ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศยอดขายต่อเดือนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมิถุนายน ด้วยยอดขายปลีกรวม 5,031 คัน พุ่งขึ้นถึง 71 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ยอดขายที่ดีเยี่ยมดังกล่าวทุบสถิติยอดขายสูงสุดที่ฟอร์ดได้ทำไว้ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากทั้งรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ฟอร์ด เฟียสต้า ประสบความสำเร็จในการทำสถิติยอดขายต่อเดือนได้ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
“ยอดขายต่อเดือนในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงการตอบรับอย่างดีเยี่ยมที่ลูกค้ามีให้กับรถยนต์ระดับโลกรุ่นใหม่ของฟอร์ดที่ผลิตในประเทศไทย ทั้งฟอร์ด เฟียสต้า และ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่” มร. ปีเตอร์ ฟลีท ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว “การพลิกโฉมทางธุรกิจโดยมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมของฟอร์ด ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่เราเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แผน One Ford”
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ซึ่งเป็นรถที่สร้างนิยามใหม่ให้แก่ตลาดรถกระบะขนาดคอมแพ็ค ยังคงรักษาตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถกระบะในประเทศไทย ด้วยยอดขายปลีกที่ 2,354 คัน พุ่งทะยานขึ้นถึง 280 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขายรถฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นก่อนหน้าในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
ความต้องการฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ อย่างท่วมท้น ทำให้ปัจจุบัน ฟอร์ดมียอดจองเรนเจอร์ ใหม่ แล้วกว่า 25,000 คันในประเทศไทย
"ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ตลาดรถกระบะในประเทศไทย ด้วยความลงตัวของส่วนผสมอันโดดเด่นที่สะท้อนนิยามใหม่ของรถกระบะในระดับนี้ ทั้งด้านการใช้งานแบบอเนกประสงค์ สมรรถนะ ประสิทธิภาพ ความมีคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความประหยัดน้ำมัน" คุณสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
ด้านรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่เหนือชั้น ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างโดดเด่นเช่นเดียวกัน โดยยอดค้าปลีกในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นกว่า 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้วยยอดขายปลีกรวม 2,501 คัน ซึ่งเป็นสถิติยอดขายต่อเดือนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในประเทศไทย
นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ยอดขายที่ดีเยี่ยมของฟอร์ด เฟียสต้า เป็นผลมาจากการเปิดตัวเฟียสต้า รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ซึ่งมีคุณสมบัติตามนโยบายส่งเสริมการเป็นเจ้าของรถคันแรก ขณะที่ความต้องการรถรุ่นสูงๆ อย่างเฟียสต้ารุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Ti-VCT ที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
"การเปิดตัวเฟียสต้า สปอร์ต รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ช่วยกระตุ้นยอดขายโดยรวมของฟอร์ด เฟียสต้า ซึ่งยังคงเป็นตัวเลือกที่เหนือชั้นเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ด้วยความครบครันทั้งด้านความมีคุณภาพ ความปลอดภัย ความประหยัดน้ำมัน และเทคโนโลยีอันทันสมัย” คุณสาโรช กล่าวเสริม
ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน ฟอร์ดยังได้ประกาศเริ่มต้นการผลิตรถฟอร์ด โฟกัส ใหม่ อย่างเป็นทางการ ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง ซึ่งเป็นโรงงานแห่งใหม่ที่มีความทันสมัยอันเกิดจากการลงทุนมูลค่า 450 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท) โดยฟอร์ด โฟกัส ใหม่ จะเปิดตัวต่อสาธารณะและวางจำหน่ายในโชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศในเดือนหน้า
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ จะสร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ด้วยค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของที่ดีเยี่ยมที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้งยังเป็นรถที่มีคุณภาพและมอบความปลอดภัยเหนือชั้น พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันสมัยหลายรายการที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถเซ็กเม้นต์นี้ อาทิ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) และระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System)
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยจะยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ทว่า ยอดค้าปลีกของฟอร์ดตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังคงพุ่งขึ้นถึง 44 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่ 21,369 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และความต้องการรถยนต์นั่งขนาดเล็กยอดนิยม ฟอร์ด เฟียต้า ใหม่ ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
“ความสำเร็จจากการที่รถฟอร์ดได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จะได้รับแรงกระตุ้นอีกครั้งเมื่อเราเริ่มวางจำหน่ายฟอร์ด โฟกัส ใหม่ อย่างเป็นทางการในเดือนหน้า” คุณสาโรช กล่าว
