บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในบีเอ็มดับเบิลยู i8 และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 พร้อมโมเดลใหม่ที่หลากหลายในตระกูลซีรี่ส์ 1, ซีรี่ส์ 3, ซีรี่ส์ 4 และซีรี่ส์ 5  รวมทั้งเปิดตัวมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นล่าสุดและเผยโฉม The new MINI ใหม่เป็นครั้งแรก 

รวมแคมเปญโปรโมชั่นในงานมอเตอร์โชว์ 2014
https://www.auto-thailand.com/hotnews/Campaign-Promotion-Motorshow-2014.html





BMW i8

• ด้วยเทคโนโลยี BMW eDrive ในระบบ plug-in hybrid บีเอ็มดับเบิลยู i8 สามารถเร่งความเร็วจาก
0 ถึง 100 กม. ได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 49 กรัมต่อกม. สำหรับอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 47.6 กม.ต่อลิตร ตามมาตรฐาน EU test cycle

• BMW eDrive ยังมอบสมรรถนะการขับขี่สไตล์สปอร์ตแห่งอนาคต ด้วยกำลัง 170 กิโลวัตต์/ 231 แรงม้า แรงบิดที่ 320 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo นอกจากนี้ ในโหมดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ยังสร้างกำลังได้ถึง 96 กิโลวัตต์/ 131 แรงม้า โดยมีแรงบิดที่ 250 นิวตันเมตร

• เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู i8 ให้ความเร็วสูงสุดที่ 120 กม.ต่อชม. และสามารถขับเคลื่อนได้เป็นระยะทางถึง 37 กม. โดยปราศจากการปล่อยไอเสีย และในโหมดสปอร์ต ยังสามารถเร่งความเร็วจาก 80 ถึง 120 กม.ต่อชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.6 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม.ต่อชม.

• ประหยัดเชื้อเพลิงอย่างยอดเยี่ยม ขณะขับขี่ประจำวัน โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเมื่อขับขี่ในเมืองเพียง 20 กม.ต่อลิตร และประมาณ 14.28 กม.ต่อลิตร เมื่อขับขี่บนมอเตอร์เวย์ หากขับขี่ในระยะทางไกลด้วยความเร็วสูง มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ประมาณ 12.5 กม.ต่อลิตร

• เทคโนโลยีวัสดุคุณภาพสูงและมีน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์เสริมแรง carbon-fibre-reinforced plastic (CFRP) ได้ถูกนำมาใช้สำหรับตัวห้องโดยสาร มอบความปลอดภัยและความแข็งแกร่งยามเกิดการกระแทกอย่างดีเยี่ยม ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าเหล็กกล้าถึงร้อยละ 50 และเบากว่าอะลูมิเนียมกว่าร้อยละ 30 แต่ยังคงประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่าวัสดุแบบเดิม

• แบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน แรงดันไฟฟ้าระดับสูง สามารถชาร์จไฟได้ทั้งจากเต้าเสียบที่บ้านหรือ
แท่นชาร์จบีเอ็มดับเบิลยู i Wallbox โดยใช้เวลาตั้งแต่ต่ำกว่า 2 ชม. ถึง 3 ชม.





BMW 220i Coupe Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,799,000 บาท)
BMW 220i Coupe M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,949,000 บาท)

• รถยนต์สองประตูของบีเอ็มดับเบิลยูถือเป็นต้นแบบของคูเป้รุ่นแรกๆ และได้ถูกสะท้อนออกมาใน
การออกแบบบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์  2 คูเป้ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจากกลุ่มรถยนต์ประเภทเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นตัวรถสไตล์ซีดาน ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียว พร้อมสัดส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระอย่างลงตัว 

• เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ของบีเอ็มดับเบิลยู 220i คูเป้ มอบพลัง 135 กิโลวัตต์/ 184 แรงม้า ซึ่งนำมาใช้ในรถยนต์ขนาดคอมแพ็คของบีเอ็มดับเบิลยูเป็นครั้งแรก

• สัดส่วนของตัวรถที่มีความเฉพาะตัว ด้วยความยาว 4,432 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,774 มิลลิเมตร
ฐานล้อที่ยาวกว่าเดิม 30 มิลลิเมตร พร้อมกับความกว้างช่วงล้อที่มากขึ้น

• พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมากขึ้น รวมถึงพื้นที่บรรจุสัมภาระที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20 ลิตร รวมเป็น 390 ลิตร และยังเพิ่มความปราดเปรียวตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.29





The new MINI

ยนตรกรรมระดับหรูขนาดเล็กรุ่นใหม่ล่าสุด The new MINI ถือเป็นนวัตกรรมแห่งความสำเร็จอีกขั้นของการดีไซน์ที่เติมเต็มทุกอารมณ์ ด้วยมิติที่เพิ่มขึ้น ความยาวฐานล้อและความกว้างช่วงล้อด้านหน้าและด้านหลังเพิ่มขึ้น โดยที่นั่งด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ให้ปรับตำแหน่งได้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่เบาะโดยสารด้านหลังมากกว่าเดิม เบาะหลังยังสามารถพับแยกได้แบบ 60:40 สำหรับช่องเก็บสัมภาระที่กระโปรงหลังเพิ่มความจุมากขึ้น 51 ลิตร รวมเป็น 211 ลิตร  และสามารถปรับพื้นที่เก็บสัมภาระกระโปรงหลังได้หลายระดับอีกด้วย

• The new MINI มอบสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo Technology ในทั้งสามรุ่น ได้แก่ มินิ คูเปอร์ มอบพลังขับเคลื่อน 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า ด้วยเครื่องยนต์สามสูบ, มินิ คูเปอร์ เอส มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ มอบพลัง 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า และ มินิ คูเปอร์ ดี ด้วยพลังเครื่องยนต์ดีเซล 3 สูบ สร้างกำลัง 85 กิโลวัตต์/ 116 แรงม้า

• สำหรับมินิ คูเปอร์ เอส โหมดการขับขี่ของ The new MINI มอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานยอดเยี่ยม โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ทั้ง โหมดมาตรฐาน MID, โหมด SPORT หรือโหมด GREEN  นอกจากนี้ยังนำฟังก์ชั่นการควบคุมรถ Dynamic Damper Control มาใช้เป็นครั้งแรกเพื่อช่วยในการตอบสนองต่อสถานการณ์การขับขี่แบบต่างๆ ทั้งแบบนิ่มนวลและการตอบสนองแบบสปอร์ต

• ในรุ่นมินิ คูเปอร์ ยังให้ประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุดด้วยความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 7.8  วินาที สำหรับมินิ คูเปอร์ ดี มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อยก๊าซ CO2 ต่ำที่สุด เพียง 26.3 กม.ต่อลิตร และปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 98-99  กรัมต่อกม. (จากผลการทดสอบ EU test cycle ผลอาจแตกต่างกันขึ้นกับประเภทของยางรถยนต์ที่ใช้)

• ไฟหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ของมินิ คูเปอร์ เอส  ประกอบด้วยไฟหน้าและไฟเลี้ยวแบบ LED ไฟ daytime แบบวงแหวน พร้อมไฟหน้าปรับตามการเลี้ยวอัตโนมัติและไฟตัดหมอกแบบ LED โดยเทคโนโลยี LED ยังนำมาใช้กับไฟท้ายอีกเช่นกัน

• หน้าจอแสดงผลและระบบปฏิบัติการแบบใหม่ เพิ่มลูกเล่นให้กับจอแสดงผล โดยแสดงความเร็วที่ขับและความเร็วเครื่องยนต์ พร้อมหน้าจอสีบอกสถานะของรถยนต์และปริมาณน้ำมัน สำหรับหน้าปัดแสดงผลส่วนกลาง โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี LED ใหม่ล่าสุดที่ให้แสงไฟสีสันต่างๆ รอบวงแหวน ซึ่งสามารถเปลี่ยนตามฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ใช้ขณะขับขี่

• เทคโนโลยีสำหรับช่วยเหลือผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง MINI Navigation พร้อมให้ใช้งานแล้วเป็นครั้งแรกในประเทศไทยใน The New MINI Cooper S

• The New MINI ทุกรุ่นมอบความสบายใจให้แก่ลูกค้านานกว่าที่เคย ด้วยโปรแกรมบำรุงรักษา MINI Services Inclusive หรือ MSI ที่เพิ่มระยะเวลาดูแลรถมินิ รวมเป็น 5 ปี หรือ 50,000 กม.





BMW 116i (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,749,000 บาท)
BMW 116i M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,999,000 บาท)

• ด้วยเทคโนโลยี บีเอ็มดับเบิลยู EfficientDynamics บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 เป็นยนตรกรรมแรกของโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกันที่มีการนำระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบ Automatic Start/Stop มาใช้ รวมถึงโหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECO PRO) ซึ่งเปิดใช้งานได้จากสวิทช์ Driving Experience Control ซึ่งจะรวมอยู่ในระบบมาตรฐาน
• ตัวถังแบบทนแรงบิดสูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองขณะขับขี่และความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร
• อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆ ได้แก่ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า, ด้านข้าง และบนศีรษะ
• BMW 116i มีจำหน่ายทั้งรุ่นปกติและรุ่นเสริมชุดแต่ง M Sport

BMW 325d M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,299,000 บาท)

• ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานดีเยี่ยม และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระดับต่ำ แต่ไม่ส่งผลต่อขุมกำลังขับเคลื่อน บีเอ็มดับเบิลยู 325d M Sport มาพร้อมขุมกำลัง 160 กิโลวัตต์/ 218 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม. ต่อชม. ได้ภายใน 6.6 วินาที ขณะที่มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเพียง 21.7 กม. ต่อลิตร
• ยกระดับประสบการณ์แห่งการขับขี่ด้วยหน้าจอแสดงผลการควบคุมขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการมาตรฐาน iDrive Touch Controller
• ชุดแต่ง M Sport สไตล์สปอร์ตอันทรงพลัง พร้อมชุดแต่ง M แอโรไดนามิค แพกเกจ และล้ออัลลอย  M ขนาด 18 นิ้ว





BMW 520i (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,349,000 บาท)
BMW 520d (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,499,000 บาท)

• มอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยเบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้าและระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชั่นลดความเร็ว
• ฟังก์ชั่นเพื่อความบันเทิงหลากหลายมาพร้อมกับระบบ Comfort access หน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว ระบบ iDrive Controller และระบบเสียงสเตอริโอ
• ระบบเครื่องยนต์อัจฉริยะ BMW TwinPower Turbo 4-cylinder ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถภาพ
การขับขี่และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูงสุด มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 16.7 กม. ต่อลิตร สำหรับ BMW 520i และ 22.2 กม. ต่อลิตร สำหรับ BMW 520d
• พวงมาลัยหนังสไตล์สปอร์ตและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยียาง Run-flat

BMW 528i Luxury (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,699,000 บาท)
BMW 528i M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,799,000 บาท)

• เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าแบบรองรับบั้นเอว เพิ่มความสบายขณะขับขี่ในทุกการเดินทาง
• เติมเต็มทุกวันของคุณด้วยระบบความบันเทิงและการสื่อสาร ทั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 10.2 นิ้ว
ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นอัจฉริยะพร้อมระบบสัมผัส iDrive และระบบเสียงไฮไฟ
• มอบความมั่นใจในความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยฟังก์ชั่นผู้ช่วยอัจฉริยะ มาพร้อมกับระบบแผนที่นำทางสามมิติ, ไฟหน้าแบบ LED ปรับตามทิศทางการเลี้ยวของพวงมาลัย, ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ, เซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝนและเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และกล้องมองหลังแสดงระยะถอยจอด
• ระบบปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก
• จอภาพขนาด 9.2 นิ้ว 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (เฉพาะรุ่น Luxury)





BMW 525d Luxury (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,899,000 บาท)
BMW 525d M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,999,000 บาท)

• มอบสมรรถภาพแห่งการขับขี่สูงสุดด้วยขุมพลังดีเซล ประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ด้วยกำลังสูงสุด 218 แรงม้า และเร่งความเร็วจาก
0-100 กม. ต่อชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.9 วินาที
• ลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเหลือเพียง 21.3 กม. ต่อลิตร โดยคงขุมพลังเครื่องยนต์ไว้ครบถ้วน
• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะท้อนปรัชญาด้านความยั่งยืนของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 123 กรัม ต่อกม.
• เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู EfficientDynamics ที่ครบครันกับระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ (Brake Energy Regeneration), ระบบ Automatic Start/Stop (พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
แบบสปอร์ต), Optimum Shift Indicator และโหมดการขับขี่ประหยัดพลังงาน
• ระบบปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก
• จอภาพขนาด 9.2 นิ้ว 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (เฉพาะรุ่น Luxury)





BMW 420i Coupe Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,499,000 บาท)
BMW 420i Coupe M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,699,000 บาท)

• พลังการขับขี่สไตล์สปอร์ตและเสถียรภาพการบังคับรถที่ยอดเยี่ยมคือ หัวใจหลักของประสบการณ์แห่งการขับขี่ BMW 4 Series Coupe
• จุดศูนย์ถ่วงรถที่อยู่ต่ำลง ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำและตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างปราดเปรียว
• เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo อันล้ำสมัย สร้างกำลังสูงสุดได้ถึง 135 กิโลวัตต์ ต่อ 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,250 รอบต่อนาที และใช้เวลาเพียง 7.3 วินาทีในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม.
• ชุดตกแต่ง Sport line โดดเด่นด้วยโทนสีแดงสลับดำ มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หรือเลือกตกแต่งด้วย M Sport package ที่มาพร้อมระบบควบคุมช่วงล่างแบบ Adaptive M, ชุดแต่ง
M แอโรไดนามิค และล้ออัลลอย 19 นิ้ว





BMW 420d Convertible Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 4,299,000 บาท)
BMW 420d Convertible M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 4,499,000 บาท)

• BMW 4 Series Convertible เป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูสไตล์ convertible ขนาดกลาง เจนเนอเรชั่นที่ห้า ซึ่งผสานความสง่างามและพลังการขับขี่อันปราดเปรียวเข้ากับความเร้าใจสไตล์รถเปิดประทุนได้อย่างกลมกลืนสำหรับการขับขี่ในทุกๆ วัน
• หลังคาแบบแยกพับ 3 ส่วนสามารถลดระดับเดซิเบลและเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสารได้อย่างเหลือเชื่อ
• ทรงพลังไร้ขีดจำกัดด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ และเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ด้วยกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ ต่อ 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที และประหยัดพลังงานระดับสูงที่
20.8 กม. ต่อลิตร
• ชุดตกแต่ง Sport line โดดเด่นด้วยโทนสีแดงสลับดำ มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หรือเลือกตกแต่งด้วย M Sport package ที่มาพร้อมระบบควบคุมช่วงล่างแบบ Adaptive M, ชุดแต่ง
M แอโรไดนามิค และล้ออัลลอย 19 นิ้ว
• ระบบช่วยเก็บสัมภาระขณะหลังคาเปิด (Loading assistance)  เพียงแค่กดสวิตช์ ระบบช่วยเก็บสัมภาระจะยกและจัดระเบียบหลังคาที่พับอยู่ในกระโปรงท้าย เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระให้มากยิ่งขึ้น





บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
BMW R1200 GS Adventure

• ยึดหลักการใช้งานอเนกประสงค์เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS มอเตอร์ไซค์รุ่น Adventure
มาพร้อมกับเครื่องยนต์สองสูบและแชสซีที่ปราดเปรียว เพิ่มจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและความสามารถแบบออฟโรดอย่างแท้จริง
• บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure รุ่นใหม่ล่าสุดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบ Boxer ที่มีระบบหล่อเย็นด้วยอากาศและน้ำ เช่นเดียวกับ บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS โดยมีเครื่องยนต์ขนาด 1,170 ซีซี ด้วยแรงม้าสูงสุดที่ 92 กิโลวัตต์ /125 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที

แคมเปญพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35

สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำการจองรถยนต์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2014 และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2557 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:
- BMW X1* และ BMW 3 Series sedan*  : iPad Air (16 GB WIFI + Cellular)
- BMW 5 Series**, BMW X3 และรุ่นนำเข้า** : iPad Air (32 GB WIFI + Cellular)
- BMW 7 Series*** และ BMW ActiveHybrid 7 L ทุกรุ่น : iPad Air (64 GB WIFI + Cellular)

(*ยกเว้นรุ่น BMW X1 sDrive18i รุ่นราคา 1,999,000 บาท, BMW 316i และ BMW 320i รุ่นราคา 2,249,000 บาท)
(**ยกเว้นรุ่น BMW 1 Series, BMW 4 Series, BMW 3 Series GT, BMW Z4, BMW ActiveHybrid 7 L,BMW 3 Series Touring และ BMW 5 Series Touring)
(***ยกเว้นรุ่น BMW 7 Series รุ่นก่อนปรับโฉมและ BMW 7 Series Business)

สำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2557 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:

- สำหรับลูกค้า MINI Countryman รับ iPad mini with Retina display (64 GB WIFI + Cellular)
และสำหรับลูกค้ามินิที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับ MINI Financial Services ภายในระยะเวลาข้างต้นจะได้รับการขยายระยะเวลาการบำรุงรักษารถยนต์ภายใต้โปรแกรม MINI Service Inclusive (MSI) พร้อมขยายระยะเวลาการให้บริการ MINI Mobility Service สูงสุดถึง 5 ปี / 50,000 กม.

- สำหรับลูกค้า MINI Paceman ที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับ MINI Financial Services ภายในระยะเวลาข้างต้นรับข้อเสนอประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลาคุ้มครอง 2 ปี และขยายระยะเวลาการบำรุงรักษารถยนต์ภายใต้โปรแกรม MINI Service Inclusive (MSI) พร้อมขยายระยะเวลาการให้บริการ MINI Mobility Service สูงสุดถึง 5 ปี / 50,000 กม.

- สำหรับลูกค้า MINI Hatch (ไม่รวม the new MINI) ที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับ MINI Financial Services ภายในระยะเวลาข้างต้นรับข้อเสนอผ่อน 0% ตั้งแต่ 2-4 ปี (ระยะเวลาจำกัดแล้วแต่รุ่น)

- สำหรับลูกค้า MINI Hatch รุ่นตกแต่งพิเศษ JCW limited edition ที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับ MINI Financial Services ภายในระยะเวลาข้างต้นรับข้อเสนอประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี

และขยายระยะเวลาการบำรุงรักษารถยนต์ภายใต้โปรแกรม MINI Service Inclusive (MSI) พร้อมขยายระยะเวลาการให้บริการ MINI Mobility Service สูงสุดถึง 5 ปี / 50,000 กม.

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญจ์ดังกล่าวหรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ จาก BMW Financial Services และ MINI Financial Services สามารถติดต่อได้ที่ BMW Contact Center โทร. 1-800-269-269 ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269 หรือติดต่อได้ทีผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ลูกค้าสบายใจได้เสมอกับโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์  BMW Services Inclusive (BSI) และ MINI Service Inclusive (MSI)
หัวใจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจสูงสุด คือ ความสบายใจของลูกค้า ดังนั้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจึงมาพร้อมกับโปรแกรมบริการหลังการขาย BSI BMW Services Inclusive ซึ่งเป็นการดูแลบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี/ 100,000 กิโลเมตร นอกจากนี้แล้ว ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูยังสามารถเลือกที่จะขยายระยะเวลาโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูดังกล่าวนี้เพิ่มเติมได้อีก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร เพื่อการคุ้มครองสูงสุดรวม 6 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้ามินิ โปรแกรม MINI Service Inclusive คุ้มครองการบำรุงรักษารถยนต์มินิตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร นอกจากนี้แล้วลูกค้ามินิยังสามารถเลือกที่จะขยายระยะเวลาการคุ้มครองนี้ต่อไปได้โดยรวมถึง 6 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร