แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ในฐานะผู้ถือสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทย ได้จัดพิธีลงนามแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ โรงแรม ดับเบิลยู กรุงเทพ ทั้งนี้แอสตันมาร์ติน แบงคอก ภายใต้การดำเนินงาน โดยบริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด ( MGC-เอเชีย ) ได้วางเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำตลาดรถ ไฮลัคชัวรี่ สปอร์ต เซ็กเมนต์ โดยคาดว่า แอสตัน มาร์ตินจะเป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค “ที่สำคัญคือแอสตัน มาร์ติน คือแบรนด์ที่จะเข้ามาเสริมทัพในตระกูลรถหรูและเติมเต็มธุรกิจภายใต้เอ็มจีซีกรุ๊ปให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น “ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม แห่งมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด กล่าว ด้านมร.คริสเตียน มาร์ติ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แอสตัน มาร์ติน ลากอนดา จำกัด สหราชอาณาจักร กล่าวว่า : "เรายินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เซ็นสัญญากับบริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย)ฯ แน่นอนว่า นี่คืออีกเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของการฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของแบรนด์แอสตันมาร์ตินในปี 2013 นี้ เลยทีเดียว เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่โดดเด่น และมีศักยภาพในการเติบโตเป็นอย่างมาก อีกทั้งความพร้อมด้านปัจจัยต่างๆ รวมถึงการเป็นยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคนี้ ประการสำคัญคือการได้ตัวแทนจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพอย่างเฮอริเทจ มอเตอร์ฯ ซึ่งจะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอาณาจักร แอสตัน มาร์ตินให้แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ โดยปัจจุบันนี้ แอสตัน มาร์ตินเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 80% ของกำลังการผลิต “สำหรับการบริหารงานนั้น แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ได้แต่งตั้ง สุทธิพงษ์ วรรณวานิช ซึ่งเป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ มากว่า 20 ปี เข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป พร้อมเสริมทัพด้วยทีมบริหารที่มีศักยภาพ เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ให้บรรลุนโยบายที่สำคัญคือ ความเป็นเลิศในด้านการขายและการบริการหลังการขายที่ครบวงจร แอสตัน มาร์ติน แบงคอก จะเปิดให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 2 โชว์รูม ได้แก่ โชว์รูมมาตรฐานสากลครบวงจรในย่านพระราม 3 และโชว์รูมลัคชัวรี่มอลล์ ที่สยามพารากอน โดยโชว์รูมทั้ง 2 แห่งนี้จะดำเนินการภายใต้คอนเซ็ปต์ “State-of-the-art “ ซึ่งมาพร้อมพื้นที่การให้บริการรวมถึงกว่า 500 ตารางเมตร โดยจะเริ่มเปิดให้บริการแห่งแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ลัคชัวรี่มอลล์ สยามพารากอน ในส่วนของโปรดักต์ที่จะนำเข้ามาเสริมทัพเพื่อส่งให้แอสตัน มาร์ตินผงาดในตลาดซุปเปอร์คาร์ในไทย จะมีครบทุกรุ่นหลักที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยไฮไลต์ของโปรดักส์ คือ โมเดลรุ่น แวนควิช ( Vanquish ) มาพร้อมพลัง 573 แรงม้า หรือที่รู้จักกันทั่วโลกในฐานะรถยนต์ประเภทแกรนด์ทัวริ่งที่ดีที่สุด มาพร้อมชุมพลังเครื่องยนต์ V12 AM11 Gen4 อันเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์การผลิตของแอสตัน มาร์ติน แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 4.1 วินาที ตามมาด้วยแรพพิด เอส (Rapide S ) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นยนตรกรรม ไฮ ลัคชัวรี่ สปอร์ต 4 ประตู ที่สวยที่สุดในโลกของยุคนี้ ซึ่งมาพร้อม ดีไซน์การกระจายน้ำหนักที่สมบูรณ์แบบทั้งคันในอัตราส่วน 48:52 อันมาพร้อมความหรูหราและสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ ด้วยแรงบิดมหาศาล 620 นิวตันเมตร 558 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 4.9 วินาที พร้อมด้วย ดีบี 9 อันเป็นที่สุดของรถสปอร์ตจีที ที่ทั่วโลกยอมรับในความสง่างาม เหนือกาลเวลา ภายในตกแต่งด้วยงานฝีมือสุดปราณีต พลังแรงม้าสูงุด 517 พร้อมแรงบิดถึง 620 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 4.6 วินาที ซึ่งนั้นเป็นผลผลิตจากขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด AM11 V12 และโปรดักส์แห่งความภูมิใจโมเดลอันดับสุดท้าย คือ แวนเทจ( Vantage) ซึ่งแอสตัน มาร์ติน การันตีถึง พลังและอารมณ์สปอร์ตที่แท้จริง ที่ยังคงรักษาความเป็นรถสปอร์ต GT ที่มีชื่อเสียงจาก DB9 และ Vanquish แต่มีน้ำหนักเบากว่า แต่การการออกแบบให้มีความปราดเปรียวยิ่งขึ้น อันมาพร้อมการตกแต่งภายใน ที่เน้นความหรูหราสะดวกสบาย ซึ่งมีให้เลือกทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 4.7 ลิตร V8 และเครื่องยนต์ V12 โดยมีให้เลือก 3 รุ่นคือ V8 Vantage, V8 Vantage S และ V12 Vantage s พร้อมกันนี้อีกปัจจัยสำคัญที่จะเสริมให้แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นคือ การจัดลัคชัวรี่โซน ห้องรับรองลูกค้าในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อรองรับบริการโปรแกรมการเลิอกสรรค์โปรดักส์สั่งทำพิเศษเฉพาะบุคคล หรือ bespoke Aston Martin. อีกทั้งเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษอันน่าประทับใจให้แก่กลุ่มลูกค้าแอสตันมาร์ติน ที่ต้องการมาพักผ่อนที่โชว์รูมหรูแห่งนี้ อันเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกค้า ที่จะได้สัมผัสกับยนตรกรรมสปอร์ตระดับอัลตร้าพรีเมี่ยม ซึ่งเปี่ยมด้วยความประณีตหรูสุดคลาสสิคระดับตำนาน ในแบบฉบับของ แอสตันมาร์ติน มร.คริสเตียนกล่าวเสริมว่า “ ยนตรกรรมของแอสตัน มาร์ติน ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลกมาแล้วมากมาย และก้าวต่อไปที่สำคัญคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต ซึ่งจะมีการพัฒนาเพื่อรองรับการขยายตัวสู่ตลาดเอเชีย และภาคพื้นอาเซียน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเราจึงพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่งในการเลือกเฟ้นตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ และยินดีมากที่ได้พันธมิตอย่างดร.สัณหวุฒิ พร้อมทีมงานที่มีศักยภาพของมาสเตอร์กรุ๊ป คอปอเรชั่น (เอเชีย) ที่จะมาสานต่อแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่ทรงคุณค่าแบรนด์นี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในประเทศไทย ” ด้านคุณสุทธิพงษ์กล่าวเสริมว่า " ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความนิยมในแบรนด์ แอสตัน มาร์ตินในตลาดไทยนั้นมีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เราจึงตระหนักว่า นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเปิดดำเนินการเป็นตัวแทนจำหน่ายแอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการ ซึ่งเราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนของแอสตัน มาร์ติน " สำหรับการบริการหลังการขายซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักนั้น บริษัทจะเน้นการให้บริการในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟอาฟเตอร์เซลส์เซอร์วิส ที่จำหน่ายเฉพาะอะไหล่แท้จากแอสตัน มาร์ติน พร้อมทีมช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองจากแอสตัน มาร์ติน โดยให้บริการที่โชว์รูมพระราม 3 ซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ ทั้งนี้เอ็กซ์คลูซีฟอาฟเตอร์เซลส์เซอร์วิส จะรองรับบริการที่สำคัญ 8 ประการ ได้แก่ 1 ฟังก์ชั่นการให้บริการที่ตอบทุกโจทย์ของความหรูสุดคลาสสิค 2. ช่างเทคนิคที่ผ่านการรับรองจากมาร์ติน มาร์ติน ณ สำนักงานใหญ่ที่เมืองเกย์ดอน ( Aston at Gaydon - UK ) 3. ความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษ 4.บริการอะไหล่แท้ 5.การรับประกันด้านบริการหลังการขาย 5.บริการแพ็คเกจขยายการรับประกัน 7.บริการ Localization แพคเกจ 8.บริการคอลเซ็นเตอร์เพื่อมอบความประทับใจแก่ลูกค้า โดย Localization แพ็กเกจ จะตอบสนองครอบคลุมเฉพาะเจ้าของรถ แอสตัน มาร์ติน ที่ได้ซื้อรถจากตัวแทนจำหน่ายรายอื่น "แอสตัน มาร์ติน แบงคอก คือที่สุดของความพร้อมในการให้บริการที่ครบวงจร และความทันสมัยที่สุด ในประเทศไทย ที่สำคัญคือลูกค้าจะได้รับบริการจากช่างที่ผ่านการอบรมโดยตรงจากสำนักงานใหญ่ เมืองเกย์ดอน (Gaydon ) " ทั้งนี้ แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ได้ตั้งราคาจำหน่าย แวนควิช (Vanquish ) , แรพพิด เอส (Rapide S ), ดีบี 9 ( DB9 ) และแวนเทจ( Vantage คันละ 13 – 20 ล้านบาท ทางด้าน ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม แห่งมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ “เอ็มจีซี “ กล่าวว่า แอสตัน มาร์ติน แบงคอก มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จเกินคาด เนื่องจากความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตอย่างสูงในขณะนี้ "ผมมั่นใจอย่างที่สุดว่าคุณสุทธิพงษ์ จะส่งมอบประสบการณ์การที่ดี สู่ลูกค้า แอสตัน มาร์ตินของเราด้วยประสบการณ์ที่เขาผ่านงานจาก บริษัทข้ามชาติระดับโลก ที่สำคัญคือจิตวิญญาณที่เขามีต่อแบรนด์แอสตัน มาร์ตินจะเป็นแรงส่งให้เราบรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง "