นายมานัต กุละปาลานนท์ กรรมการผู้จัดการ วี.เอ็ม. ออโต้ เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมจากต่างประเทศ ประกาศศักยภาพความพร้อมด้วยการส่งมอบรถ SUV อเนกประสงค์สุดหรูรุ่นใหม่ล่าสุด “New Harrier 2014” ถึงมือลูกค้าก่อนใคร โดยบริษัทฯ ในฐานะซัพพลายเออร์นำเข้ารถยนต์หรูมากว่า 30 ปี และด้วยศักยภาพที่มีอยู่ทำให้พร้อมขยายสู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบยนตกรรมนำเข้าได้มีโอกาสสัมผัส และรับรถได้อย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดนำเข้ารถยนต์ SUV เอนกประสงค์สุดหรูใหม่ล่าสุด “New Harrier 2014” ที่เพิ่งเริ่มขายอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทมีรถพร้อมส่งทันที 20 คัน และยังสามารถทยอยส่งรถได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมอบโปรโมชั่นพิเศษสุดดอกเบี้ย 1.99% หรือรับฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี ซี่งถือว่าเป็นผู้จัดจำหน่ายที่สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ทันทีเป็นรายแรกของประเทศไทย สำหรับลูกค้าที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูม วี.เอ็ม.ออโต้ เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส ถนนรัชดาภิเษก หรือโทร. 02 911 0111

New Harrier 2014 SUV เอนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม
Harrier เจเนอเรชั่น 1: เปิดตัวในเดือนธันวาคมปี 1997 เป็นรถที่รวมประสิทธิภาพการทำงานของซีดานหรูที่ใช้งานได้ในทุกภูมิประเทศผนวกกับความพร้อมและการทำงานของรถเอนกประสงค์ (SUV) โดยใช้แพลตฟอร์มของ Camry รุ่นที่ 6 (แนะนำสู่ตลาดในเดือนธันวาคม 1996) Harrier ออกวางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือในฐานะรถเอนกประสงค์ในชื่อ เลกซัส( Lexus) RX เป็นคู่แข่งสำคัญกับ Mercedes-Benz ML และ BMW X5 แพลตฟอร์มของ Harrier เป็นหนึ่งในรุ่นของ Camry แต่ได้ยกระดับต่ำสุดของพื้นขึ้นเป็น 185 มม.และออกแบบสำหรับการใช้งานสำหรับถนนทุรกันดาร และถนนในเมือง
Harrier เน้นรูปแบบภายในให้ห้องโดยสารกว้างขวางและเปิดช่องทางให้เชื่อมต่อระหว่างที่นั่งด้านหน้าและหลัง ด้านเทคนิคเครื่องยนต์ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกันกับคัมรี่แต่เป็นการติดตั้งตามขวาง และเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ ด้วยขุมพลังตัวแรกคือเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 140 แรงม้า และเครื่องถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 160แรงม้า (2AZ-FE) ในเดือนพฤศจิกายน 2000 กับเครื่อง 3 ลิตร 220 แรงม้า V6 DOHC 24 วาล์ว Harrier นั้นใช้ระบบการตัวถังขึ้นรูป (Monocoque) ด้วยเหตุนี้บางครั้งอาจเรียกว่า รถครอสโอเวอร์ (CSUVs หรือ CUVs)
Harrier เจเนอเรชั่น 2: เข้าสู่ตลาดในประเทศญี่ปุ่นปี 2003 โดยมีการยกระดับแนวคิดให้มีความก้าวหน้าขึ้น ด้วยแนวคิดที่รถเอสยูวีต้องมีการตอบสนองต่อการขับออนโรดได้เหมือนกับรถซาลูนหรูหรา มีการเพิ่มศักยภาพในเรื่องของการขับขี่ที่สะดวก ง่าย และเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยมากมาย ในขณะที่ตัวเลือกของเครื่องยนต์นั้นมีให้เลือก 2 แบบ คือ เครื่อง วี6 3.0ลิตร (1MZ-FE) เครื่อง 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร (2AX-FE) แบบ 6 สูบรวมกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และแบบ 4 สูบขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อหน้า และ 4 ล้อแบบเรียลไทม์ Harrier เจเนอเรชั่นที่ 2 พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์มาสู่เครื่องยนต์ขนาด V6 และมีระบบกันสะเทือนแบบแอร์ซัพสเปนชั่น (Air suspension) ควบคุมด้วยอากาศและระบบอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้นในปี 2005 ได้แนะนำรุ่นเครื่องยนต์ ไฮบริด เข้าสู่ตลาดก่อนไมเนอร์เชนจ์ในเดือนมกราคม ปี 2006 โดยเครื่องยนต์ 3 ลิตรถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร (2GR - FE ) และเสริมเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรไฮบริดอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2009

Harrier เจเนอเรชั่น 3: ยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก New Harrier 2014 โฉมใหม่ (เจเนอเรชั่น 3) ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการในการใช้งานแบบครอบครัวควบคู่ไปกับคุณภาพ ที่เปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นพรีเมี่ยม SUV ด้วยการออกแบบให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ เมื่อปลายปี 2013 และวางตลาดญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2014 ที่ผ่านมา
Harrier เจเนอเรชั่น 3 หรือ New Harrier 2014 ยังได้รับการตกแต่งเป็นเวอร์ชั่นพิเศษจำนวน 2 รุ่น ด้วยอุปกรณ์ จาก TRD จัดแสดงในงาน Tokyo Auto Salon 2014 ในชื่อรุ่น “Harrier Sportivo Concept” และ “Harrier Modellista” ล้อแม็กซ์อัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว, สปอยเลอร์ทางด้านหลัง, ชุดแต่งโครเมียมและปิดท้ายด้วยช่วงล่าง ที่โหลดต่ำ Harrier 3 หรือ New Harrier 2014 ใหม่ล่าสุด สร้างสรรค์จากความท้าทายของการใช้งานยนตรกรรม SUV ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมอันทันสมัยและทรงสมรรถนะ สะดวกสบาย ความโดดเด่นของรถอยู่ที่การออกแบบและเอกลักษณ์ที่ปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่หมดตอกย้ำคอนเซ็ปต์พรีเมี่ยม
Harrier สะท้อนสุดยอดของการออกแบบผ่านกระจังหน้าแบบไดนามิคเพิ่มความรู้สึกสปอร์ตลงตัวด้วยเส้นนำสายตารอบคันตั้งแต่กระจังหน้าจรดท้ายให้ความรู้สึกปราดเปรียวลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านหลังแสดงให้เห็นความแข็งแกร่ง หากยังคงความหรูหราด้วยไฟ LED รอบคัน ความเป็นรถเอนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมแบบสปอร์ตด้วยเส้นบอดี้ไลน์ที่ลงตัว New Harrier 2014 ตอบสนองทุกความต้องการของทุกการเดินทางด้วยพื้นที่ภายในโอ่โถง และเต็มเปี่ยมด้วยพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระด้านหลังที่กว้างขวางสะดวกสบายโดย New Harrier 2014 ถือเป็นก้าวสำคัญของโมเดลที่มอบประสบการณ์หรูหราให้กับลูกค้าที่ต้องการรถเอนกประสงค์อย่างแท้จริง





New Harrier 2014 ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ และดีไซน์การออกแบบให้มีความหรูหรายกระดับเพิ่มความเป็นพรีเมี่ยมอย่างเห็นได้ชัด เอกลักษณ์โดดเด่นเพิ่มอารมณ์แห่งความเป็นสปอร์ตมากขึ้นกับกันชนดีไซน์ใหม่แบบ Dynamic Curve ทรงสปอร์ตเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกับตัวรถ มีช่องรับอากาศด้านล่างกันชนขนาดใหญ่ โคมไฟแนวเรียวยาว
New Harrier 2014 อีกระดับแห่งความภาคภูมิใจของผู้ครอบครอบยนตรกรรมหรูระดับพรีเมียมที่สามารถตอบสนอง ไลฟสไตล์ด้วยระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอุณหภูมิ และระบบนำทางเพียงปลายนิ้ว ทำให้การควบคุมระบบต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย พร้อมเพิ่มเทคโนโลยีแห่งความเป็น New Harrier 2014 ด้วยระบบช่วยจอด (Parking Assist System) กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด (Back Camera) จอแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด (Back Monitor) ฝาท้ายเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า ห้องโดยสารกว้างขวางพร้อมประโยชน์ใช้สอย การทำงานแบบ one-action โดยเมื่อพับเบาะที่นั่งด้านหลังเบาะจะเคลื่อนต่ำลงด้วยเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางสัมภาระ พวงมาลัยดีไซน์ใหม่เพื่อเพิ่มความสบายและผ่อนคลายในการขับขี่ และมาพร้อมกับระบบปรับเบาะและพวงมาลัยอัตโนมัติทำให้การขึ้น –ลงรถเป็นไปอย่างง่ายดายเพิ่มความสบายในการขับขี่ใหม่






New Harrier 2014 SUV สปอร์ตคันนี้พกพาสมรรถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC ขนาด 2,000 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุดมากถึง 151 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 193 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที และใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่เป็นมาตรฐานมาจากโรงงานและมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็น ออฟชั่นเสริมพิเศษ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT พร้อมตอบสนองทุกเส้นทางการขับขี่ทั้งรูปแบบถนนในเมืองและเส้นทางแบบออฟโรด

ข้อมูลเฉพาะ HARRIER PREMIUM
ระบบถ่ายทอดกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ CVT
มิติตัวถัง: ยาว 4,720 mm/กว้าง 1,835 mm/สูง 1,690 mm
ระยะฐานล้อ: 2,660 mm
จำนวนที่นั่งโดยสาร: 5 ที่นั่ง
ขนาดเครื่องยนต์: 2,000 ซีซี 151 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที
แรงบิด: 193 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน: 16 กิโลเมตรต่อลิตร (เฉลี่ย)