เรนาสโซ มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เปิดตัว อูรุส ซูเปอร์เอสยูวี คันแรกของโลกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่ได้รับการถ่ายทอดดีเอ็นเอของแบรนด์ลัมโบร์กินี ทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และการมอบประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตที่เหนือระดับ สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันและทุกสภาพการขับขี่ อูรุส จึงนับเป็นการเปิดเซกเมนต์ใหม่ในตลาดรถยนต์ลักซูรี ในฐานะซูเปอร์เอสยูวี ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อูรุสคือรถลัมโบร์กินีสายพันธุ์ใหม่ที่ลงตัวสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับครอบครัว ที่คงคาแรกเตอร์ของลัมโบร์กินีทั้งภายนอกและภายในไว้อย่างชัดเจน ดีไซน์ภายในสปอร์ตหรู มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ยังสามารถควบคุมและขับขี่ได้ง่าย คล่องตัว ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางบนทุกสภาพถนน ผ่าน Tamburo – Lamborghini driving dynamics control อูรุสจึงเป็นซูเปอร์เอสยูวีตัวจริงที่ก้าวข้ามขีดจำกัด และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสูงสุดของลูกค้าทั่วโลก

มร. ดาวิเด ซเฟรโคลา ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าว “ลัมโบร์กินี อูรุส คือวิสัยทัศน์ที่ก้าวล้ำในการผนวกดีเอ็นเอของลัมโบร์กินี เข้ากับยนตรกรรมอเนกประสงค์หรือรถยนต์เอสยูวี อูรุสจึงยกระดับเอสยูวีให้ก้าวล้ำเกินกว่าสิ่งที่เคยเป็นไปได้ในวงการที่เรียกว่าเป็นซูเปอร์เอสยูวี ซึ่งเราเป็นแบรนด์ลัคชัวรี่ที่ไม่เหมือนใครพร้อมจะเปลี่ยนอนาคตและสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะเราอยากให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นที่สุดในโลก ที่ลัมโบร์กินีเท่านั้นจะมอบประสบการณ์นี้ให้กับคุณได้”

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด หรือ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ กล่าวว่า “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯมีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอ “ลัมโบร์กินี อูรุส” ซูเปอร์เอสยูวีคันแรกของโลกให้แก่ลูกค้าในเมืองไทย ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก ผมเชื่อมั่นว่า อูรุส ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอของแบรนด์ลัมโบร์กินีมาอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมมอบประสบการณ์ของรถซูเปอร์สปอร์ตลักซูรี จะยกระดับมาตรฐานรถซูเปอร์สปอร์ตให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น กลายเป็นขวัญใจหนึ่งเดียวของคนรักรถซูเปอร์เอสยูวี และครองใจผู้บริโภคไทยในทันทีที่เปิดตัว”
“ลัมโบร์กินี อูรุส มีราคาเริ่มต้นที่ 23.42 ล้านบาท พร้อมบริการหลังการขายระดับท็อปคลาสและบริการซ่อมบำรุงครบวงจรเป็นเวลา 5 ปี โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในการดูแลรถซูเปอร์คาร์หรูมากว่า 20 ปี ผมมั่นใจว่า อูรุส จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกท่าน โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ ในฐานะซูเปอร์เอสยูวีหนึ่งเดียวในตลาดรถยนต์ลักซูรีของไทย ทำให้เกิดมาตรฐานใหม่ในเซกเมนต์ และตอกย้ำความสำเร็จของ อูรุส ในตลาดโลก” ม.ล. ณัฐสิทธิ์กล่าวเสริม

“ลัมโบร์กินี อูรุส” รถซูเปอร์เอสยูวี 5 ที่นั่งที่มาพร้อมกับความหรูหราและทรงพลังที่สุดในรถเอสยูวีระดับเดียวกันและยังให้ประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร การออกแบบรูปทรงและเส้นสายของตัวรถยังคงเอกลักษณ์ความเป็นลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ทั้งรูปทรงด้านหน้าที่ดูปราดเปรียว ลาดลง และช่องรับอากาศด้านหน้าที่เป็นรูปตัว Y เข้ากันกับไฟหน้าแบบ LED ที่ดูเพรียวบาง โฉบเฉี่ยวไปกับประตูแบบไร้ขอบ ห้องโดยสารภายในสปอร์ตหรู สะท้อนเอกลักษณ์ลัมโบร์กินีด้วยดีไซน์ทรงหกเหลี่ยมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นช่องระบายอากาศ ที่จับประตู และที่วางแก้ว


นอกจากนี้อูรุสยังขับเคลื่อนด้วยสุดยอดเทคโนโลยีแห่งการขับขี่และความสะดวกสบาย เช่น พวงมาลัยสามก้านพร้อมระบบลดการสั่นสะเทือนและระบบมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัยที่ช่วยควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์เฉพาะของลัมโบร์กินี (Lamborghini Infotainment System-LIS) ทั้งการตั้งค่าในรถยนต์ ระบบแอปเปิลคาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ การควบคุมโทรศัพท์ ระบบนำทาง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะไร้กุญแจ พร้อมระบบปลดล็อคประตูรถแบบสัมผัสที่ประตูและกระโปรงหลัง เบาะนั่งปรับไฟฟ้าอัตโนมัติ และโหมดการขับขี่ EGO Mode ที่สามารถปรับเปลี่ยนคาแรกเตอร์ของรถให้ผู้ขับขี่เกิดความพึงพอใจสูงสุด

ลัมโบร์กินี อูรุส ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 650 แรงม้า (478 กิโลวัตต์) รอบสูงสุดที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตรที่ 2,250 รอบ/นาที จึงจัดได้ว่ามีสมรรถนะสูงสุดในรถเอสยูวี ระดับเดียวกัน ด้วยอัตราส่วนแรงม้าต่อที่ทำแรงม้าได้ถึง 162.7 แรงม้าต่อลิตร และอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักรถทำได้ดีที่สุดที่ 3.38 กก./แรงม้า นั่นเป็นเหตุผลให้อูรุสเป็นเอสยูวีที่ทำความเร็วได้ดีที่สุด ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชั่วโมงในเวลา 3.6 วินาที อัตราเร่งจาก 0-200 กม./ ชั่วโมงในเวลา 12.8 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 305 กม./ชั่วโมง

ระบบ Tamburo ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกมากถึง 6 โหมด ได้แก่
• STRADA สำหรับการขับขี่ทั่วไปที่ให้ความสบายเหนือชั้น
• SPORT สำหรับการขับขี่อย่างมั่นคงและแม่นยำในความเร็วสูง
• CORSA สำหรับการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะ และความแม่นยำสูงสุด
• NEVE สำหรับการขับขี่บนถนนที่มีหิมะ
• TERRA สำหรับการขับขี่แบบออฟโร้ด
• SABBIA สำหรับการขับขี่แบบออฟโร้ดบนผืนทราย
ทั้งนี้ อูรุสยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ทันสมัย (Advanced Driver Assistance Systems-ADAS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของลัมโบร์กินี ให้ความมั่นคง ปลอดภัย และสุนทรียภาพในการขับขี่สูงสุด รวมทั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เซนเซอร์หน้าและหลังสำหรับจอดรถ ระบบครูซคอนโทรล และระบบ PreCongnition ที่ช่วยป้องกันหรือบรรเทาความรุนแรงจากการปะทะ นอกจากนี้ ยังมีออฟชั่น ADAS ซึ่งมีระบบช่วยเหลือในการขับขี่บนท้องถนน เช่น กล้องจับภาพด้านบน และฟังก์ชั่นตะขอพ่วงรถด้านท้าย เป็นต้น
อูรุสถือว่าเป็นลัมโบร์กินีอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบ ขุมพลังและสมรรถนะที่เต็มเปี่ยม รวมถึงประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายและสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งนี่คือรถลัมโบร์กินีที่มีความอเนกประสงค์มากที่สุด

ข้อมูลเทคนิคของลัมโบร์กินี อูรุส
Engine
Type V8 Biturbo
Displacement 3,996 cc
Bore x stroke 86 x 86 mm
Compression ratio 9.7:1
Power 478 kW (650 CV) @ 6,000 rpm
Torque 850 Nm (626.93 lb-ft) @ 2,250 – 4,500 rpm
Transmission
Transmission type Four-wheel drive with limited slip central differential and asymmetric/dynamic torque distribution (Torsen-type)
Gearbox 8 speeds automatic transmission
Chassis
Suspension Adaptive air suspension with active damping, Active Roll stabilization system
Front wheel 21” Alcione shiny silver rims; 9.5 J x 21
Front tires Summer-Tires 285/45 ZR21
Rear wheel 21” Alcione shiny silver rims; 10.5 J x21
Rear tires Summer-Tires 315/40 ZR21
Front brake Carbon-ceramic discs ventilated and cross drilled with 440mm diameter and 40 mm thickness with calipers in aluminum with 10 pistons
Rear brake Carbon-ceramic discs ventilated and cross drilled with 370mm diameter and 30 mm thickness with calipers in aluminum with single piston
Dimensions and weights
Length 5,112 mm
Width Excl. mirrors 2,016 mm
Width Incl. mirrors 2,181 mm
Height 1,638 mm
Wheelbase 3,003 mm
Dry weight 2,200 kg (4,850 lb)
Weight distribution (F/R) 58 / 42
Fuel tank capacity 75 l – 19.81 gallon (US)
Performance
Topspeed 305 km/h
Acceleration 0 -100 km/h 3.6 Sec
Acceleration 0 -200 km/h 12.8 Sec
Braking 100 – 0 km/h 33.7 m
Warranty
Warranty 5 years Unlimited Mileage
Maintenance Package 5 years or 75,000 Kilometers
Emissions Euro 6 – LEV 2