เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ เลกซัส CT 200h สุดยอดไฮบริดแฮทช์แบคระดับหรู ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีของการขับขี่แบบ “Full Hybrid” ที่ให้สมรรถนะเต็มประสิทธิภาพผสมผสานกับเอกลักษณ์แห่งการออกแบบที่เน้นความพิถีพิถัน แต่แฝงไปด้วยอารมณ์ของความสปอร์ตให้ความรู้สึกที่เร้าใจในทุกครั้งที่สัมผัส
เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ เลกซัส CT200h สุดยอดไฮบริด แฮทช์แบคให้กับลูกค้าชาวไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554 ด้วยความเป็นรถขนาดคอมแพ็คท์ห้าประตูรุ่นแรกของเลกซัส ที่มาพร้อมระบบไฮบริดเต็มรูปแบบ ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์ตามปรัชญา อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ เลกซัสที่ประสานแนวคิดที่แตกต่างให้เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนความหรูหรา ประกอบไปด้วยความรื่นรมย์ในการขับขี่ ความภาคภูมิ ความก้าวล้ำด้านนวัตกรรม และรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้เลกซัส CT 200h ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า




ภายนอก...The New Lexus CT 200h
ให้ความรู้สึกสง่างาม และปราดเปรียว
กระจังหน้าใหม่แบบ Spindle Grille บ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะของเลกซัสได้เป็นอย่างดี
กันชนหน้า และกันชนท้าย ดีไซน์ใหม่ในสไตล์สปอร์ต ให้ความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยพลัง
โดดเด่นด้วยหลอดไฟ LED รวมถึงไฟตัดหมอกพร้อมเลนส์แบบ PES (โพลิเอสเตอร์) ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดของโลก ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
สปอร์ตเข้ม...เต็มขั้นกับล้ออลูมิเนียมสีเทาดำ เคลือบด้วยสี Dark Graphite ช่วยเพิ่มความโดดเด่น ตามแบบฉบับของรถสปอร์ต (เฉพาะรุ่น F Sport)
สปอยเลอร์หลังคาดีไซน์ใหม่ มีช่องช่วยควบคุมการไหลของอากาศ เพิ่มสมรรถนะในการทรงตัว ให้ความรู้สึกปราดเปรียวขณะขับขี่ (เฉพาะรุ่น F Sport)
เต็มดีกรีความสปอร์ตด้วยหลังคาสีดำ หรือสีเดียวกับตัวรถ




ภายใน...The New Lexus CT 200h
สะท้อนความหรูหรา เร้าใจ
โดดเด่นด้วยเฉดสีของวัสดุหุ้มเบาะ เเละแผงประตู ที่สามารถเลือกได้ตามใจ
พวงมาลัยหุ้มหนังเเท้แบบเจาะรู ให้ความรู้สึกหรูหรา
หัวเกียร์ และระบบควบคุมมัลติฟังก์ชั่น (Remote Touch Interface) ดีไซน์ใหม่ พร้อมหน้าจอเเสดงผลที่ออกแบบใหม่ ช่วยควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
เพิ่มจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ในมาตรวัดมิเตอร์ ยกระดับความสะดวกสบายและปลอดภัยในขณะขับขี่
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
ของ The New Lexus CT 200h
เครื่องยนต์ เทคโนโลยีล้ำหน้าแห่งอนาคต ในระบบเครื่องยนต์ Atkinson Cycle ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ประหยัดคุ้มค่า
มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ที่พัฒนาระบบเกียร์ทดกำลังให้มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบายิ่งขึ้น แต่สามารถรองรับการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้น ด้วยมอเตอร์แบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 650 โวลต์ กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ (82 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร
รูปแบบการขับขี่ ที่เลือกปรับได้ถึง 4 โหมด ทั้งโหมด EV สำหรับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ให้ความเงียบสงบในทุกการขับเคลื่อน โหมด Normal สำหรับการขับขี่แบบปกติ โหมด Eco สำหรับความประหยัดสูงสุด โหมด Sport สำหรับการขับที่มอบประสบการณ์แห่งความสปอร์ตเร้าใจ
หน่วยควบคุมไฟฟ้า (Power Control Unit) ทำหน้าที่ควบคุมไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี และไฟฟ้ากระแสสลับจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม
ระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่อง ซึ่งควบคุมด้วยระบบอิเลคทรอนิก (ECVT) พร้อมระบบลดระดับเกียร์แบบ Two-speed และโหมดการขับขี่บนหิมะ (Snow Mode)
แบตเตอรีไฮบริด Ni-MH (Nickel–Metal Hydride) ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทำให้แบตเตอรี ไฮบริดมีน้ำหนักเบาขึ้น ทนทานยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม
ความปลอดภัย ทุกการเดินทางคือความอุ่นใจ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS – Anti-lock Braking System) สำหรับการเบรกแบบกะทันหันบนถนนที่เปียก
ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับควบคุมทิศทางของรถได้ดีขึ้น
ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC – Vehicle Stability Control) ที่ทำงานร่วมกับ EPS (Electronic Power
Steering) รักษาการทรงตัวของรถในทุกสภาพการขับขี่ โดยการสั่งให้เครื่องยนต์ลดความเร็วอัตโนมัติ และ
ควบคุมน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสม เพื่อรักษาการทรงตัวของรถให้สมดุลที่สุด
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ในทุกๆการเบรก ระบบจะปรับแรงดัน
น้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อให้เหมาะสมกับน้ำหนักที่กดลงในแต่ละล้อ เพื่อประสิทธิภาพการเบรกที่ดีขึ้น
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC – Traction Control System) คอยควบคุมและป้องกันการลื่นไถลของล้อ
เมื่อมีการเหยียบคันเร่งมากเกินไปขณะออกตัว หรือการเร่งความเร็วแบบกะทันหันบนถนนลื่น
ระบบ Active Brake Lights ระบบจะช่วยเตือนรถที่ตามมา ด้วยชุดไฟเบรคที่จะกระพริบเป็นจังหวะอย่าง
รวดเร็วในขณะที่เบรค ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการถูกชนท้าย
ระบบ Hill-Start Assist Control ระบบที่จะช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ป้องกันไม่ให้รถไหลลงขณะออกตัว พร้อมลดอาการล้อหมุนฟรี ในขณะขับขี่บนถนนลื่นบนทางลาดชัน
ความปลอดภัย แบบปกป้อง (Passive Safety)
Pedestrian Protection การออกแบบฝากระโปรง ที่ดูดซับแรงกระแทก และที่ปัดน้ำฝน ให้ช่วยลดอาการบาดเจ็บ ในกรณีที่เกิดการชนคนเดินเท้า
เสริมถุงลมคู่หน้า Twin-chamber Passenger Car ให้ความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และลดผลกระทบสูงสุดในกรณีเกิดการชน
ผลการทดสอบการชนจาก Euro NCAP และ NCAP (USA) ที่ระดับ 5 ดาว และ J-NCAP (Japan) ที่ระดับ 6 ดาว การันตีความปลอดภัยขั้นสูงสุด สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร


ราคาจำหน่ายเลกซัส CT200h
The New Lexus CT 200h F Sport Navi MR 1,999,000 บาท
The New Lexus CT 200h Premium Navi MR 2,840,000 บาท
The New Lexus CT 200h Premium Navi 3,040,000 บาท
The New Lexus CT 200h F Sport 2,740,000 บาท
The New Lexus CT 200h Luxury Leather 2,290,000 บาท
The New Lexus CT 200h Luxury Fabric 2,690,000 บาท
สนใจสามารถเยี่ยมชมยนตรกรรมไฮบริดแฮทช์แบคสุดเร้าใจ “เลกซัส CT200h” ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด, บริษัท เลกซัส สุขุมวิท จำกัด, บริษัท เลกซัส ออโต้ ซิตี้ จำกัด