โลกยานยนต์ทุกวันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นความท้าทายของผู้ผลิตรถยนต์ เห็นจะไม่พ้นเรื่องของการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมล้ำสมัย ที่ทุกค่ายรถยนต์ทั่วโลกต่างมุ่งมั่นคิดค้น พัฒนา ด้วยแนวคิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง และเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างไม่หยุดหย่อน ผู้บริโภคจึงถูกดึงอยู่ในโลกแห่งเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และถูกขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งประโยชน์ที่ผู้บริโภคได้รับโดยตรงนั่นคือ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและง่ายขึ้นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณสมบัติครบครัน ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานได้มากที่สุด เส้นแบ่งระหว่างโลกในจินตนาการและโลกความจริงเริ่มบางลงเรื่อยๆ เฉกเช่นดั่งที่รถค่ายมาสด้าในเจนเนอเรชั่นปัจจุบัน ที่หลอมรวมด้วยองค์ประกอบที่ถูกพัฒนาจากแนวคิดและต่อยอดด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่อย่างลงตัว เสมือน ดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตที่มีการถ่ายทอดพันธุกรรมจากรุ่นก่อนสู่รุ่นใหม่อย่างไม่มีวันจบสิ้น โดยเฉพาะมาสด้าได้มุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาจนประสบความสำเร็จ จนวันนี้ได้เป็นเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ได้รับการยอมรับมาแล้วทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความก้าวล้ำทางด้านเทคโนโลยีและความท้าทายใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ผนวกด้วย 4 หัวใจหลักของรถยนต์ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ทั้งเบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ โครงสร้างตัวถัง และแชสซีส์ ที่พร้อมส่งมอบการขับขี่แบบ ซูม-ซูม สไตล์สปอร์ตของมาสด้า ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความปลอดภัยสูงสุด โดยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทั้งหมดนี้จะอยู่ในรถในอนาคตของมาสด้าทุกรุ่นจนกลายเป็น MAZDA DNA SKYACTIV ที่กำลังจะนำท่านสื่อมวลชนไปร่วมสัมผัสบนเส้นทางสายเศรษฐกิจที่สำคัญ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกนำมาใส่ในมาสด้าในยุคปัจจุบันกับ สกายแอคทีฟ - วิฮีเคิล ไดนามิกส์ (SKYACTIV – Vehicle Dynamics) ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control : GVC) ซึ่งเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ช่วยผสานการทำงานของรถยนต์ทั้งคัน ทั้งเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง รวมไปจนถึงระบบช่วงล่าง ที่สอดประสานการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรีดสมรรถนะอันทรงพลังได้เต็มขั้น สัมผัสความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับขี่กับรถ ผนวกแนวคิด จินบะ – อิไต (Jinba - Ittai) ได้มากยิ่งขึ้น ให้อารมณ์สปอร์ตเร้าใจ แม้กระทั้งผู้โดยสารยังรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง หากเจาะลึกถึงองค์ประกอบดีเอ็นเอของมาสด้า ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ – วิฮีเคิล ไดนามิกส์ กับเครื่องยนต์ทั้งสกายแอคทีฟคลีนดีเซล (SKYACTIV-D) คือเครื่องยนต์ดีเซลที่เผาไหม้สะอาดเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่สามารถผ่านข้อกำหนดมาตรฐานไอเสียโลก โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งปฏิกิริยาที่มีราคาสูงเพื่อลดไอเสีย ที่ให้แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสกายแอคทีฟเบนซิน (SKYACTIV-G) คือเครื่องยนต์เบนซินแบบไดเร็คอินเจ็คชั่น ที่ให้ประสิทธิภาพสูง เจนเนอเรชั่นใหม่ที่เป็นนวัตกรรมชิ้นเอกของวงการยานยนต์โลก นับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีอัตราแรงอัดอากาศในการเผาไหม้สูงที่สุดของโลก คืออัตรา 14:1 โดยที่เครื่องยนต์ไม่เกิดอาการน๊อค เผาไหม้สมบูรณ์ ให้แรงม้าและแรงบิดสูง พร้อมประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น SKYACTIV-Drive ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed คือ ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ส่งถ่ายแรงบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ แม่นยำ ราบรื่น ต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์ช่วยรักษามลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย รวมจุดแข็งของเกียร์อัตโนมัติได้ครบทุกประการ ในส่วนของโครงสร้างตัวถัง SKYACTIV-Body ที่ถูกพัฒนาเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นลง เป็นโครงสร้างที่คงความแข็งแกร่ง เสถียร และให้ความปลอดภัยสูงสุดจากแรงปะทะรอบทิศทางผลิตจากเหล็กกล้าที่ทนแรงดึงสูง เหนียว แข็งแกร่ง มีน้ำหนักเบา อีกทั้งยังช่วยลดแรงกระเทือนจากพื้นถนนควบคู่ไปกับการกระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ และองค์ประกอบสุดท้ายที่สำคัญกับช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ SKYACTIV-Chassis คือ แชสซีส์เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ให้ประสิทธิภาพสูง มีน้ำหนักเบา แต่ให้สมดุลที่สมบูรณ์แบบของทั้งการควบคุมการขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด ที่คล่องตัวด้วยระบบช่วงล่างที่เกาะถนนมั่นคง พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่เป็นตัวช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลโดยตรงในเรื่องของความปลอดภัย และเมื่อทั้ง 4 หัวใจหลักของมาสด้าเริ่มสอดผสานการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลัง ให้สัมผัสการขับขี่อย่างมีเอกลักษณ์ของมาสด้า นั่นคือ อารมณ์สปอร์ตที่ให้ความสนุก เร้าใจ สนุกทุกการขับขี่ สำหรับดีเอ็นเอ สกายแอคทีฟสายพันธุ์ล่าสุดนี้ ได้ถูกฝังในหัวใจของรถมาสด้ารุ่นปัจจุบันของปี 2017 ซึ่งได้แก่ มาสด้า2, มาสด้า3, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะถูกส่งต่อในรุ่น มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ที่กำลังจะมาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบอีกระดับให้กับตลาดรถครอสโอเวอร์อีกครั้งในไม่ช้านี้ด้วย และด้วยผลลัพธ์อันทรงคุณค่าที่มาสด้าได้เพียรพยายามจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ จึงเป็นเหตุผลของการหาสนามเส้นทางที่จะมาร่วมทดสอบดีเอ็นเอสกายแอคทีฟทุกรุ่น สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ มาสด้าเตรียมเปิดประสบการณ์หน้าใหม่แห่งการเดินทางด้วยรถยนต์ ด้วยเรื่องราวที่ประทับลอยล้อในรูปแบบคาราวานครั้งใหม่ ด้วยวิสัยทัศน์ของมาสด้า ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และมิได้มองเพียงการเติบโตของมาสด้าประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเป็นภูมิภาคที่สำคัญต่อการลงทุน ด้วยประชากรประมาณ 600 ล้านคน จากตัวเลขการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมรถยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งมาสด้า ประเทศไทย คือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าที่สำคัญไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั้งอาเซียน และต่างประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อเนื่องไปถึงอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง จนเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาเซียน หากทุกประเทศในอาเซียนประสานความร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน จะสามารถสร้างรายได้แต่ละประเทศสมาชิกต่อเนื่อง การเดินทางโดยฝูงสกายแอคทีฟนับ 10 คัน ขับเคลื่อนโดยสื่อมวลชนพร้อมด้วยผู้บริหาร และทีมงานกว่าร้อยชีวิต แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ที่จะมาสลับผลัดเปลี่ยนกันควงพวงมาลัย เพื่อร่วมสร้างเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ เชื่อมโยงอารยธรรม บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ เชื่อมโยงวัฒนธรรม ไปกับกิจกรรม MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN โดยมาสด้าปักหมุดไว้ที่เส้นทางสายเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง สืบเนื่องจากความร่วมมือจาก 6 ประเทศ ประกอบด้วย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน และไทย ได้ร่วมผนึกกำลังทางเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวทางการค้า การลงทุนด้านอุตสาหกรรม ด้านการเกษตร และด้านการบริการ เพิ่มคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้มีการกำหนด 9 เส้นทางหลัก เพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ Greater Mekong Subregion (GMS) โดยขบวนคาราวานรถยนต์มาสด้าจะออกโลดแล่นไปบนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ แนวตะวันออกมุ่งหน้าสู่ตะวันตก หรือที่รู้จักกันในชื่อ EAST-WEST ECONOMIC CORRIDOR เรียกว่าเส้นทาง R2 หรือ R9 เมื่ออยู่ในประเทศลาว ที่เชื่อมสองมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ จากมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออก หรือทะเลจีนใต้ กับมหาสมุทรอินเดียตะวันตก สัมผัสขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมไปถึงการเติบโตของสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน โดยคาราวานจะใช้เส้นทาง R2 หรือ R9 เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางครั้งนี้ รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 2,900 กิโลเมตร ในระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน 2560 รวมระยะเวลา 7 วัน โดยผู้ร่วมเดินทางกลุ่มแรกจะเริ่มต้นภารกิจครั้งนี้ด้วยการบินลัดฟ้าสู่เมืองเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม (วันที่ 20-23 มิ.ย. 2560) ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พาคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์มาสด้าในแถบอาเซียน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองเว้ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของเวียดนาม ก่อนที่จะเข้าสู่ด่านชายแดนลาวบาวของเวียดนาม-ลาว และข้ามแม่น้ำโขงผ่านประเทศลาวด้วยสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เข้าสู่ประเทศไทยในจังหวัดมุกดาหาร ผ่านขอนแก่น มุ่งหน้าสู่พิษณุโลกซึ่งเป็นจังหวัดที่รัฐบาลไทยปลุกปั้นให้เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการเดินทางจะทั่วทุกสารทิศ นั่นคือ “4 แยกอินโดจีน” ด้วยตำแหน่งที่อยู่กึ่งกลางจุดตัดระหว่าง NSEC และ EWEC จึงเกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจจากทั้ง 4 ทิศ ภาครัฐจึงสนับสนุนให้เกิดการลงทุน มีการจัดตั้งศูนย์บริการกระจายสินค้า และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติสร้างรายได้ให้ครัวเรือนได้อีกด้วย การเดินทางช่วงที่ 2 รับช่วงต่อโดยผู้ร่วมเดินทางกลุ่มที่สอง (วันที่ 23-25 มิ.ย. 2560) ประเดิมวันแรกกับเส้นทางพิษณุโลก สู่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อข้ามแดนสู่เมืองมะละแหม่ง เมืองตากอากาศชายทะเล ประเทศพม่า ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองย่างกุ้ง เมืองหลวงประเทศพม่า ศูนย์กลางทางการค้าหลักที่สำคัญของประเทศ ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยบรรยากาศและความงดงามของสาวพม่า ณ “ตลาดสก๊อต” ก่อนที่จะส่งมอบพวงมาลัยต่อให้ร่วมเดินทางกลุ่มสุดท้าย (วันที่ 24-26 มิ.ย. 2560) ทีมงาน Auto-Thailand ได้มีโอกาศมาร่วมเดินทางกับกิจกรรม MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN ในกลุ่มที่ 2 เริ่มต้นการเดินทางวันแรกด้วยการนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพมาลงที่พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นคาราวานของเราด้วย Mazda CX-5 รุ่น 2.0 S พร้อมผู้ร่วมเดินทางอีก 3 คน เส้นทางในจากจังหวัดพิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-กำแพงเพชร โดยรวมแล้วเป็นเส้นทางเรียบขับขี่กันแบบสบายๆ ทำความเร็วได้ตามสมควร ก่อนมาแวะรับประทานอาหารที่แม่สอด ซึ่งเส้นทางจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็สามารถผ่านมาได้ด้วยสมรรถนะของช่วงล่าง SKYACTIV หลังจากนั้น เดินทางมุ่งสู่สะพานข้ามแม่น้ำเมย เพื่อข้ามไปเมืองเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของพม่า โดยหลังจากเสร็จพิธีการแล้วเดินทางต่อสู่เมืองเมียวดี โดยเราจะต้องเปลี่ยนการขับขี่ โดยวิ่งเลนขวาที่ต่างจากบ้านเรา และตลอดเส้นทางก็จะมีรถท้องถิ่นวิ่งสวนมาเป็นระยะ รวมถึงบางช่วงก็ต้องมีการแซงรถท้องถิ่น ซึ่งก็ทำให้ได้สัมผัสกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่มีมาแบบพอใช้ได้ทุกสถานการณ์ เดินทางต่อเขาสู่รัฐมอญ ด้วยสภาพเส้นทางที่ดีบาง ขุรขระบาง เพื่อมุ่งหน้าสู่ที่พักในเมืองมะละแหม่ง เป็นอันจบการเดินทางในวันแรกกับระยะทาง 400 กว่ากม. กับ Mazda CX-5 2.0S เริ่มวันที่สองของการเดินทาง ทีมงาน Auto-Thailand ได้เปลี่ยนรถทดสอบมาเป็น Mazda2 รุ่น 1.3 High Plus แบบ 4 ประตู กับสมาชิกเท่าเดิม 4 คน ที่ดูแล้วเป็นอะไรที่ท้าทายกับการเดินทางในครั้งนี้ ออกเดินทางจากเมืองมะละแหม่ง มุ่งหน้าสู่เมืองย่างกุ้ง ที่ตลอดเส้นทางต้องเจอกับสภาพเส้นทางที่ดีบาง ขุรขระบางเช่นเคย แถมด้วยการเจอฝนตกเกือบตลอด และในช่วงเข้าเมืองที่มีการจราจรที่คับคั่งทั้งรถเล็กรถใหญ่ ทำให้ต้องใช้ความคล่องตัวของ Mazda 2 และพลังกำลังจากเครื่องยนต์ที่เรียกว่าในทริปนี้ได้พิสูจน์เลยว่า เครื่องยนต์แค่ 1.3 ลิตร สามารถใช้เดินทางไกลๆ กับผู้โดยสารชายตัวใหญ่ 4 คน ได้แบบเกินคาด และเมืองเดินทางถึงเมืองย่างกุ้งก็ได้มีโอกาศไปสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง สิ่งศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองของพม่า เป็นอันจบทริปการเดินทางของเราในกลุ่ม 2 กับ Mazda DNA SkyActiv Caravan โดยในวันนี้ขับกันมาด้วยระยะทางกว่า 300 กม. ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครบทุกคัน สำหรับการเดินทางในช่วงสุดท้าย คือ สมาชิกกลุ่มที่ 3 ก่อนรับภารกิจครั้งนี้ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า ที่แม้แต่คนไทยยังต้องดั้นด้นไปไหว้ขอพร เริ่มต้นที่วัดเจ๊าทัตยี พระนอนองค์ใหญ่ที่ตาหวานที่สุด, พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง และเจดีย์โบดาทาวน์ หรือ วัดเทพทันใจ หลังจากอิ่มบุญก็เริ่มภารกิจนำทัพ MAZDA DNA SKYACTIV กลับสู่ประเทศไทย ผ่านด่านแม่สอด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครถือเป็นอันเสร็จสิ้นสุดภารกิจ พร้อมกับการกลับมารวมตัวของผู้ร่วมเดินทางเพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของเส้นทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN ณ ร้านอะเบาท์ฮิพ (About Hip) บนถนนประชาชื่น