ยอดขายฟอร์ด เฟียสต้า ซึ่งทำสถิติยอดขายต่อเดือนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ฟอร์ด ประเทศไทย มียอดขายปลีกรวมที่ 5,222 คัน พุ่งขึ้น 151 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว นับว่าเป็นสถิติยอดขายประจำเดือนพฤศจิกายนซึ่งอยู่ในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
นอกจากนี้ ยอดขายรถฟอร์ดในเดือนพฤศจิกายนยังได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ผู้บริโภคให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยมต่อฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะสไตล์แกร่ง ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำสมัย และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สไตล์สปอร์ต อย่างฟอร์ด เอสเคป โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ฟอร์ดทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 76 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่ 47,655 คัน ส่งผลให้บริษัทคาดการณ์ว่าจะทำสถิติยอดขายรวมตลอดทั้งปีได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปีนี้
ฟอร์ด เฟียสต้า ยังครองความเป็นผู้นำอย่างโดดเด่นในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูงมาก ด้วยการทำสถิติยอดขายต่อเดือนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน ที่ 3,099 คัน พุ่งขึ้น 197 เปอร์เซ็นต์ โดยเฟียสต้าทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายส่งเสริมการเป็นเจ้าของรถคันแรกของรัฐบาล และรุ่นสูงที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พร้อมระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่และให้ความสำคัญกับความทันสมัย
“ด้วยความเพียบพร้อมของสมรรถนะและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัยเหนือคู่แข่งสำหรับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กด้วยกัน เฟียสต้ายังคงเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย” คุณยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “สีสันที่สะดุดตาและรูปโฉมที่เย้ายวนใจของเฟียสต้า คือสิ่งที่โดนใจลูกค้าทั่วประเทศ”
กระแสการตอบรับที่มีต่อฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ส่งผลให้ยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนพุ่งขึ้นกว่า 6 เท่าตัวเมื่อเทียบกับยอดขายฟอร์ด โฟกัส รุ่นก่อนหน้าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยยอดขายรวม 676 คัน ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ได้ยกระดับมาตรฐานของตลาดรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คให้สูงขึ้นอย่างมาก จากการนำเสนอความครบเครื่องอย่างเหนือชั้นทั้งด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย นวัตกรรมการออกแบบอันสะดุดตา อุปกรณ์ปกป้องความปลอดภัย และความสามารถในการประหยัดน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะพันธุ์แกร่งซึ่งได้สร้างนิยามใหม่ให้แก่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันในประเทศไทย มียอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 72 เปอร์เซ็นต์ ที่ 1,346 ยอดขายฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพุ่งขึ้นสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่าเท่าตัว ที่ 112 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นจำนวน 16,823 คัน
ฟอร์ดยังขยายตัวเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ด้วยการเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค 2.5 ลิตร วีซีที ภายในงานมหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยที่สนใจรถกระบะระดับตำนานคันนี้มีตัวเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้น ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค 2.5 ลิตร วีซีที ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า แรงบิด 226 นิวตัน-เมตร จึงมอบพละกำลังที่เหนือชั้นและยังประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยีระบบแปรผันแคมชาฟท์
“ในปีแห่งความสำเร็จของยอดขายที่ดีเยี่ยมอย่างนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังคงเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดในจำนวนรถทุกรุ่นที่เรานำเสนอ” คุณยุคนธร กล่าว “เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร จะยิ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่สุดยอดผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด รถกระบะที่ยากจะหาคู่แข่งเทียบได้รุ่นนี้จะยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าที่ชื่นชอบความเหนือชั้นทั้งด้านสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และอุปกรณ์ที่ครบครัน”
นอกจากฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแล้ว ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ฟอร์ดยังได้ประกาศเปิดตัวฟอร์ด เทอริทอรี่ ใหม่ รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมจากประเทศออสเตรเลีย โดยรถขนาด 7 ที่นั่งคันนี้ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ-ดีเซล วี 6 ทีดีซีไอ ขนาด 2.7 ลิตร วีจี เทอร์โบ พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลัง 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ฟอร์ดยังได้ประกาศแผนการรุกขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงการตั้งเป้าขยายเครือข่ายโชว์รูมฟอร์ดให้ครบ 140 แห่งภายในปีพ.ศ. 2556
“เราใส่ใจและให้ความสำคัญในคุณภาพของการให้บริการไม่น้อยไปกว่าการนำเสนอรถยนต์คุณภาพของฟอร์-ดทุกคัน” คุณยุคนธร กล่าว “เรามีความตั้งใจที่จะเปิดตัวรถยนต์อีกหลากหลายรุ่นทั้งรถยนต์นั่งและรถกระบะ ซึ่งจะทำให้ฐานลูกค้าของเราขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังนั้น เราจึงอยากให้ลูกค้าฟอร์ดทุกท่านมั่นใจได้ว่า เรามุ่งมั่นในการพัฒนาและขยายเครือข่ายศูนย์บริการเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมภายใต้มาตรฐานระดับโลกให้แก่ลูกค้าของเรา”