THE NEW ROLLS-ROYCE PHANTOM ยานยนต์แฟนธอมรุ่นที่ 8 คือสุดยอดยานยนต์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งมาตรฐานขั้นสูงและงานศิลป์ชิ้นเอกที่หลอมรวมความปรารถนาส่วนตัวของนักขับโรลส์-รอยซ์ ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ร่วมสมัยในทุกรายละเอียด ซึ่งพร้อมมอบ “การขับขี่ที่นุ่มนวลราวพรมวิเศษ” ที่เหนือระดับในทุกสภาวะ
THE NEW ROLLS-ROYCE PHANTOM ออกแบบด้วยโครงรถยนต์แบบ Spaceframe โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมทั้งหมดที่คิดค้นโดยทีมวิศวกรของ โรลส์-รอยซ์ ซึ่งจะใช้ในรถยนต์โรลส์-รอยซ์ทุกรุ่นโดยเริ่มต้นจากรุ่นนิว แฟนธอม ดังนั้นในอนาคตข้างหน้าจะไม่มีรถยนต์โรลส์-รอยซ์คันใดที่ใช้โครงรถแบบ Monocoque เหมือนที่พบในแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากหรือแบรนด์ยานยนต์ระดับหรูอื่น ๆ ในท้องตลาด และยังมีความแข็งแกร่งมากกว่าแฟนธอมรุ่นก่อน ๆ ถึง 30% ทำให้มีสมรรถนะที่เหนือกว่า
สิ่งที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่งขั้นสุดยอดของโครงสร้างแบบ Spaceframe คือโครงช่วงล่างที่มอบความสะดวกสบายที่สุดในรถยนต์คลาสเดียวกันด้วยระบบกันสะเทือนแบบอากาศและระบบการควบคุมโครงช่วงล่างที่ดีเยี่ยม มอบการขับขี่และการควบคุมที่ง่ายดาย รวมถึงตัวเลือกฟังก์ชั่นเสริมประสิทธิภาพระบบกันสะเทือน
เพลาหน้าพร้อมปีกนกคู่รูปแบบใหม่และเพลาหลังแบบเชื่อมต่อ 5จุด มอบประสิทธิภาพการควบคุมอันน่าทึ่งเมื่อเกิดการพลิกตัวและแรงเฉือนด้านข้าง พร้อมความคล่องตัวและเสถียรภาพที่ดีเยี่ยมอย่างเหลือเชื่อ รวมถึงติดตั้งพวงมาลัยขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งทำงานประสานกันเพื่อมอบความสบายแก่ผู้โดยสารในทุกสภาวะการขับขี่

รูปทรงด้านหน้าของตัวรถสื่อให้เห็นถึงความเป็นยานยนต์แฟนธอมอย่างชัดเจนผ่านการปรับเปลี่ยนรูปทรงของตะแกรงหน้ารถทรงแพนธีออน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบรถยนต์รุ่นนี้ โดยส่วนตะแกรงถูกยกสูงขึ้นกว่ารุ่นแฟนธอม VII เช่นเดียวกับสัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี (Spirit of Ecstasy) ที่วางตำแหน่งสูงกว่าเดิมประมาณครึ่งนิ้ว
นอกจากนี้ ดีไซน์กราฟิกของไฟหน้าใหม่ล่าสุดยังมอบภาพลักษณ์ที่สื่อถึงความมั่นใจและมุ่งมั่น ด้วยการตกแต่งวัสดุกระจกฝ้าด้านในที่ให้ความรู้สึกเปิดกว้างและการมองโลกในแง่บวก ติดตั้งด้วยไฟวงแหวนสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันและระบบไฟเลเซอร์ที่ทันสมัยที่สามารถส่องสว่างบนท่องถนนในเวลากลางคืนได้ไกลถึง 600เมตร
รูปทรงที่ลื่นไหลเกิดจากงานประกอบโครงรถโดยช่างฝีมือที่มอบความสวยงาม สุนทรีภาพ และรอยต่อที่ประณีตบนตัวรถ โครงเส้นหลักที่ลากจากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง เริ่มต้นจากขอบบนของตะแกรงหน้าที่ลากออกด้านนอกไปตามข้างตัวรถไล่จนถึงด้านหลัง ทำให้ นิว แฟนธอม มอบความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว ส่วนแนวเส้นปีกด้านหน้าที่ค่อย ๆ เลือนไปหลังมือจับประตูสื่อถึงสัมผัสแห่งการก้าวเดินไปข้างหน้าและความไหลลื่นของยานยนต์
ชิ้นส่วนตะแกรงหน้าผลิตจากสเตนเลสขัดมันโดยช่างฝีมือ ซึ่งเป็นวัสดุที่ช่วยเสริมความล้ำค่าและความงดงามที่เหนือกาลเวลา รวมถึงภาพลักษณ์ของสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ของ นิว แฟนธอม ผ่านการใช้วัสดุที่มอบความรู้สึกอบอุ่นและผิวสัมผัสชั้นสูง ขอบด้านบนของตะแกรงตกแต่งด้วยแถบสเตนเลสที่โค้งรับไปตามขอบบนของกระโปรงรถและล้อมรอบบานกระจกหน้า ช่วยขับเน้นความยาวของกระโปรงรถ และเชื่อมโยงห้องโดยสารให้คล้อยลงสู่ส่วนล่างของตัวรถอย่างลื่นไหลเมื่อตัวรถเคลื่อนผ่านอย่างพลิ้วไหวไปตามสายลม


รูปทรงด้านข้างของนิว แฟนธอม ออกแบบในสัดส่วน 2:1ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งทำให้รถยนต์แฟนธอมทุกรุ่นเป็นที่ชื่นชอบของนักขับมาโดยตลอด โดยตัวรถด้านหน้าจะสั้นและด้านหลังถูกออกแบบให้ยื่นยาว โดยส่วนหน้าจะเชิดขึ้นและไหลลื่นต่อเนื่องไปยังส่วนท้ายโดยรูปทรงจากด้านท้ายของตัวรถในด้านข้างจะเป็นม้วนเป็นวงกลมมาที่ด้านหน้าและนำสายตาไปยังส่วนล้อหน้า โครงสเตนเลสด้านข้างแบบชิ้นเดียวขัดมันโดยช่างฝีมือซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดช่วยเสริมความหรูหราสง่างามให้กับนิว แฟนธอม และด้วยแนวเส้นสายรูปวงกลมที่อ่อนโยน ช่วยเสริมให้เสา C-pillar มีความโดดเด่นและนำสายตาไปสู่ด้านหลังของตัวรถอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้แฟนธอมในรุ่นฐานล้อยาวยังตกแต่งด้วยแถบสเตนเลสขัดมันที่ขอบช่วงล้อ เพื่อทำให้ยานยนต์รุ่นนี้แลดูแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น
การออกแบบส่วนท้ายรถนำเสนอความสวยงามอย่างโดดเด่น ด้วยการนำรูปแบบส่วนท้ายที่พลิ้วไหวของรถยนต์แฟนธอมในทศวรรษ 1950 และ 1960 มาผสมผสานกันอย่างลงตัวกระจกหน้าต่างหลังตกแต่งด้วยกรอบสเตนเลสของช่างฝีมือที่งดงามอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้มีความหรูหราและทันสมัยมากกว่าแฟนธอมรุ่นก่อน ส่วนลวดลายอันละเอียดอ่อนบนหลังคาส่วนท้ายที่ปกคลุมเหนือผู้โดยสารเบาะหลัง ช่วยขับเน้นพื้นที่ว่างเหนือศีรษะให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
นิว แฟนธอม ดึงดูดทุกสายตาด้วยส่วนท้ายที่มีดีไซน์แบบปลายสอบเข้าอย่างลงตัว ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมขึ้นรูปที่มีความคงตัวสูงเพื่อให้ได้พื้นผิวที่ไร้รอยต่อและรูปทรงของกันชนที่ลื่นไหลไปรอบ ๆ กราฟิกไฟท้าย ส่วนรอยพับอันประณีตบนฝากระโปรงหลังซึ่งชวนให้นึกถึงยานยนต์แฟนธอมที่มีความโดดเด่นรุ่นก่อน ๆ ถูกออกแบบให้มีความลื่นไหลสอดรับกับพื้นผิวกระโปรงหลังรูปแบบใหม่ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน วัสดุสเตนเลสของส่วนรอยพับนี้ยังเชื่อมโยงกับส่วนตะแกรงหน้า และช่วยให้อากาศไหลผ่านไปยังส่วนท้ายรถได้อย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ ไฟท้ายที่งดงามดั่งอัญมณียังตกแต่งด้วยเครื่องหมายตัวอาร์ (R) ซ้อนกันของโรลส์-รอยซ์อย่างประณีตสวยงาม
วัสดุสเตนเลสขัดมันโดยช่างฝีมือยังถูกนำมาใช้เพื่อเสริมความหรูหราให้แก่จุดสัมผัสแรกที่นักขับจะต้องสัมผัสกับนิว แฟนธอม นั่นคือมือจับของประตูแบบ Coach Doorโดย โรลส์-รอยซ์ มีแนวคิดที่แตกต่างจากแบรนด์รถยนต์อื่น ๆ ที่ตกแต่งมือจับแบบฉาบฉวยเท่านั้น เนื่องจาก โรลส์-รอยซ์ เข้าใจดีว่าวัสดุของมือจับประตูคือกุญแจสำคัญของการมอบประสบการณ์การขับขี่ชั้นเลิศในทุก ๆ วันให้แก่นักขับ และวัสดุที่มอบสัมผัสอันหรูหราและสวยงามจะสร้างความพึงพอใจอย่างมากแก่ผู้ครอบครองรถ

ภาพลักษณ์ที่สวยงามสะดุดตาของแฟนธอมมาบรรจบที่ส่วนล้อ ซึ่งแน่นอนว่าถูกออกแบบให้สอดคล้องกับสัดส่วนทองคำตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์ สิ่งสำคัญที่มอบสัมผัสแห่งการโบยบินบนท้องถนนที่แท้จริงคือล้ออัลลอยคุณภาพระดับพรีเมียมที่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยใช้ในยานยนต์โรลส์-รอยซ์ ล้อขนาด 22 นิ้วเมื่อห่อหุ้มด้วยยางเทคโนโลยี Seal Technology Tyres จะมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลราวพรมวิเศษ ซึ่งหาไม่ได้ในรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ รุ่นก่อน
การเข้าสู่ห้องโดยสารของ นิว แฟนธอม ทุกครั้งถือเป็นประสบการณ์พิเศษในตัวเอง เมื่อเปิดประตูแบบ Coach Door ออก คุณต้องเลือกเพียงว่าจะเป็นผู้ขับเคลื่อนหรือถูกขับเคลื่อน เมื่อนักขับก้าวขึ้นสู่ตัวรถ ผู้ช่วยหรือคนรับใช้จะก้าวมาข้างหน้าและสัมผัสเซ็นเซอร์อย่างนุ่มนวลที่มือจับประตู ประตูจะปิดลงอย่างเงียบกริบเพื่อนำผู้โดยสารเข้าสู่การรองรับสรีระที่เป็นเลิศของสุดยอดยานยนต์ระดับหรูของโลก

พื้นฐานของความสะดวกสบายและความรื่นรมย์สำหรับผู้โดยสารในเบาะหลังของนิว แฟนธอม ก็คือ“การรองรับสรีระที่เป็นเลิศ” ซึ่งแนวคิดนี้เกิดจากการสร้างนิยามใหม่แห่งความสะดวกสบายและความประณีตในแบบฉบับ โรลส์-รอยซ์ ซึ่งได้กลายเป็นมาตรฐานระดับสูงของผู้ผลิตยานยนต์ทุกรูปแบบในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายราวกับรังไหมที่พร้อมโอบอุ้มผู้โดยสารไว้ภายในด้วยวัสดุตกแต่งห้องโดยสารชั้นเยี่ยม นอกจากประตูทั้งสี่จะใช้เทคโนโลยีใหม่นี้เพื่อการโอบอุ้มผู้โดยสารแล้ว ทั้งประตูหลังและประตูหน้าแบบใหม่ยังสามารถปิดได้อย่างง่ายดายจากด้านในของห้องโดยสาร
นิว แฟนธอม มอบความเป็นเลิศสมดังความคาดหวังที่นักขับปรารถนาจากโรลส์-รอยซ์ จากการตกแต่งห้องโดยสารด้วยวัสดุที่ล้ำค่าที่สุดและมอบความสวยงามในแบบร่วมสมัย หากสิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ สัมผัสที่เบาสบายและความเรียบง่าย ตลอดจนความหรูหราที่สะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ด้วยการออกแบบเบาะหลังที่มอบความสะดวกสบายขั้นสุดยอด ทำให้ผู้โดยสารได้รับการปกป้องในห้องโดยสารที่แทบจะเงียบสนิทราวกับอยู่ในหมอนอัดอากาศซึ่งเกิดจากระบบการขับขี่และระบบป้องกันเสียงรบกวนขั้นสูง เมื่อต้องการพื้นที่ในการใช้ความคิดไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจหรือเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ผู้โดยสารจะสามารถผ่อนคลายและเกิดแรงบันดาลใจได้จากการตกแต่งแบบ Starlight Headlinerอันงดงามที่มีในยานยนต์โรลส์-รอยซ์เท่านั้นเสริมความหรูหราด้วยวัสดุไม้บุพื้นผิวอันประณีตที่มีความเงางามสูง โดยใช้บุตกแต่งทั้งส่วนด้านในประตูรถ คอนโซลกลาง แผงหน้าปัด และโต๊ะปิกนิก เพื่อให้ผู้โดยสารแวดล้อมด้วยวัสดุตกแต่งที่สวยงามและมอบสุนทรีภาพแห่งการเดินทางที่ดีเลิศที่สุด

รูปทรงห้องโดยสารส่วนหน้ามีลักษณะเพรียวไปด้านหน้าสื่อให้เห็นถึงธรรมชาติของการเคลื่อนที่ ซึ่งตรงข้ามกับห้องโดยสารส่วนหลังที่เน้นการเอนกายพักผ่อนในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สำหรับการออกแบบที่พักแขน นำรูปแบบมาจากเรือยอชท์รุ่น J-Classมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ซึ่งทั้งการบุผิวและรูปทรงแบบ “ลำเรือ” ของที่พักแขน นำมาจากเรือยอชท์ขนาดใหญ่รุ่นนี้อย่างชัดเจน
เบาะนั่งได้รับการออกแบบใหม่และผลิตโดยช่างฝีมือเพื่อมอบความสบายที่เหนือกว่า โดยเน้นองค์ประกอบแนวนอนให้เด่นชัดตรงส่วนบนของเบาะเพื่อสื่อถึงสัมผัสที่กว้างขวาง สะดวกสบาย และท่วงท่าที่เหมาะสม พร้อมกับใช้องค์ประกอบแนวตั้งจากการตีความในรูปแบบของ “เบาะหัวกระสุน” ซึ่งพบได้ในโรลส์-รอยซ์ รุ่นเรธ และ ดอว์น ก่อนหน้านี้ การใช้วัสดุไม้บุพื้นผิวในการบุส่วนหลังของเบาะหน้าได้รับอิทธิพลมาจากเก้าอี้สไตล์ Eames Lounge Chair อันโด่งดังในปี ค.ศ. 1956 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่หลงใหลในความหรูหรา และถูกจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการถาวรภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งกรุงนิวยอร์ก

ภายใต้วัสดุไม้บุพื้นผิวด้านหลังของเบาะหน้า ซุกซ่อนไว้ด้วยส่วนใช้สอยและเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างชาญฉลาด ทั้งโต๊ะปิกนิกและจอภาพสำหรับห้องโดยสารด้านหลัง ซึ่งเปิดใช้งานด้วยระบบไฟฟ้าและพับเก็บได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มควบคุมเพื่อมอบประสบการณ์ความบันเทิงในรูปแบบโรงละครขนาดเล็กส่วนตัวชั้นเลิศเพียงปลายนิ้วสัมผัส ความใส่ใจในรายละเอียดอันเป็นแนวทางการทำงานของโรลส์-รอยซ์ นั้นครอบคลุมถึงทุกเรื่อง แม้แต่การควบคุมตำแหน่งเบาะนั่ง ซึ่งในรถยนต์ นิว แฟนธอม ถูกปรับเปลี่ยนตำแหน่งจากการติดตั้งจุดควบคุมบนที่พักแขนกลาง มาเป็นการแยกควบคุมตามความต้องการของผู้นั่งแต่ละคนอย่างเป็นธรรมชาติ
นักขับและผู้โดยสารในยานยนต์แฟนธอมสามารถปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้แตกต่างให้ตรงตามความต้องการของแต่ละคนได้อย่างอิสระ โดยสามารถเลือกได้ทั้งเบาะนั่งสไตล์เลานจ์ (Lounge Seat), เบาะเดี่ยวพร้อมที่วางแขน (Individual Seats with occasional armrest) หรือเบาะเดี่ยวพร้อมคอนโซลกลางแบบติดตายตัว (Individual Seats with Fixed Centre Console)และเบาะนอนแบบใหม่ล่าสุด
คอนโซลกลางด้านหลังแบบติดตายตัว (Fixed Rear Centre Console)แบบใหม่ได้รับการปรับปรุงคุณภาพโดยเพิ่มส่วนตู้เก็บเครื่องดื่ม แก้ววิสกี้กับคนโท แก้วแชมเปญ และช่องแช่เย็น นอกจากนี้ ยังมีการจัดตำแหน่งของเบาะหลังอย่างพิถีพิถันเพื่อให้การพักผ่อนและการสังสรรค์ของผู้โดยสารในเบาะหลังมีความสะดวกสบายมากที่สุด ทำให้ทุกคนในห้องโดยสารสามารถพูดคุยกันได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินโดยไม่เกิดความเมื่อยล้าในส่วนคอ

นิว แฟนธอม มอบสัมผัสที่หรูหราน่าพอใจในทุกตารางนิ้วด้วยการเลือกสรรเฉพาะวัสดุที่ดีที่สุดและมอบสุนทรีภาพในการสัมผัสมากที่สุดในทุกรายละเอียดของห้องโดยสาร ปุ่มควบคุมทุกชิ้นล้วนใช้วัสดุโลหะ อาทิ ปุ่มควบคุมช่องลมแบบ Eyeballและลิ้นปิดท่อ ปุ่มควบคุมตำแหน่งเบาะนั่งและดวงไฟ ปุ่มควบคุมหน้าต่างแบบ Violin Keyรวมถึงการใช้วัสดุแก้ว และการบุด้วยหนังเนื้อดี อาทิ ส่วนหน้าปัด รวมถึงตัวควบคุมสัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี (Spirit of Ecstasy) ทั้งส่วนหน้าและหลังรูปแบบใหม่
นิว แฟนธอม ยังนำเสนอความสบายและความประณีตของห้องโดยสารที่เหนือระดับ ด้วยระบบทำความร้อนที่พื้นผิวซึ่งทำงานร่วมกับระบบให้ความร้อนแก่เบาะนั่ง โดยพื้นผิวในห้องโดยสารที่สามารถทำความร้อนได้ครอบคลุมทั้งส่วนที่พักแขนบนประตูหน้า ฝาคอนโซลกลางของเบาะหน้า เสา C-pillar ส่วนล่าง ที่พักแขนด้านข้างของเบาะหลัง รวมถึงเบาะนั่งแบบเดี่ยวทั้งหมด และที่พักแขนกลางของเบาะหลัง
แนวคิด The Gallery ห้องแสดงผลงานศิลปะสุดล้ำของยานยนต์ระดับหรู หนึ่งในหัวใจสำคัญด้านสุนทรีศาสตร์ในการออกแบบแนวใหม่ของนิว แฟนธอม คือThe Gallery-แนวคิดห้องแสดงผลงานศิลปะซึ่งเป็นการตีความภาพลักษณ์ความร่วมสมัยและความหรูหราในส่วนแผงหน้าปัดและแผงควบคุมของรถยนต์ใหม่ทั้งหมด
แม้ยังคงใช้รูปแบบแผงหน้าปัดขนาดใหญ่ที่เชิดขึ้นในแนวร่วมสมัยตามแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์ หากการใช้วัสดุวีเนียร์บนแผงหน้าปัดแบบชิ้นเดียวในรูปทรงสมมาตรสะอาดตา สามารถนำสายตาขึ้นจากส่วนกลางออกสู่ด้านข้าง ทำให้รู้สึกว่าแผงหน้าปัดของรถกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ทุกองค์ประกอบภายใต้แนวคิดThe Gallery ถูกห่อหุ้มด้วยแผงกระจกนิรภัยที่คลุมความกว้างทั้งหมดของพื้นที่แผงหน้าปัด โดยมีการตกแต่งหน้าปัดดิจิทัลด้วยกรอบโลหะเคลือบโครเมียมให้เงางามดุจอัญมณี และสร้างความต่อเนื่องตลอดทั้งส่วนหน้าของห้องโดยสาร

เบื้องหลังกรอบหน้าปัดโครเมียมนี้ โรลส์-รอยซ์ ติดตั้งเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพนักงานขับรถของผู้ครอบครองรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ทั่วโลกต่างเรียกร้อง นั่นคือ จอแสดงผลแบบ TFTขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมไฟแบ็กไลท์แบบ LED เพื่อแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดแก่นักขับบนแผงหน้าปัดเหล่านี้ ด้วยเข็มหน้าปัดเสมือนจริงที่ออกแบบมาอย่างสวยงามและมองเห็นได้อย่างชัดเจน รวมถึงวงหน้าปัดที่งดงามดุจอัญมณีและตัวอักษรที่ชัดเจนในแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์
นอกเหนือจากข้อมูลด้านความเร็ว พลังงานสำรอง เชื้อเพลิง และอุณหภูมิ จอแสดงผลนี้ยังทำหน้าที่บอกข้อมูลสำคัญในด้านการตั้งค่าระบบช่วยขับทางไกล คำแนะนำการใช้ระบบนำทาง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และข้อมูลทั้งหมดของรถยนต์
แนวคิด The Gallery มอบความหรูหราอีกขั้นด้วยนาฬิกาแบบอะนาล็อกหน้าปัดแก้วอันโดดเด่น เสมือนการบ่งบอกว่านี่คือ “เสียงที่ดังกังวานที่สุดที่คุณจะได้ยินเมื่ออยู่บนยานยนต์โรลส์-รอยซ์...” และจอแสดงผลกลางซึ่งสามารถพับไว้ด้านหลังช่องคอนโซลกลางได้เมื่อไม่ใช้งาน
นาฬิกามาตรฐานมีส่วนหน้าปัดสีเข้มขรึมและล้อมกรอบด้วยหนังสีดำ อย่างไรก็ตาม นาฬิกาสั่งทำพิเศษแต่ละเรือนล้วนมีการออกแบบที่ประณีตงดงามยิ่งกว่า อาทิ การออกแบบส่วนหน้าปัดที่ใช้ไฟแบ็กไลท์ที่สว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมตกแต่งด้วยรายละเอียดและก้านถ่วงที่งดงามดั่งแก้วคริสตัล และตกแต่งพื้นผิวอย่างงดงามตามแนวคิด “แนวคิดห้องแสดงผลงานศิลปะสุดล้ำของยานยนต์ระดับหรู”
โรลส์-รอยซ์ ได้ทำงานร่วมกับศิลปิน นักออกแบบ และผู้สะสมงานศิลป์มาแล้วจำนวนมาก เพื่อแสดงให้เห็นว่าแนวทางการสร้างสรรค์แบบใดสามารถนำมาใช้ได้ในแนวคิด The Galleryเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ครอบครองรถยนต์ โดยผลงานศิลปะที่ทำงานนั้นมีหลายรูปแบบ นับตั้งแต่ภาพสีน้ำมันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพ South Downs of England in Autumnโดยศิลปินแนววิจิตรศิลป์ Lian Yangwei, แผนที่พันธุกรรมติดแผ่นทองคำแบบ 3 มิติของเจ้าของรถยนต์ สร้างสรรค์โดยทีม enfant terrible แห่งบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ Thorsten Franck ในเยอรมัน, ดอกกุหลาบพอซเลนที่ผลิตด้วยมืออย่างประณีต โดยผู้ผลิตเครื่องพอซเลนชื่อดังระดับโลกNymphenbergตลอดจนผลงานแนวนามธรรมจากผ้าไหม โดยศิลปินขาวอังกฤษรุ่นเยาว์ Helen Amy Murrayเหล่านี้คือตัวอย่างของผลงานการสร้างสรรค์ที่ได้แรงบันดาลใจจากพื้นที่ว่างของแนวคิดThe Galleryซึ่งแทบไม่มีใครเคยนึกถึงมาก่อน

นอกเหนือจากภารกิจรถยนต์สั่งทำพิเศษซึ่งต้องใช้เวลานานในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อส่งมอบแก่เจ้าของ ทีมช่างฝีมือและนักออกแบบของ โรลส์-รอยซ์ ที่ Home of Rolls-Royceในกู้ดวูด ยังได้สร้างสรรค์คอลเลกชั่นงานศิลป์เพื่ออนาคตอันน่าตื่นตะลึงซึ่งทำจากผ้าไหม ไม้ โลหะ และหนัง ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทันที
หัวใจของ โรลส์-รอยซ์ –สุดยอดเครื่องยนต์ที่พัฒนาใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.75 ลิตร รุ่นใหม่ของแฟนธอมใช้ตัวอัดบรรจุอากาศเทอร์โบแบบคู่ ซึ่งมอบแรงบิดต่ำสุดที่ 900 นิวตันเมตรในระดับการหมุนเหลือเชื่อที่ 1,700 รอบต่อนาที โดยยังคงมอบพลังขับเคลื่อนสูงถึง 571 แรงม้า หรือ 420 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถวิ่งได้เงียบแม้ในระดับความเร็วต่ำ มอบความรู้สึกพิเศษของการโดยสารและไร้การกระตุกของเครื่องเมื่อต้องการเร่งความเร็ว การติดตั้งระบบส่งกำลังแบบ Satellite Aided Transmission (SAT) เพิ่มเติมซึ่งทำงานผสานกับกระปุกเกียร์รุ่น ZF8 สปีด
THE NEW ROLLS-ROYCE PHANTOM ยังเพียบพร้อมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อาทิระบบผู้ช่วยแจ้งเตือน (Alertness Assistant),ระบบกล้อง 4 ตัวพร้อมภาพจอกว้าง (4-camera system with Panoramic View),ระบบทัศนียภาพรอบทิศทางรวมถึงมุมมองจากด้านบน (all-round visibility including helicopter view),ทัศนวิสัยยามราตรีและตัวช่วยทัศนวิสัย (Night Vision and Vision Assist),ระบบควบคุมการขับขี่ระยะไกลแบบแอ็คทีฟ (Active Cruise Control),ระบบเตือนการปะทะ (collision warning),ระบบเตือนคนเดินเท้า (pedestrian warning), ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (cross-traffic warning), ระบบเตือนเมื่อออกนอกช่องทางและเปลี่ยนช่องทาง (lane departure and lane change warning),ระบบการแสดงผลความละเอียดสูงด้านหน้าคนขับแบบ 7x3ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ (7x3 high-resolution head-up display), จุดกระจายสัญญาณ WiFi hotspot, และระบบนำทางและความบันเทิงที่ทันสมัยที่สุด