Google และ TNS เผยผลวิจัยล่าสุดว่าโทรศัพท์มือถือ คือ หัวใจหลักของการตัดสินใจซื้อรถยนต์ในประเทศไทย เนื่องจากการตัดสินใจเลือกซื้อรถถือเป็นเรื่องใหญ่ และหลายคนใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อเสาะหาข้อมูล ข้อเท็จจริงก็คือ 59% ของผู้ที่กำลังมองหารถไว้ใช้งานสักคันใช้เวลาพิจารณาข้อมูลอย่างน้อยสองเดือน
ผลวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า ปี 2559 โทรศัพท์มือถือเป็นแหล่งของข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถที่หลากหลายของผู้ต้องการมีรถใช้เป็นประจำสม่ำเสมอ ผู้ที่ต้องการมีรถมีอุปกรณ์ที่ใช้งานเฉลี่ย 3.2 อุปกรณ์ และ 97% เลือกใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งพวกเขาใช้โทรศัพท์มือถือในทุกขั้นตอนของการซื้อรถ ตั้งแต่ขั้นตอนการค้นหาที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด 32% บอกว่าพวกเขาใช้ Google Search เพื่อเริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรถที่สนใจ และ 22% ของผู้ซื้อรถชาวไทยบอกว่าค้นหาข้อมูลรถระหว่างชมทีวีไปด้วย
ข้อมูลที่น่าสนใจจากผลวิจัยนี้ ประกอบด้วย
คนไทยที่ต้องการซื้อรถ:
● ต้องการ “รถที่ดีที่สุด” คำถามที่สำคัญที่สุดของผู้ที่ต้องการซื้อรถ 99% อยากรู้ว่า “รถคันไหนดีที่สุด” โดยมี 60% ใช้โทรศัพท์มือถือค้นหาคำตอบเหล่านั้น
● ต้องการชมรถที่ถูกใจอย่างทันทีทันใด 91% ของผู้ต้องการซื้อรถบอกว่า วิดีโอ ช่วยโน้มน้าวใจของพวกเขาได้ดีต่อตัวรถและแบรนด์ผู้ผลิต ขณะที่ 31% มั่นใจว่าจะเลือกรถรุ่นไหนดีหลังรับชมวิดีโอโดยที่ไม่ต้องไปทดลองขับจริง
● ชื่นชอบดีลที่โดนใจ 86% ของผู้ซื้อรถชาวไทยเช็คกับหลายๆ แหล่งว่าพวกเขาได้ดีลที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง โดยได้ข้อมูลที่หลากหลายจากหลายแหล่งแต่ข้อมูลที่ดึงดูดใจมากที่สุดคือโปรโมชั่นจากรถยนต์แบรนด์ต่างๆ 92% ของผู้ซื้อรถชาวไทยบอกว่าพวกเขาพวกเขามองหาโปรโมชั่นต่างๆ อย่างจริงจัง
● ใช้โทรศัพท์ค้นหาโชว์รูมที่จะไปซื้อ 46% ของผู้ซื้อรถชาวไทยหาข้อมูลจากโทรศัพท์เพื่อตัดสินใจว่าจะไปซื้อรถที่ไหน นอกจากจะเป็นช่องทางที่มีผลต่อการเลือกซื้อรถ แต่โทรศัพท์มือถือยังพาลูกค้าไปหาโชว์รูมเลยทีเดียว
งานวิจัยนี้ยังชี้ว่าในอนาคตแนวโน้มนี้จะสูงขึ้นแน่นอนถ้าโทรศัพท์และออนไลน์เป็นหัวใจสำคัญของคนไทยเมื่อซื้อรถยนต์ ผู้บริโภคต้องการความสะดวกและประสบการณ์ที่ยุ่งยากน้อยที่สุดในเวลาช็อปปิ้งสินค้า และเมื่อเป็นเรื่องของรถยนต์ 79% ระบุว่าจะพิจารณาซื้อรถยนต์ทางออนไลน์ถ้ามีตัวเลือกนั้นให้ใช้
ผู้ผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายที่ไม่เคยต้องเผชิญกับผู้บริโภคที่ทำการบ้านเก็บข้อมูลอย่างรอบด้านมาก่อน ในขณะที่ประเด็นนี้เป็นความท้าทายบริษัทรถยนต์สามารถนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เป็นประโยชน์ผ่านช่องทางมือถือในเวลาที่ผู้บริโภคต้องการ ธุรกิจที่ทำตรงนี้ได้จะเป็นผู้ชนะในยุคที่พฤติกรรมต่างๆ เกิดขึ้นครั้งแรกบนมือถือ