuine Remanufactured Parts” อะไหล่แท้ที่ผ่านกระบวนการ Remanufacturing และมีคุณภาพดีเทียบเท่ากับอะไหล่ใหม่ตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อมอบ “ความคุ้มค่า” สูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ซึ่งลูกค้าจะสามารถได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรงจากโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐานรถยนต์ ในด้านของ CRM เราได้มีการจัดกิจกรรมตอบแทนลูกค้า และมอบสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ถือบัตร MercedesCard ที่ปัจจุบันมียอด ผู้ถือบัตรเป็นจำนวน 25,000 ราย รวมถึงกิจกรรม Mercedes-Benz Driving Events การอบรมขับขี่ปลอดภัยกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี นอกจากนั้น ในปีนี้นับเป็นปีที่เรารุกตลาดธุรกิจรถฟลีทและรถใช้แล้วมากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา ดังจะเห็นได้จากการส่งมอบรถ The S-Class จำนวน 60 คันให้แก่โรงแรมระดับ 5 ดาวของประเทศไทย” มร.ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติม

มร.มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับในปี 2558 เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มีนโยบายการทำการตลาดเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม โดยวางแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 15 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่ม Contemporary Luxury ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งทางบริษัทฯ จะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในระยะเวลาใกล้เคียงกับตลาดต่างประเทศ รวมถึงข้อเสนอการส่งมอบรถที่รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ในวงกว้าง ทางบริษัทฯ เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดที่น่าสนใจในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น การเข้าร่วมเป็นสปอนเซอร์ในงานแฟชั่นระดับโลก ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศอื่นๆ อีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการสานต่อกิจกรรม MercedesTrophy เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างต่อเนื่อง”

“และเพื่อเป็นการสร้างความใกล้ชิด และประสบการณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย ทางบริษัทฯ จะทำการเปิดตัว Ultimate Mercedes-Benz Brand Experience Store เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสยนตรกรรมเหนือระดับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผ่านป๊อปอัพสโตร์ใจกลางเมือง ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรี่ยม ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี รวมถึงการมอบประสบการณ์ด้านการขับขี่ให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสเทคโนโลยียนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งร่วมจัดแสดงรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ และมอเตอร์ เอ็กซ์โป เป็นต้น ส่วนด้านเครือข่ายการบริการหลังการขาย บริษัทฯ ยังคงมีการพัฒนาเครือข่ายระบบการบริหารจัดการในส่วนของศูนย์บริการและโชว์รูมให้มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานเดียวกันอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปี 2559 เรามีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรเปิดตัวโชว์รูมเพิ่มอีก 6 แห่ง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านบริการหลังการขาย และเป็นการขยายเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้งสิ้น 31 แห่งทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 16 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 15 แห่งในต่างจังหวัด”

“นอกจากนี้ ด้านกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด เรายังเน้นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านช่องทาง Above the line และ Below the line พร้อมทั้งยังคงให้ความสำคัญกับการทำ Digital Marketing ผ่านช่องทาง Social Network อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูล ข่าวสาร รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ได้อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันยอดเฟซบุ๊ค แฟนเพจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) www.facebook.com/ MercedesBenzThailand มีประมาณ 374,026 คน ซึ่งในปีที่ผ่านมาทางแบรนด์ยังได้รับรางวัลแบรนด์ที่มีค่าปฏิสัมพันธ์บน Social network (Top Brand Engage on Social Media by Category) ในสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์มากที่สุดในประเทศไทย จากงาน Thailand Zocial Awards 2014 โดยมีค่าปฏิสัมพันธ์ 1,462,831 ครั้ง ส่วนอินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) Instagram : MercedesBenzThailand มียอดผู้ติดตามกว่า 23,532 คน” มร.มาร์ทิน กล่าวเพิ่มเติม
“บริษัทฯ ขอให้คำมั่นว่าจะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” พร้อมทั้งไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ เพื่อสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ให้กับลูกค้า และผู้บริโภค พร้อมทั้งขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่เพียงด้วยศรัทธาในความเป็นเลิศด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่า แต่ด้วยความมั่นใจในการเลือกซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วยดีเสมอมาอีกด้วย” มร. ไมเคิล เกรเว่ กล่าวสรุป