เริ่มเปิดงานไปแล้วอย่างเป็นทางการกับงานแสดงรถยนต์ "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์" ครั้งที่ 34 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2556 ที่เมืองทองธานี โดยในงานนี้มีค่ายรถยนต์ที่ต่างนำเอานวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่ๆมาโชว์ และพร้อมกับการจัดแคมเปญพิเศษกับรถยนต์หลากหลายรุ่น
สำหรับไฮไลต์รถยนต์รุ่นใหม่ที่ทางค่ายรถต่างๆ นำมาโชว์ในงาน "บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ " ครั้งที่ 34 ขอนำเสนอเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะมาชมของจริงกันด้วยตัวเอง
รวมแคมเปญ มอเตอร์โชว์ 2013
https://www.auto-thailand.com/hotnews/campaign-motorshow-2013.html
Mercedes-Benz Concept Style Coupe
เมอร์เซเดส-เบนซ์ คอนเซ็ปต์ สไตล์ คูเป้ (Mercedes-Benz Concept Style Coupe) เป็นยนตรกรรมที่ฉีกกฎเซ้กเมนต์ คอมแพ็กต์คาร์แบบเดิม ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ในสไตล์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู แสดงออกถึงพลังแห่งความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว ทรงพลังในทุกอณู ด้วยมุมมองด้านข้างที่ดึงดูดสายตาด้วยแนวเส้นที่เฉียบคม 3 เส้น ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว อิสระ
รวมถึงหลังคาแบบพาโนรามิก ส่วนกระจังหน้าเป็นแบบ diamond grill ที่นำมาจาก Concept A-Class ยังคงความดุดันประกอบกับดีไซน์ฝากกระโปรงที่ดูเฉียบคมและโคมไฟหน้าใหม่ที่มีความงดงามในทุกมิติ และดูราวกับดวงตาของนักล่า บวกกับความตกแต่งภายในที่โดดเด่นด้วยแผงคอนโซลด้านหน้าที่บุด้วยหนังนูบัคสีขาว ตัดกับผิวของแผงหน้าปัดเคลือบผิวด้วยวัสดุผสม Alcantara ขณะที่รูปทรงของช่องปรับอากาศที่อยู่บนแผงคอนโซลถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายเครื่องยนต์ไอพ่นขนาดเล็ก


ขณะเดียวกันยังมีระบบ COMAND Online ที่ได้เพิ่มนวัตกรรมใหม่ cloud computing ที่สามารถประมวลผลอิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดย Concept Style Coupe มาพร้อมกับเครื่องเบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยระบบไดเร็กอินเจ็กชั่นและเทอร์โบชาร์จ ที่พัฒนาให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 155 กิโลวัตต์/211 แรงม้า
เมอร์เซเดส-เบนซ์ คอนเซ็ปต์ สไตล์ คูเป้ใช้ระบบส่งกำลังแบบคลัตช์คู่เดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT) และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โดยล่าสุด Concept Style Coupe เพิ่งได้รับรางวัล “iF product design award 2013” ซึ่งเป็นรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมระดับโลก ซึ่งเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์รับรองงานออกแบบที่สำคัญและตอกย้ำความสำเร็จ รวมถึงความโดดเด่นในผลิตภัณฑ์
Concept Car – Toyota FCV-R
การเปิดตัว Concept Car อย่าง Toyota FCV-R ระบบ fuel cell เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนแตกต่างออกไปจากการเปิดตัว Concept Car โดยทั่วไปที่มักจะต้องการโยนหินถามทางหรือใช้เวลาในการวิจัยพัฒนาก่อนที่จะมีการตัดสินใจว่าจะผลิตออกมาจำหน่ายหรือไม่ เพราะในงาน Tokyo Motor Show ครั้งนี้ Toyota ได้ทำการบ้านมาเรียบร้อยว่า Concept Car รุ่นนี้มีโอกาสเกิดแน่นอนพร้อมยืนยันว่าจะมีการเปิดตัวรุ่น production ของ FCV-R ภายในปี 2015

ระบบ Fuel Cell จะมีการติดตั้งอยู่ใต้ตัวรถที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับการรองรับผู้โดยสารได้ 4 คน รวมถึงการจัดเก็บสัมภาระด้วย ระบบดังกล่าวประกอบด้วยถังไฮโดรเจนแรงดันสูงขนาด 70 เมกะปาสคาล ที่สามารถขับเคลื่อน FCV-R ให้วิ่งไปได้ไกลสูงสุดประมาณ 700 กิโลเมตร นอกจากรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายคลึงกับ Prius แต่ทันสมัยกว่า มิติตัวถังยังใกล้เคียงกันอีกด้วยคือ ยาว 4,745 มิลลิเมตร กว้าง 1,790 มิลลิเมตร และสูง 1,510 มิลลิเมตร โดยมีระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ทำให้มีความเป็นไปได้ว่ารถทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกันในการสร้าง ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไป
Concept Car – Toyota Fun Vii
หากพูดถึงรถยนต์รุ่นใหม่แปลกๆ ที่นำเสนอบนเวทีในงาน Tokyo Motor Show 2011 นั้น คงไม่มีรถอะไรที่จะพิลึกไปกว่าผลงานล่าสุดจากค่าย Toyota ที่มีวิสัยทัศนกว้างไกลเกี่ยวกับโลกยานยนต์อย่างล้ำลึกจนคุณอาจจะคาดไม่ถึง
ลองคิดดูง่ายๆว่า ถ้ารถคันหนึ่งสามารถตามใจผู้ใช้ได้มากกว่าที่เคยในการแสดงทั้งอารมณ์ความรู้สึก ตลอดจนยังเป็นมิตรต่อผู้ใช้ง่ายยิ่งขึ้นไม่ต่างอะไรจากโทรศัพท์มือถือที่สามารถสนองตอบได้มากยิ่งขึ้น และดียิ่งขึ้นทุกวัน แน่นอนมันคงจะดีใช่น้อยและมันถูกถ่ายทอดสู่ Toyota Fun Vii คอนเซ็ปต์คาร์ใหม่ล่าสุด ที่อาจจะเรียกได้เต็มปากว่า มันคือ “สมาร์ทโฟนติดล้อ”

Toyota Fun Vii นั้นเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดของ Toyota ที่มองถึงยานยนต์ในอนาคตที่น่าจะสามารถสนองตอบต่อผู้ใช้งานได้ ไม่เพียงแค่ในเรื่องการขับขี่ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของรถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการที่สามารถแสดงสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับผู้ใช้ นำส่วนความเป็นส่วนตัวสู่สาธารณะ
ตัวรถทั้งคันนั้นเป็นจอภาพขนาดใหญ่ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบที่ล้ำหน้า แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจของผู้ใช้ตามต้องการเช่นเดียวกับสามารถแสดงข้อความหรือตัวอักษรเพื่อตอบสนองผู้ใช้ได้ เช่นเดียวกันภายในถูกออกแบบให้มีจอภาพขนาดใหญ่ และห้องโดยสารสามารถปรับได้ตามต้องการตามอารมณ์ของผู้ใช้ และตัวรถนั้นสามารถเชื่อมต่อกับรถคันอื่นๆ รวมถึงโครงสร้างระบบจราจร คอยดูแลในการขับขี่ให้ปลอดภัย และสื่อสารระหว่างรถด้วยกัน รวมถึง ยังอัพเดทระบบซอฟท์แวร์ของรถได้เองเพิ่มสมรรถนะการใช้งาน
ทั้งนี้ Toyota Fun Vii คืออีกหนึ่งไอเดียแปลกๆในการตอบสนองโลกอนาคตที่เราอาจจะได้เห็นรถยนต์คันนี้ที่สามารถตอบสนองสิ่งต่างๆของผู้ใช้ให้รุดหน้า แต่คงต้องยอมรับว่ายังอีกนานกว่ามันจะเป็นจริง
Chevrolet Concept 130R
รถต้นแบบ เชฟ โรเรต 130 อาร์ เป็นคูเป้แบบสี่ที่นั่ง มีเส้นสายการออกแบบที่เรียบง่าย ตัวถังใช้สีแดงเมทัลลิก สลับด้วยล้อสีทองอโนไดซ์แบบด้าน มาพร้อมกับสไตล์ที่ตกทอดมาจากอดีต โดยเน้นสมรรถนะการขับขี่และใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ด้านหน้าเปี่ยมด้วยความดุดัน ซุ้มล้อมีขนาดใหญ่สไตล์เชฟโรเลต ดัวถังด้านข้างดีไซน์แนวตรง และประทับตราธงไขว้ เอกลักษณ์ของเชฟวี่ ทั้งนี้ 130 อาร์ เน้นการเชื่อมโยงกับสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมของเชฟโรเลต ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน

ทีมนักออกแบบคิดว่าขุมพลังขับเคลื่อนที่เหมาะสมกับ 130 อาร์ คือเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จที่ถูกปรับแต่งให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี eAsist รถยนต์ต้นแบบรุ่นนี้ยกระดับยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ก้าวไปอีกระดับ ด้วยการติดตั้งระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ เมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบคืนพลังงานขณะเบรกและมีแรงบิดที่ไหลลื่นต่อเนื่องเมื่อเหยียบคันเร่ง ขณะเดียวกัน ยังรักษาสมดุลของพละกำลังจากเทอร์โบและอัตราความประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างลงตัว
เชฟโรเลต ทรู 140 เอส
เป็นรถต้นแบบอีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลต เป็นรถสไตล์แฮตช์แบ็กสามประตู สี่ที่นั่ง ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ารังสรรค์ด้วยแนวคิด “รถสุดสปอร์ตที่ใครก็เป็นเจ้าของได้” มาพร้อมกับตัวถังสีขาวแบบด้าน ล้อโครเมียมประทับตราธงไขว้ของเชฟวี่เช่นกันทรู 140 เอส ได้รับการออกแบบให้อัดแน่นด้วยความมั่นใจ มีความสปอร์ตเต็มพิกัด ดูดีมีราคาและพร้อมทะยานไปด้วยความเร็ว โดยพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเชฟโลเรต ครูซ และเชฟโรเลต โวลต์ รถพลังงานไฟฟ้าขยายระยะทางขับเคลื่อนอันล้ำสมัย

นักออกแบบของทรู 140 เอส ต้องการแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่พบได้เฉพาะในรถราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นระบบหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่นและเทคโนโลยีสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ที่ใช้ตัวสตาร์ทเตอร์ระบบสันดาปภายในที่สมดุล รวมถึงระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มอบความคุ้มค่าและประหยัดเชื้อเพลิง
สำหรับรถต้นแบบทั้ง 2 รุ่น ของเชฟโรเลต พัฒนาจากความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อรถที่มีอายุน้อย ที่อยากมีเอกลักษณ์เป็นรถคูเป้ สมรรถนะสูง รองรับผู้โดยสารสี่ที่นั่ง ตอบสนองการใช้งานเหมือนกับรถซีดาน มีระบบเชื่อมต่อและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างหน่วยความจำ WiFi รองรับสมาร์ทโฟนผ่านอินโฟเทนเมนต์ เชฟโรเลต มายลิงค์ (Chevrolet MyLink) และการแสดงผลขึ้นบนกระจกหน้า และเครื่องยนต์อีโคเทค (Ecotec) ความจุ 1.4 ลิตร เทอร์โบ มีพละกำลังสูงสุดราว 150 แรงม้า
Nissan Ellure Concept Car
นิสสัน เอลลัวร์ คอนเซ็ปต์ (Nissan Concept Style Coupe) เป็นรถต้นแบบสุดไฮเทค ล้ำยุคไปอีก ด้วยดีไซน์สวยเนียนทั้งภายนอกและหรูสุดจากภายใน ไม่ว่าใครก็คงจะต้องสะดุดตา ล่าสุดนิสสันได้เปิดเผยว่าเป็นต้นแบบของการดีไซน์ “ซิลฟี” ซึ่งเปิดตัวในตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการไปแล้ว
เอลลัวร์ เป็นรถคอนเซ็ปต์ ที่ถูกผลิตภายใต้แนวคิดรถยนต์ซีดานคอมแพ็กต์สำหรับผู้หญิงที่ต้องการความสวยงาม โดดเด่น โฉบเฉี่ยว เช่นเดียวกับความดูดีแบบรถหรู และดูดุดันแบบรถอเนกประสงค์ที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด

รถรุ่นนี้เป็นผลงานการออกแบบของทีมออกแบบฝั่งนิสสัน อเมริกา (Nissan America) ที่ต้องการฉีกแนวการออกแบบจากระบบโดยสิ้นเชิง และทำมันตามจินตนาการ โดยที่ไม่ทิ้งไลน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย และยังมีเป้าหมายเฉพาะพิเศษ ที่ต้องลงตัวในความดูดี ไฮเทค แตกต่าง และที่สำคัญ ไม่ซ้ำใคร
ความแปลกของคอนเซ็ปต์คาร์คันนี้อยู่ที่ด้านข้าง ที่สลัดเส้นสายสปอร์ตแบบเก่าทิ้งไป แล้วแทนที่การออกแบบแนวใหม่ ที่เน้นให้ความพริ้วไหว โดยเฉพาะช่วงซุ้มล้อหน้า ที่เส้นตัวถังถูกทำให้มันดูเหมือนรถขับเคลื่อนตลอดเวลา แม้ยามหยุดนิ่ง
สิ่งที่แหวกแนวที่สุดคือ เส้นด้านข้างที่ลากผ่านประตูทั้ง 4 บานในการออกแบบแนวใหม่ที่ผสานความสปอร์ตแบบรถคูเป้ ด้วยการนำแนวคิด Utility cab มาใช้ ทำให้รถรุ่นนี้มีเอกลักษณ์ของกระบะของค่ายติดมา
MITSUBISHI Concept G4
มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ G4 เป็นรถต้นแบบของรถเก๋งขนาดเล็ก ซึ่งมิตซูบิชิมีแผนที่จะผลิตและจำหน่ายไปทั่วโลก มิตซูบิชิ คอนเซ็ปต์ G4 ได้รับการออกแบบโดยใช้แนวคิดของความสว่างสดใสของเพชรมาเป็นบรรทัดฐานสำหรับการออกแบบกระจังหน้า รวมไปถึงไฟหน้าและชุดไฟท้าย เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับตัวรถจากหน้าจดท้าย

คอนเซ็ปต์ G4 มาพร้อมกับความโดดเด่นของรถยนต์นั่งขนาดเล็กเจเนอเรชั่นใหม่จากองค์ประกอบ การออกแบบส่วนหน้าให้สั้นลง ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่และง่ายต่อการควบคุม สง่างามและได้สัดส่วนจากมุมมองด้านข้าง ซึ่งให้ความสมดุลระหว่างพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างที่สุดในรถระดับเดียวกัน กับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ รวมทั้งเส้นสายข้างตัวรถที่ปราดเปรียวจากด้านหน้าไปหลัง
ขณะเดียวกัน ยังให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดในรถระดับเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างตัวถังแบบ RISE body ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาจากโครงสร้างเหล็กความแข็งแรงสูง High tensile steel การขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์น้ำหนักเบาขนาด 1.2 ลิตร MIVEC พร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ CVT นอกเหนือไปจากเทคโนโลยีการลดน้ำหนักของตัวรถ
MITSUBISHI Concept GR-HEV
มิตซูบิชิ คอนเซปต์ GR-HEV เป็นรถต้นแบบของรถกระบะที่ให้ทั้งความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะในการขับขี่จากระบบดีเซล-ไฮบริดแบบ FR (ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา) ในรถกระบะ ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดเศรษฐกิจใหม่

รถต้นแบบรุ่นนี้โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลพลังงานสะอาด ที่ให้การประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ทำงานร่วมกับมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่ให้กำลังสูง ทำให้รถยนต์ระบบไฮบริดพลังงานไฟฟ้า (HEV) ให้ค่าการปล่อยมลพิษต่ำกว่า 149 กรัมต่อกิโลเมตร และทำให้เป็นรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุดในรถระดับเดียวกันสำหรับต้นแบบ มิตซูบิชิ คอนเซปต์ GR-HEV ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งติดตั้งระบบ Super Select 4WD ที่มีอยู่ในรุ่นปาเจโร และระบบ Super All Wheel Control (S-AWC) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและให้สมรรถนะสำหรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี คลาส (Mercedes-Benz E Class)
ไฮไลต์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปีนี้คือ การเปิดตัว The new E-Class สุดยอดยนตรกรรมหรูซีดานให้คนไทยได้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในอาเซียน ได้แก่ E 200 Executive, E 300 BlueTEC HYBRID Executive และ E 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ทั้งเบนซินและดีเซลไฮบริดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BlueTEC HYBRID ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถยนต์พรีเมี่ยมในไทย พร้อมระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเตือนการขับรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Assist) จะช่วยปกป้องจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการขับข้ามเลน ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นรถยนต์ที่ขับขี่ปลอดภัยอย่างชาญฉลาดหรือ intelligent drive

นอกจากนั้นยังเตรียมพบกับรถอีกมากมายหลายรุ่นที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมมาให้ได้ชม ไม่ว่าจะเป็นตระกูล C-Class, E-Class, S-Class และรถนำเข้ารุ่นอื่นๆ อาทิ C 180 Coup?, M-Class, SLK 200, CLS Coup?, CLS Shooting Brake, Viano และ Vito รวมทั้ง The new A-Class คอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ ได้แก่ A 180 Style และ A 250 AMG Sport รวมถึงทางเลือกใหม่สำหรับคอมแพ็คคาร์แบบสปอร์ตที่มีให้เลือกทั้ง B 200 Sport และ B 180 Sport ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู ไฮบริด (BMW HyBrid)
“บีเอ็มดับเบิลยู” ยกทัพรถหรูไฮบริด 8 รุ่น ครบไลน์ผลิตภัณฑ์หลัก BMW ActiveHybrid 3/5/7L มาพร้อมประสิทธิภาพแห่งการประหยัด โดยรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่แนะนำสู่ตลาดไทย มาครบไลน์ผลิตภัณฑ์หลัก ไม่ว่าจะเป็น BMW ActiveHybrid 3/5/7L และมีให้เลือกมากถึง 8 รุ่นย่อยด้วยกัน ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ที่ได้รับรางวัล “Engine of the year” ถึง 2 ปีซ้อน

นอกจากนี้ยังรุ่นเครื่องยนต์ BMW 7 Series LCI ไฟหน้าแบบ LED แบบปรับอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ยามค่ำคืนโดยไม่รบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่น ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยม หน้าจอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อแสดงผลในการขับขี่ด้วยโหมดต่างๆ ที่เลือกได้ รวมทั้ง ECO PRO โดยมีให้เลือก 2 รุ่น เริ่มจาก BMW 730Li ราคา 7,299,000 บาท และ BMW 730Ld ราคา 7,599,000 บาท พร้อมกันนี้ยังประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการของ BMW 320d Touring M Sport โดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ 4,099,000 บาท
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ (New Honda Accord)
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 9 มาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ เอิร์ธ ดรีม ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมี่ยม นวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ความปลอดภัยสูงสุด

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีเครื่องยนต์ทั้ง 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร รวม 5 รุ่น จำหน่ายในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,299,000 บาท ถึง1,799,000 บาท มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวออร์คิด (มุก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และมี 2 สีใหม่ คือ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีทองแชมเปญฟรอสต์ (มุก)
เชฟโรเลต สปิน (Chevrolet Spin)
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำรถรุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายอย่าง เชฟโรเลต สปิน มาอวดโฉมกันภายในงาน ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเข้ามาทำตลาดแทนที่รถรุ่นเก่าอย่าง ซาฟิร่า ที่ปลดระวางไปแล้วนานโขแต่เพิ่งจะมีตัวตายตัวแทนเข้ามาทำตลาดในเซ็กเมนต์ที่หายไปของเชฟโรเลต
เชฟโรเลต สปิน รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดรุ่นแรกใน รถระดับเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองครอบครัวคนรุ่นใหม่ และคนที่ชื่นชอบการเดินทางไปกับกลุ่มเพื่อน เบาะที่นั่งในห้องโดยสารปรับได้ 23 รูปแบบ เชฟโรเลต สปิน รุ่น LTZ มีราคาจำหน่ายที่ 762,000 บาท พร้อมเปิดให้ลูกค้าสัมผัสและจับจองเป็นเจ้าของที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต (Ford Ecosport)
ฟอร์ด เอคโค่ สปอร์ต รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็ค สไตล์สปอร์ตที่ใช้งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นเวทีแห่งการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดและเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในอาเซียน ซึ่งคาดว่าจะนำเข้ามาให้ยลโฉมกัน 2 รุ่นด้วยกัน
ฟอร์ด เอคโค่ สปอร์ต ทำตลาดมาแล้วทั่วโลก โดยเน้นรูปลักษณ์ไปที่ความหรูหราและทันสมัย ที่มาพร้อมกับความปลอดภัยด้วยม่านนิรภัยถึง 6 ใบ ถึงจะยังเป็นเพียงแค่ตัวโปรโตไทป์ แต่รุ่นไฮไลต์สำคัญก็น่าจะเป็น เอคโค่ สปอร์ต รุ่นเครื่องยนต์อีโคบูสต์ขนาด 1.0 ลิตร แม้ว่าเครื่องยนต์อีโคบูสต์ แบบ 3 สูบจะเป็นเครื่องยนต์รุ่นเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์อื่นๆ ในระดับเดียวกัน แต่ก็ให้กำลัง แรงบิด และความราบรื่นในการขับขี่ได้ดีเยี่ยม

มินิ คูเปอร์ เพสแมน (Mini Cooper Paceman)
ใครที่นิยมชมชอบรถค่ายนี้ เตรียมเงินรอได้เลย เพราะมินิ คูเปอร์ All4 Pace man มาปรากฏตัวให้เห็นกันแน่นอนในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ซึ่งรถรุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่มครอสโอเวอร์คูเป้ ดีไซน์เฉี่ยว ที่ค่อนข้างจะละม้ายคล้ายคลึงอยู่บ้างกับรุ่นพี่อย่าง คันทรีแมน ด้วยดีไซน์ที่เป็นคูเป้ 3 ประตู จึงทำให้รถดูมีอารมณ์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น หลังคาก็เตี้ยลงมาประมาณ 1.7 นิ้ว พร้อมเปลี่ยนรูปแบบแนวหลังคารถให้ลาดลงมาเพื่อเพิ่มความสวยงาม ไฟท้ายแนวต่ำกว่ากระจกหลังที่ช่วยเน้นรูปลักษณ์ที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ด้านห้องโดยสารเป็นแบบรถ 4 ที่นั่ง

ด้านของเครื่องยนต์แม้จะยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะนำตัวไหนเข้ามาจำหน่ายบ้าง แต่ถ้าหากนำมาครบทุกไลน์ ก็จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร
ปอร์เช่ เคย์แมน ใหม่ (New Porsche Cayman)
ปอร์เช่ เคย์แมน เจเนอเรชั่นที่ 3 ใหม่ล่าสุดคันนี้ เป็นอีก 1 คันที่เปิดตัวในงานนี้อย่างเป็นทางการ ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่หมดทั้งคัน ตัวรถต่ำกว่าและยาวกว่าเดิม เบาลงและรวดเร็วมากขึ้น เครื่องยนต์เต็มไปด้วยพละกำลังอย่างเต็มพิกัด ฐานล้อได้รับการขยายให้กว้างขึ้น และล้อมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้มากขึ้น ส่งผลให้เคย์แมน ใหม่ล่าสุดคันนี้เบากว่าเดิมถึง 30 กิโลกรัม และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นเดิมถึง 15% เลยทีเดียว
รุ่นเคย์แมน มีขนาดเครื่องยนต์ 2.7 ลิตร และผลิตกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 275 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ในเวลาเพียงแค่ 5.4 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 266 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำแค่เพียง 8.2 ลิตร/100 กิโลเมตร และหากท่านซื้อรถยนต์ปอร์เช่ เคย์แมน ใหม่ ภายในงาน รับราคาพิเศษ 8.99 ล้านบาทอีกด้วย

วอลโว่ V40 (Volvo V40)
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย หันมาลุยเซ็กเมนต์ใหม่มาแรงของไทย ด้วยการส่ง วอลโว่ V40 ใหม่ พรีเมี่ยมแฮตช์แบ็ก 5 ประตู มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน T5 แบบ 5 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้พลังแรง 213 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวตัน-เมตร ติดตั้งเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด สามารถเปลี่ยนเป็นการขับขี่แบบสปอร์ตเพิ่มความเร้าใจในการเดินทาง และสามารถรองรับน้ำมันได้หลากหลาย ทั้งเบนซิน 95, E10 และ E20

ส่วนการออกแบบและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มาพร้อมกับแนวคิด “Designed around You” มีความโดดเด่นใน 3 ด้าน ได้แก่ รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมีสไตล์สะดุดตา การจัดแสงภายในห้องโดยสารแบบเดียวกับในโรงละคร สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 7 โทนสีตามอารมณ์ ฯลฯ และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า ซึ่งทำให้ วอลโว่ V40 ใหม่ เป็นรถ IntelliSafe หรือรถอัจฉริยะและปลอดภัยที่สุดในตลาดเดียวกัน ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยผ่านมาตรฐานยูโร 5
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีทันสมัย ได้แก่ เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ติดตั้งระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (City Safety) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งในวอลโว่ V40 ทุกรุ่น โดยปรับปรุงใหม่ให้ทำงานครอบคลุมถึงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. (จากเดิม 30 กม./ชม.) ซึ่งระบบนี้จะหยุดรถให้เองหากคนขับไม่แตะเบรกขณะที่รถคันหน้าชะลอความเร็วหรือหยุด หรือเมื่อรถพุ่งเข้าหารถคันหน้าที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเร็วสูงเกินไป สำหรับวอลโว่ V40 ใหม่
เลกซัส IS300h (Lexus IS300h)
เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยโฉมยนตรกรรมสปอร์ตซีดานหรูระดับโลก เลกซัส IS ใหม่ ที่ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีเหนือระดับ กับสุดยอดแห่งพลังการขับเคลื่อนในระบบไฮบริดกับ IS300h ใช้เครื่องยนต์ 2.5L Hybrid System DOHC 16V VVT-i (2AR-FSE) ประหยัดพลังงานไปพร้อมกับการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยระบบไฮบริด ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ D-4S EFI ประสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงให้กำลังรวมทั้งระบบ 223 แรงม้า

ระบบการขับเคลื่อนใช้ชุดเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับสนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบเกียร์อัจฉริยะ S-Mode พร้อมตอบสนองการขับขี่ในรูปแบบของคุณได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ Normal สำหรับการขับขี่แบบปกติ Eco สำหรับความประหยัดสูงสุดแห่งการขับเคลื่อน และ Sport สำหรับการขับประสบการณ์แห่งความสปอร์ตเร้าใจ
มาสด้า CX-5 (Mazda CX-5)
มาสด้าเป็นค่ายที่ชัดเจนแน่นอนต่อแนวทางการทำตลาดที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ส่ง มาสด้า CX-5 ตัวโปรโตไทป์ เช่นเดียวกันกับค่ายพี่น้องอย่างฟอร์ด โดย CX-5 เป็นรถยนต์ของมาสด้ารุ่นแรกในโลกที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้ชมโฉมรถสปอร์ตครอสโอเวอร์แนวใหม่ที่รูปลักษณ์สวยงามที่สุด เนื่องจากถูกถ่ายทอดความงดงามหมดจดของโคโดะ ดีไซน์ “KODO DESIGN”

สำหรับรถต้นแบบ Mazda CX-5 ได้ถูกนำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มาสด้าเพิ่งเริ่มทดลองผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในภารกิจนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสตัวจริงเสียงจริงเป็นครั้งแรก
นิสสัน พัลซาร์ ใหม่ (New Nissan Pulsar)
นิสสัน มอเตอร์ เจ้าพ่อรถอีโคคาร์ของเมืองไทย ปีนี้โดดมาลุยตลาดรถเก๋งขนาดกลาง ด้วยการส่ง นิสสัน พัลซาร์ ใหม่ มาแชร์ตลาด ด้วยการนำเสนอในรูปลักษณ์ใหม่ที่ฉีกความเป็นอัตลักษณ์ของนิสสันแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น พัลซาร์ ใหม่ ตั้งใจมาทดแทน นิสสัน ทีด้า อย่างเต็มตัว ด้วยรูปทรงแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ชูจุดเด่นความสปอร์ต ด้วยดีไซน์สุดล้ำ มี 2 รุ่นเครื่องยนต์ คือ 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร วางจำหน่าย 5 รุ่น

นอกจากนี้ยังจะมีรถตู้รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง นิสสัน เออร์แวน ที่มาด้วยรูปลักษณ์ใหม่หมด ที่ใหญ่โตและกว้างขวางมากขึ้น พร้อมด้วยรถขายดีอย่าง นิสสัน มาร์ช ที่จะนำตัวไมเนอร์เชนจ์ มาอวดโฉมในงานด้วยเช่นกัน
ซูซูกิ เออร์ติก้า (Suzuki Ertika)
น้องใหม่ล่าสุดของรถ MPV ขนาด 7 ที่นั่งที่ใช้แพลทฟอร์มของรถขายดีอย่าง ซูซูกิ สวิฟท์ มาพัฒนา โดยการออกแบบที่พยายามเน้นจุดเด่นในเรื่องของสมรรถนะการทรงตัวและความสามารถในการยึดเกาะถนนของตัวรถ ด้วยแพลทฟอร์มที่ใช้ร่วมกับซูซูกิ สวิฟท์ ความกว้างและยาวของฐานล้อถูกออกแบบให้กว้างและยาวขึ้น

เออร์ติก้า ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร กำลังสูงสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันเป็นแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ เอ็มพีไอ ใช้น้ำมัน อี20 ได้ นอกจากนี้ยังมีช่องแอร์บนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แยกระบบควบคุมความเย็นแบบอิสระ ส่งความเย็นไปยังผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ได้อย่างทั่วถึง มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ GA เกียร์ธรรมดา GL เกียร์อัตโนมัติ และ GX เกียร์อัตโนมัติ
โตโยต้า วีออส ใหม่ (New Toyota Vios)
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทวงความเป็นเจ้าแห่งรถเล็กคืน ด้วยการเปิดตัว โตโยต้า วีออส ใหม่ ครั้งแรกในโลก ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่น แนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ ด้วยรูปทรงที่ใหญ่กว่าเดิม พร้อมการออกแบบทั้งภายนอกภายในใหม่หมดให้ดูสปอร์ตและดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ยังคงเป็นขุมพลังบล็อกเดิมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE ที่ยังคงกำลัง 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของการรองรับเชื้อเพลิงที่หลากหลายขึ้น ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แบบ Gate Type

ฮุนได เวลอสเตอร์ (Hyundai Veloster)
ในที่สุดค่ายรถเกาหลีก็ได้ฤกษ์ทำตลาดกันอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศตัวเป็นของเล่นเศรษฐีอย่างเต็มตัว กับ ฮุนได เวลอสเตอร์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของฮุนไดในการออกแบบที่โดดเด่นตามแนวคิด Fluidic Sculpture Design ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรถซูเปอร์ ไบค์ที่ให้ความรู้สึกเร้าใจ ดุดัน และมีบุคลิกของความเร็วอย่างชัดเจน แตกต่างด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว 2+1 Sport Hatchback ครั้งแรกในโลก เพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ด้วยสมรรถนะที่ให้กำลังสูงสุดถึง 130 แรงม้า และ 186 แรงม้า ใน Veloster และ Veloster Sport Turbo ตามลำดับ
โดดเด่นด้วย 7 สีแปลกใหม่สะกดทุกสายตา ได้แก่ Vitamin C, Sunflower, Green Apple, Sonic Silver, Veloster Red, Ocean Blue, White Crystal และสีพิเศษ “เทาด้าน” หรือ Matte Petrol Grey ครั้งแรกในเมืองไทย มีให้เลือกเฉพาะในรุ่น Turbo เท่านั้น ราคาเริ่มต้นที่ 1,299,000 และ 1,739,000 บาท

เกรท วอลล์ ฮาวอล เอช6 (Great Wall Haval H6)
ในปีนี้ค่ายรถชื่อดังติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศจีนอย่าง เกรทวอลล์ มอเตอร์ โดดเข้ามาเป็นน้องใหม่ของงานมอเตอร์โชว์เมืองไทย โดยขนรถหลายรุ่นเข้ามาร่วมโชว์พร้อมกับการเปิดตัวทำธุรกิจยานยนต์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

แม้จะมีรถทำตลาดอยู่หลายเซ็กเมนต์ ทั้งรถยนต์นั่ง–รถปิกอัพ–รถเอสยูวี หรือรถอเนกประสงค์ แต่ชื่อที่หลุดรอดออกมาและน่าจะเป็นไฮไลต์สำคัญของงานนี้ก็คือ รุ่น Haval H6 รถอเนกประสงค์คันโตที่มีรูปทรงบึกบึนไม่น้อยหน้าใคร ดีไซน์ของตัวรถเป็นการผสมผสานของเอกลักษณ์ต่างๆ ที่ลงตัว ส่วนราคาจะเป็นเช่นไรต้องติดตามในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ เท่านั้น
ซันยอง นิว สตาวิค เฟซ ลิฟท์ (SSangyong New Stavic Face Lift)
ซันยอง ได้ถือโอกาสในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ เปิดตัว New Stavic Face Lift โฉมใหม่หรูเต็มรูปแบบ สู่ตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดย New Stavic Face Lift ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ด้วยการผสมผสานความอเนกประสงค์ของรถแบบ SUV และ MPV ได้อย่างลงตัว ห้องโดยสารขนาด 11 ที่นั่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์อัจฉริยะคอมมอนเรลเทอร์โบดีเซล Xdi 2.0 ขนาด 2.0 ลิตร ตามมาตรฐานยูโร 5 ที่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะในการขับขี่ แต่ให้ความประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยที่เครื่องยนต์เผาไหม้หมดจดมากกว่า ทำให้สามารถลดมลพิษลงได้มากขึ้น โดยมีค่า CO2 เพียง 157 กรัมต่อกิโลเมตร เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์อเนกประสงค์

เกีย ออล-นิว ริโอ ซีดาน (Kia All-new Rio Sedan)
เปิดตัวกันไปก่อนหน้านานโขกับ เกีย ริโอ รุ่น 5 ประตู ล่าสุด ทางไทยยานยนตร์ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถค่ายเกาหลีค่ายนี้ ทำการเปิดตัว ออล นิว เกีย ริโอ รุ่นซีดาน 4 ประตู ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 โดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.4 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว CVVT กำลังสูงสุด 107 แรงม้าที่ 6,300รอบ/นาที ใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ H-Matic รองรับเชื้อเพลิง E20 ได้

โลตัส เอ็กซิจ วี6 (LOTUS Exige S V6)
โลตัส exige s โฉมใหม่ล่าสุด ที่ถูกเผยโฉมไปครั้งแรกที่งาน Frankfurt Motor Show ในเดือนกันยายน 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนี้ทางนิชคาร์ ก็ได้นำรถรุ่นนี้เข้ามาเปิดตัวกันภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ด้วย โดย Lotus Exige S สามารถบ่งบอกความเป็นแก่นแท้ของแบรนด์โลตัสได้อย่างชัดเจน ด้วยตัวถังอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา และสมรรถนะแบบดุดัน ด้วยกำลังจากเครื่อง V6 Supercharge 350 แรงม้า พร้อมทั้งแฮนเดอริ่งที่ยอดเยี่ยมเฉียบคมในแบบของโลตัสซึ่งไม่สามารถหาได้จากรถสปอร์ตคันไหนๆ
