บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด นำรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย ฮุนไดเอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ รุ่นใหม่ล่าสุด มาจัดแสดงในงาน รวมถึงรถสปอร์ตแฮทช์แบ็ค ฮุนได เวลอสเตอร์ ที่กำลังจะกลับมาทำตลาดรถสปอร์ตในประเทศไทยอีกครั้ง
งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 จัดขึ้นภายใต้แนวคิดใหม่ “โลดแล่นทันใด ทะยานไปด้วยกัน” ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี
มร.โตชิฮิเดะ อาโนะ ประธานบริษัทฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) กล่าว “อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายเติบโตที่ดีซึ่งน่าจะเป็นผลต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ทำให้เราเห็นอัตราการเติบโตในหน่วยสองหลัก อย่างไรก็ตามด้วยดูเหมือนว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้ลดน้อยลง แต่เราก็หวังว่าสถานการณ์จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นเราก็น่าจะเห็นยอดขายรวมเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อจบปีนี้”
“ถึงแม้ว่าตลาดอุตสาหกรรมในปีนี้จะไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่านมา แต่เมื่อดูจากยอดขายของรถยนต์บางกลุ่ม จะเห็นว่าตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่เติบโตขึ้นถึง 13 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยอดขายรวมของฮุนไดนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนตุลาคมเติบโตเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพื่อที่จะทำให้เราเติบโตต่อเนื่องต่อไป เราก็จะต้องสร้างความตื่นเต้น เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด และยอดขาย” มร.อาโนะ กล่าว
“ภายในงานนี้ เรานำรถยนต์ฮุนได แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ และ เอช-วัน โฉมใหม่ปี 2020 มาจัดแสดงเป็นครั้งแรก ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบใหม่และเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาความพรีเมี่ยมและความน่าเชื่อถือของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้เรายังนำรถสปอร์ตแฮทชแบ็คในตำนานอย่าง ฮุนได เวลอสเตอร์ เทอร์โบ กลับมาให้ผู้บริโภคได้สัมผัสในงานกันอีกครั้ง ซึ่งเมื่อดูจากยอดขายในต่างประเทศแล้ว เราเชื่อว่ารถสปอร์ตแฮทชแบ็ครุ่นนี้จะกลับมาได้รับความนิยมบนถนนในเมืองไทยอีกครั้ง เพราะรถทุกรุ่นที่ฮุนไดพัฒนา ล้วนแล้วแต่นำเอกลักษณ์ “โมเดิร์นและพรีเมียม” มาประกอบให้เห็นอย่างชัดเจน”
ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ โฉมใหม่ปี 2020 ได้รับการปรับเปลี่ยนทั้งภายในและภายนอก เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมการขับขี่ที่สะดวกสบาย, ระบบความบันเทิงและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ได้เพิ่มการรองรับระบบ Apple CarPlay จอ LCD ติดเพดานขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB, HDMI และ Mirror Link สำหรับรุ่นแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ มีช่องต่อ USB, HDMI และ Mirror Link ที่เคาน์เตอร์บันเทิงเพื่อรองรับความสะดวกสบายในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อความบันเทิงด้วยเช่นกัน รวมถึงระบบช่วงล่างใหม่เพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายและช่องจ่ายไฟ USB สำหรับชารจ์อุปกรณ์ระหว่างเดินทางได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นได้รับการปรับโฉมด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมชุดแต่งรอบคัน, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) รวมถึงล้ออัลลอยลายใหม่ ที่สะท้อนถึงความเป็นพรีเมี่ยมของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี
เฉพาะในรุ่น เอช-วัน อิลีท มาพร้อมสีใหม่ เทาเข้ม สตีล กราไฟต์ และเพิ่มสีดำ ไทม์เลส แบล็ค ในรุ่นเอช-วันทัวริ่งอีกด้วย และเพื่อเป็นการสนับสนุนการขาย ฮุนไดเอช-วัน และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ จะยังคงราคาเดิมไว้โดย รุ่นเดอลุกซ์ ราคา 1,729,000 บาท, อิลีท ราคา 1,529,000 บาท และทัวริ่ง ราคา 1,329,000 บาท แกรนด์สตาร์เร็กซ์ พรีเมี่ยม ที่ราคา 2,399,000 บาท ส่วนรุ่นวีไอพีราคา 2,349,000 บาท
ในส่วนของรถยนต์ไฮไลท์ อีกหนึ่งรุ่นที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ ได้แก่ ฮุนได เวลอสเตอร์ เทอร์โบ รถสปอร์ตแฮท์ชแบ็คที่มอบความสนุกสนานในการขับขี่และกำลังได้รับการกล่าวถึงกันอย่างแพร่หลายในเวลานี้
ฮุนได เวลอสเตอร์ ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด ผสมผสานการดีไซน์แบบสปอร์ตคูเป้ให้มีความคล่องตัวสูง ด้วยการเพิ่มประตูด้านข้างสำหรับผู้โดยสารด้านหลังแบบ 2+1 ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังขึ้น-ลงรถได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้านหน้ารถตกแต่งด้วยไฟหน้าแอลอีดี และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime running lights) ที่ช่วยให้กระจังหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมช่องดักลมบริเวณกระจังหน้าช่วยลดแรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์และดีไซน์ที่ดูสปอร์ตดุดัน ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้วพร้อมฝาครอบดุมล้อดีไซน์พิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น แนวหลังคาถูกออกแบบให้ลาดลงเป็นคุณลักษณะสำคัญของรถสปอร์ตคูเป้ ด้านท้ายติดตั้งดิฟฟิวเซอร์เพื่อให้อากาศไหลผ่านตัวรถได้สะดวก ไฟท้ายแบบ LED ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมได้อย่างแท้จริง หลังคาโทนสีเข้มตัดกับสีภายนอกของตัวรถช่วยให้ดูสปอร์ตและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ภายในตัวรถถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด โดดเด่นไม่เหมือนใคร เน้นความคล่องตัวในการใช้งานของผู้ขับขี่เป็นหลัก
ฮุนได เวลอสเตอร์ เทอร์โบ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ไดเร็คอินเจคชั่น 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์แบบดูอัลคลัทช์ 7 สปีด สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้ที่พวงมาลัย โดยใช้ระบบควบคุมเกียร์แบบ SHIFTRONIC ในรุ่นเทอร์โบผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 แบบตามความต้องการ ได้แก่ Normal, Sport, Smart และEco
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ทำงานร่วมกับโช้คอัพแก็ส เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและควบคุมการทรงตัวได้ดีในการขับขี่
ฮุนได เวลอสเตอร์ มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Blind Spot Warning Detection), ระบบช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวด้านหลังตัวรถ (Rear Cross Traffic Alert) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เสริมความมั่นใจด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า,ด้านข้าง (เบาะคู่หน้า),และม่านถุงลมนิรภัย ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเบรคเพื่อความปลอดภัย ได้แก่ ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS), ระบบเสริมแรงเบรก (BA) และ ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
ฮุนได เวลอสเตอร์ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงข้อมูลและอุปกรณ์ความบันเทิงได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารผ่านหน้าจอสัมผัสแบบคมชัดขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งานระบบ Android Auto และ Apple CarPlay พร้อมลำโพงเสียงคมชัด 6 ตำแหน่ง บริเวณกระจกหน้าติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Heads-Up Display ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบข้อมูลสำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
สีภายนอกของฮุนได เวลอสเตอร์ เทอร์โบ เป็นแบบทูโทน หลังคามีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ แฟนทอม แบล็ค และสีดำ ดาร์ค ไนท์ ตัวถังรถมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ ฟ้า โคบอลต์ อิคลิปส์, เงิน เลค ซิลเวอร์, ส้ม แทงเจอรีน คอมเม็ท, ขาว ชอล์ก ไวท์, เทา สเปซ เกรย์, เหลือง ธันเดอร์ โบลท์, ดำ ดาร์ค ไนท์ และ แดง อิกไนท์ เฟลม
พบข้อเสนอพิเศษ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง เป็นเวลา 1 ปีเมื่อซื้อรถยนต์ฮุนไดทุกรุ่นในงาน และรับข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ฮุนไดไอออนิค และฮุนไดโคน่า ฟรี รับประกันคุณภาพนาน 3 ปี และประกันคุณภาพแบตเตอรี่นาน 8 ปี
ลูกค้าที่สนใจสามารถเยี่ยมชมและทดลองขับได้ที่บู้ธรถยนต์ฮุนได ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.hyundai.co.th