บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกาศนำยนตรกรรมหลากหลายรุ่นทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตและจำหน่ายในตลาด และผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จัดแสดงในงานโตเกียว มอเตอร์ โชว์ 2017 ครั้งที่ 45 จัดขึ้นที่โตเกียวบิ๊กไซท์ ประเทศญี่ปุ่น ในปีนี้ บูธของฮอนด้าทั้งหมดนำเสนอภายใต้แนวคิด “เพิ่มศักยภาพในการเดินทางและการใช้ชีวิตของผู้คน” ผ่านผลิตภัณฑ์แห่งการเคลื่อนที่ โดยไฮไลต์ของบูธฮอนด้าในปีนี้อยู่ที่การเผยโฉมรถต้นแบบ 4 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า สปอร์ต อีวี คอนเซ็ปต์ (Honda Sports EV Concept) ครั้งแรกของโลกในงานนี้ ฮอนด้า สปอร์ต อีวี คอนเซ็ปต์ มุ่งเน้นการสร้างความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวกับรถ ผสมผสานระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างลงตัว รถยนต์ต้นแบบรุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ (Honda Urban EV Concept) ด้วยดีไซน์โครงสร้างตัวถังอันเป็นเอกลักษณ์ แผงหน้าปัดด้านหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และรูปลักษณ์ภายนอกโค้งมน จึงเป็นยนตรกรรมสปอร์ตแห่งอนาคตที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจ และสร้างความผูกพันทางอารมณ์ในการครอบครองเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ • ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ (Honda Urban EV Concept) (เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น) ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ ได้รับการออกแบบแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาใหม่สำหรับยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น นับเป็นแนวทางการออกแบบยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้ารุ่นที่จะผลิตและจำหน่ายในอนาคต ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดคอมแพคท์ จึงเหมาะกับการขับขี่ในเมือง และการออกแบบที่เรียบง่าย จึงมอบ “ความสุขในการขับขี่ได้อย่างมีชีวิตชีวา” (Joy of Lively Driving) และเป็น “เพื่อนร่วมทางที่สร้างความผูกพัน” (Friendliness that inspires attachment) กับลูกค้าผู้เป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ ยังรองรับการสื่อสารระหว่างคนกับรถ ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และจอแสดงผลด้านหน้าของรถ ที่สามารถแสดงข้อความและทักทายผู้คนได้ • ฮอนด้า นิววี (Honda NeuV) (เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น) ฮอนด้า นิววี เป็นรถยนต์ต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และเป็นการผสานฟังก์ชั่นการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างลงตัว โดย NeuV สามารถตรวจจับสภาวะทางอารมณ์ของผู้ขับได้ โดยประมวลผลจากการแสดงออกทางสีหน้า และน้ำเสียง แล้วจึงเลือกฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ NeuV ยังสามารถเรียนรู้ไลฟ์สไตล์และความชอบของผู้ขับ และสามารถนำเสนอทางเลือกต่างๆ ให้กับผู้ขับ ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ จึงนับเป็นการเชื่อมต่อการสื่อสารกันระหว่างคนกับรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ NeuV ยังเป็นรถขับเคลื่อนอัตโนมัติที่สามารถแบ่งปันการใช้งานกับผู้อื่นได้ด้วย ในกรณีที่เจ้าของรถไม่ได้ใช้งานและเจ้าของรถอนุญาต • รถจักรยานยนต์ที่มีระบบช่วยการทรงตัว (Honda Riding Assist-e) (เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก) Honda Riding Assist-e ได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัว อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ที่ได้วิจัยกับหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ รถจักรยานยนต์ที่มีระบบช่วยการทรงตัวนี้ สามารถทรงตัวอยู่ได้เอง แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ เพื่อช่วยลดการแบกรับน้ำหนักของผู้ขับขี่ รถจักรยานยนต์รุ่นนี้จึงขับขี่ได้ง่าย และทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสนุกมากยิ่งขึ้น Honda Riding Assist-e ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นอีกก้าวของฮอนด้า ตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้าง “ความสุขในการเดินทางให้กับผู้คน” (Enjoying the Freedom of Mobility) และ “การเป็นสังคมที่สะอาดปราศจากมลพิษ” (carbon-free society) ฮอนด้า คลาริตี้ ซีรี่ย์ ยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ฮอนด้า คลาริตี้ เป็นยนตรกรรมรุ่นแรกที่นำเสนอระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในหลายรูปแบบ ทั้งพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (battery electric) และพลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (plug-in hybrid) โดยได้รับการติดตั้งในรถซีดาน 5 ที่นั่ง ระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมความหรูหรา และห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ฮอนด้า คลาริตี้ ซีรี่ย์ มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ คลาริตี้ ฟิวเซลล์ รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2559 และอีก 2 รุ่น ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 2560 ได้แก่ คลาริตี้ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และคลาริตี้ อิเล็คทริค ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ (เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น) ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมเอสยูวีที่ให้สมรรถนะการขับขี่เหมือนรถซีดาน รองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย และเป็นยนตรกรรมเอสยูวีที่ครองใจลูกค้ากว่า 160 ประเทศทั่วโลก โดย ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5 นี้ เป็นยนตรกรรมไฮบริดรุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งระบบ SPORT HYBRID i-MMD (Intelligent Multi-Mode Drive) ที่มีระบบไฮบริดแบบ 2 มอเตอร์ ในรุ่นที่ขับเคลื่อนล้อหน้า และรุ่นที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ ภายในห้องโดยสารสะดวกสบายด้วยเบาะนั่ง 3 แถว ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย Honda SENSING เป็นมาตรฐานสำหรับทุกรุ่น ในโซนของรถจักรยานยนต์ในปีนี้ หนึ่งไฮไลท์สำคัญและได้รับการจับตามองจากสื่อมวลชนทั่วโลก นั่นคือ การเปิดตัว “ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ไฮบริด” (Honda PCX Hybrid) รถจักรยานยนต์ออโตเมติก หรือ เอ.ที.ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังลูกผสม ประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะพลิกโฉมโลกแห่งการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน และ “ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ อิเล็กทริค” (Honda PCX Electric) หรือ อีวี (EV) เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ฮอนด้า นีโอ สปอร์ต คาเฟ่ คอนเซปต์ (Honda Neo Sports Cafe Concept) ฮอนด้า นีโอ สปอร์ต คาเฟ่ คอนเซปต์ เป็นรถต้นแบบ ที่ผสมผสานความเป็นสปอร์ตอย่างแท้จริง มาพร้อมความสวยงามและการขับขี่ที่สนุกสนาน สมกับเป็นรถจักรยานยนต์สปอร์แนวใหม่อย่างแท้จริง ฮอนด้า ซูเปอร์ คับ ซี110 (Honda Super Cub 110) รุ่นฉลองยอดขายสะสม 100 ล้านคัน ซูเปอร์ คับ ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้ว โดยได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกมานับตั้งแต่นั้น และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายมาอย่างยาวนานที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮอนด้าทั้งหมด สำหรับในครั้งนี้ นอกจากรุ่นซีรีย์ ซูเปอร์ คับ ที่ฮอนด้าได้แนะนำไปแล้วในอดีตนั้นฮอนด้าพร้อมนำเสนอรถจักรยานยนต์ซูเปอร์ คับ รุ่นใหม่ อาทิ ครอส คับ (Cross Cub) และรุ่น 125 ซีซี ฮอนด้า มังกี้ คอนเซปต์ (Monkey 125 Concept) ฮอนด้า มังกี้ คอนเซปต์ 125 ซีซี มาพร้อมตัวถังที่คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตระกูลมังกี้ โดยออกแบบให้ขนาดกระทัดรัดและช่วงรถสั้น ฮอนด้า มังกี้ คอนเซปต์ 125 ซีซี ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการติดตั้งไฟ LED หน้าปัดดิจิตอลเพื่อเป็นรถของวันนี้อย่างแท้จริง ฮอนด้า โกลด์วิง (Honda Gold Wing) รถจักรยานยนต์รุ่นหลักของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2518 ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละยุค ในปีนี้ ฮอนด้าจะปรับโฉมโกลด์วิงใหม่อย่างเต็มรูปแบบมาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงเครื่องยนต์ 6 สูบนอน, DCT 7 สปีด และระบบกันสะเทือนแบบ Double Wishbone นอกจากนี้ ฮอนด้ายังได้เข้าร่วมการจัดแสดงในงาน “TOKYO CONNECTED LAB 2017” ภายในงานโตเกียว มอเตอร์ โชว์ อีกด้วย เพื่อส่งเสริมแนวคิด “การใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น” (Spend more time with family) โดยจัดแสดงนวัตกรรมเพื่อการเคลื่อนที่ เช่น “ฮอนด้า อิเอะ-โมบิ คอนเซปต์” (Honda Ie-mobi Concept) (อิเอะ เป็นคำภาษาญี่ปุ่น หมายถึง บ้าน) ที่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อกับครอบครัว